หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการจัดทำรัฐธรรมนูญ ออกมาเมื่อวานนี้ ก็ปรากฎว่ามีความเห็น และการตีความคำวินิจฉัยของศาลที่แตกต่างกันไปอย่างมีนัยยะที่สำคัญ โดยเฉพาะระบุถึงการให้ทำประชามติจากประชาชนก่อนและหลังร่าง วันนี้ก็มีความเห็นมาจากพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ส.ว.รวมถึงอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย 

ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า สิ่งที่แสดงความเห็นกันอยู่ขณะนี้ เป็นเพียงคำสรุปของคำวินิจฉัยเท่านั้น ยังไม่ใช่คำวินิจฉัยกลาง จึงขอให้ทุกคนรอคำวินิจฉัยกลางก่อน ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

นายจรัญ วิเคราะห์ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ดำเนินอยู่ขณะนี้ไม่ใช่การแก้ไขในความหมายปกติ แต่เป็นการแก้ไขเพื่อให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่รัฐสภามีอำนาจดำเนินการได้ แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่กำลังมีการแก้ไขอยู่นี้ก็มาจากการจัดทำประชามติของประชาชนแล้ว หากจะยกเลิกหรือยกร่างใหม่ก็ต้องขอความเห็นชอบจากประชาชนเสียก่อน ซึ่งศาลยังพูดต่อไปด้วยว่า เมื่อได้รับความเห็นชอบให้มีการร่างรัฐธรรมนูญแล้ว และ ส.ส.ร.ได้ร่างเสร็จแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะถูกใจประชาชนหรือไม่ จึงต้องทำประชามติอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ดังนั้นการร่างรัฐธรรมนูญใหม่มีหลักการที่จะต้องทำประชามติ 2 ครั้ง 

อดีตตุลาการฯ ยังมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ผ่านวาระ 1-2 มาแล้ว จะถือว่าเป็นโมฆะหรือไม่ นายจรัญเห็นว่า วาระ 1และ2 เป็นกระบวนการภายในของรัฐสภา การแก้ไขยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่เมื่อใดที่ปล่อยให้ผ่านวาระ3 ไปได้จะถือว่าไม่ถูกต้อง ดังนั้นควรต้องรอการลงมติวาระ3 ไว้ก่อนและใช้เวลาระหว่างนี้รีบทำประชามติตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ถ้าประชาชนมีมติว่าให้ทำได้ รัฐสภาก็เดินหน้าโหวตวาระ3ต่อไปได้ 

ขณะที่หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวันมูหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงท่าทีและแสดงความเห็นว่ารัฐสภาควรเดินหน้าต่อวาระ3 ต่อไปในวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ และเชื่อว่าจะต้องมีกลุ่มบุคคลที่เห็นต่างแต่ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ขอให้ประชาชนจับตาการลงมติโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระ3 เพราะเป็นการแก้ไขรายมาตรา ส่วนจะแก้ไขทั้งฉบับศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีคำวินิจฉัยชัดเจนอยู่แล้วคือการทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชน 

ล่าสุดนายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภาได้โพสในเฟชบุ๊คส่วนตัว ซึ่งส่วนที่มีความเห็นต่างจากคนอื่นคือนายคำนูญ เห็นว่า จากคำวินิจฉัยฉบับย่อต้องทำประชามติ 3 ครั้งหรือไม่ คือ 1 ก่อนเริ่มดำเนินการเสนอหรือพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 2 หลังร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมผ่านวาระ 3 และ 3 หลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จ 

ทั้งนี้ ยังทิ้งท้ายว่า ส่วนจะดำเนินการต่อไปอย่างไรในรายละเอียด เป็นเรื่องที่รัฐสภาจะต้องปรึกษาหารือกัน และรัฐสภาจะต้องเร่งดำเนินการผ่านร่างกฎหมายประชามติโดยเร็ว และหวังว่าคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญจะเผยแพร่ออกมาโดยเร็ว และจะตอบคำถามได้ครบถ้วนกระบวนความ