ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บทสัมภาษณ์เปิดใจชีวิตที่ทุกข์ทรมานของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ดยุ๊กและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ในฐานะพระราชวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์วินด์เซอร์ ได้กลายเป็น Talk of the Town ไปทั่วโลก เมื่อบทสัมภาษณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย กับการออกมาสัมภาษณ์ครั้งนี้

บทสัมภาษณ์เปิดใจการใช้ชีวิตที่ระทมทุกข์ภายในรั้วพระราชวังของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่า มีผู้ชมทั่วโลกเกือบ 50 ล้านคน ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทั้งในสหรัฐฯและอังกฤษ หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย

ในอังกฤษมีคนติดตามดูการสัมภาษณ์นี้กว่า 11 ล้านคน สำนักโพล์หลายสำนักต่างสำรวจความคิดเห็นโดยทันที ซึ่งพบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่ยังคงเห็นใจฝั่งราชวงศ์มากกว่าเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน

ผลสำรวจของยูกอฟ ที่จัดทำขึ้นในวันที่ 8 และ 9 มีนาคม ปรากฏว่า ชาวอังกฤษร้อยละ 36 ยังสนับสนุนราชวงศ์อังกฤษ ขณะที่ร้อยละ 22 สนับสนุนเจ้าชายแฮรี่และเมแกน ร้อยละ 28 ไม่สนับสนุนทั้งสองฝ่าย ขณะที่ร้อยละ 8 สนับสนุนทั้งสองฝ่าย

ส่วนผลสำรวจที่ว่า เจ้าชายแฮรี่และเมแกนได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมจากราชวงศ์หรือไม่ ปรากฏว่า ชาวอังกฤษที่เชื่อว่า ทั้งคู่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมเท่ากันอยู่ที่ร้อยละ 32

และเมื่อมาดูในรายละเอียดจำแนกตามอายุพบว่า ชาวอังกฤษที่อายุ 18 ถึง 24 ปีถึงร้อยละ 61 เชื่อว่า ทั้งคู่ไม่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมจากราชวงศ์ ส่วนผู้ที่อายุตั้งแต่ 65 ปีเป็นต้นไปจำนวนร้อยละ 50 เชื่อว่า ทั้งคู่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมแล้ว

แต่สำหรับชาวอเมริกัน อาจเรียกได้ว่า หนังคนละม้วนเลยก็ว่าได้ ชาวอเมริกันร้อยละ 44 เชื่อว่า การที่เจ้าชายแฮรี่และเมแกนออกมาให้สัมภาษณ์เป็นสิ่งที่เหมาะสม ขณะที่ชาวอังกฤษที่คิดว่า เหมาะสมมีเพียงร้อยละ 21

ส่วนประเด็นที่ดูเหมือนจะสั่นคลอนราชวงศ์อังกฤษมากที่สุดก็คือ เรื่องเหยียดผิวอาร์ชี่ ลูกชายของเจ้าชายแฮร์รี่ ทันที่ที่การออนแอร์บทสัมภาษณ์จบลง ประเด็นนี้ก็ถูกนำมาพาดหัวตามสื่อต่างๆแทบทุกฉบับ ขณะที่ หลายคนเฝ้ารอคอยปฏิกริยาทางฝั่งราชวงศ์

หลังจากบทสัมภาษณ์ที่ดูเหมือนเป็นการทิ้งระเบิดใส่พระราชวังบัคกิ้งแฮม, ตำหนักคลาเรนซ์ และพระราชวังเคนซิงตั้น ผ่านพ้นไป 36 ชั่วโมง พระราชวังบัคกิ้งแฮมก็ออกแถลงการณ์สั้นๆ 61 คำ ว่า จะนำเรื่องการเหยียดผิวกลับมาพิจารณาอย่างจริงจังเป็นการภายในราชวงศ์ และทิ้งท้ายว่า เจ้าชายแฮรี่ เมแกนและอาร์ชี่ จะยังเป็นที่รักยิ่งของครอบครัวตลอดไป

"ทั้งครอบครัวเสียใจที่ได้ทราบเรื่องราวว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนต้องเผชิญความลำบากเช่นไรในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา โดยเฉพาะเรื่องเชื้อชาตินั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล ถึงแม้ความทรงจำบางอย่างอาจแปรเปลี่ยนไปบ้าง แต่จะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และจะหารือกันภายในราชวงศ์ เจ้าชายแฮร์รี เมแกน และอาร์ชี จะยังคงที่รักยิ่งของสมาชิกในครอบครัว"

ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารไม่ตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนเจ้าชายวิลเลี่ยม ทรงตัดสินใจตอบสั้นๆว่า "พวกเราไม่ใช่ราชวงศ์เหยียดสีผิว"

ขณะที่ผู้สื่อข่าวด้านราชวงศ์เชื่อว่า เจ้าชายวิลเลี่ยม ซึ่งปกติแล้วจะค่อนข้างระวังที่สุดกับการตอบคำถามสื่อ ในครั้งนี้พระองค์ตัดสินใจแล้วว่า การที่ยังเงียบในเรื่องนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ล่าสุดเดอะซัน รายงานว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 ก็ทรงเห็นชอบและสนับสนุนกับการยืนยันของเจ้าชายวิลเลี่ยมที่ว่า "เราไม่ใช่ราชวงศ์เหยียดผิวที่สุดด้วย"