บ่วงอธิฏฐาน นักโบราณคดีชื่อดังของกรมศิลปกรอย่าง อธิน “กบ ทรงสิทธิ์” ได้ค้นพบ หลักฐานใหม่แห่งประวัติศาสตร์ คือ ศิลาจารึกของเมืองจันทะปุระ ซึ่งเป็นมหานครที่หายสาบสูญไปเป็นพัน ๆ ปี ที่ได้เหลือแต่ตำนานเล่าขานแห่งบึงแดง อธิน ตั้งใจจะเก็บหลักฐานสำคัญนี้ไว้เพื่อจะศึกษา เพราะมันเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ แห่งยุค แต่แล้วความตั้งใจของเขาก็ต้องจบลง เมื่อศิลาที่ถูกค้นพบนั้นกลับหายไป ซึ่งการหายไปของศิลาจารึกนั้น อธิน คิดว่าเป็นฝีมือของ กสินทร์ “อั๋น โอลิเวอร์” หนุ่มนักธุระกิจพันล้านและเป็นนักสะสมสมวัตถุของโบราณ ไม่ว่าจะเป็นการได้มาอย่างถูกกฏหมายและผิดกฎหมาย แต่ไม่ว่าจะได้มาด้วยอย่างไหน อธิน ก็คิดว่ากสินทร์ไม่มีสิทธิ์ที่จะสะสมของโบราณแม้แต่ชิ้นเดียว และการหายไปของศิลาจารึกนั้น อธินก็ได้สงสัยกสินทร์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิด อธิน จึงสืบหาข้อมูลแบบลับ ๆ อย่างเงียบ ๆ อธิน มีลูกสาวคนเดียวเธอชื่อ โยสิตา “แพทริเซีย” ซึ่งเธอก็อยากจะช่วยพ่อ ในการสืบหาความจริง จึงเอาเรื่องที่ศิลาจารึกที่หายไป มาเล่าให้ ปารมี หรือ ผักบุ้ง “อาย กมลเนตร” เพื่อนสาวที่สนิทของเธอฟัง ปารมี บอกว่าต้องสืบหาจากคนวงในที่เป็นพวกสะสมของเก่าโบราณ และ หนึ่งในนั้นคือ กสินทร์ เจ้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ ความหวังของโยสิตาที่จะได้เบาะแสจากปารมีเริ่มมีมากขึ้น โยสิตาได้พบกับ กฤตธร “หมาก ปริญ” หนึ่งในลูกชายคนโตของกสินทร์ อย่างบังเอิญ เมื่อเธอดันช่วยเก็บกระเป๋า เอกสารที่กฤตธรลืมเอาไว้บนหลังคารถ เพียงเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันครั้งแรก กตธรก็รู้สึกคุ้นเคยกับโยสิตาอย่างบอกไม่ถูก กฤตธรพยายามตอบแทนที่โยสิตาช่วยเหลือ และอยากที่จะรู้จักกับเธอให้มากขึ้น แต่โยสิตา ก็ไม่ได้ใส่ใจ จนกฤตธร รู้ว่า โยสิตาเป็นเพียงเพื่อนสนิทของ ปารมี พนักงานที่อยู่โรงแรมของเขานั้นเอง