บรรยากาศที่ด้านหน้า ที่ทำการพรรค เอ็นแอลดี ในนครย่างกุ้งกันก่อน โดยในชาววันนี้ สถานการณ์ทุกอย่างยังคงเป็นไปอย่างสงบและเรียบร้อย หลังจาก เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา กองทัพเมียนมา ได้ส่งทหารเข้าไปตรวจค้น และทำการยึดทรัพย์สิน, เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีข้อมูลสำคัญต่าง ๆ และเอกสารสำคัญ เพื่อนำไปตรวจสอบ

ส่วนสถานการณ์ชุมนุมในวันนี้ เข้าสู่วันที่ 5 ยังมีประชาชนจำนวนมากออกมาชุมกันตามเมืองต่าง ๆ โดยที่นครย่างกุ้ง มีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งปักหลักประท้วง ที่ด้านหน้าสถานทูตญี่ปุ่น ในนครย่างกุ้ง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลต่างชาติออกมากดดันกองทัพ โดยผู้ชุมนุมพากันนั่งอยู่ในสระว่ายน้ำเป่าลม พร้อมกับถือป้ายและตะโกนเรียกร้องประชาธิปไตย

ขณะที่บรรยากาศตามท้องถนน มีผู้ชุมนุมจำนวนมากออกมาเดินขบวน อย่างเช่น นักกีฬาจากสโมสรเพาะกาย พร้อมใจกันถอดเสื้อ และถืออป้ายเดินไปตามท้องถนน เพื่อแสดงพลังต่อต้าน การก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมา และเรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัว นาง ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ โดยไม่สนคำเตือนของกองทัพ ที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่ละเมิดกฎอัยการศึก และคำสั่งห้ามรวมตัวในที่สาธารณะ

ส่วนที่เมืองมัณฑะเลย์ ชาวเมียนมาจำนวนหลายพันคนออกมาชุมนุมด้วยการขับรถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนนเป็นขบวนขนาดใหญ่ โดยไม่เกรงกลัวการเผชิญหน้ากับตำรวจ หลังจากเมื่อวานนี้ ตำรวจได้ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงในเมืองแห่งนี้ รวมถึงยิงกระสุนยางใส่ผู้ประท้วงเพื่อสลายการชุมนุม ในกรุงเนปิดอว์ จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้น มีหญิงวัย 19 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ขณะนี้เข้ารับการรักษาในห้องไอซียู

ด้านต่างชาติ เมื่อวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และองค์การสหประชาชาติ ออกมาแสดงความวิตกความกังวล เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่เมียนมา โดยนาย สเตฟาน ดูจาร์ริก (Stephane Dujarric) โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ได้อ่านแถลงการณ์ของนายโอล่า อัลม์เกรน (Ola Almgren) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเอ็น ที่เรียกร้องให้ทางการเมียนมาเคารพสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ในการชุมนุมและการแสดงออกอย่างสันติ พร้อมกับย้ำว่า การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ด้านสหรัฐอเมริกา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาแถลงประณามการใช้ความรุนแรงของทางการเมียนมากับกลุ่มผู้ชุมนุม