'Thailand Space week 2024' 34 ประเทศส่งนวัตกรรมอวกาศร่วมโชว์ เชื่อมโยงเครือข่ายเทคโนโลยี

งาน Thailand Space Week 2024 จัดต่อเนื่องเป็นปี ที่ 3 เพื่อให้เป็นเวทีแสดงผลงานและนวัตกรรมด้านอวกาศที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยมีตัวแทนจาก 34 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีด้านอวกาศ ซึ่งจิสด้า ตั้งเป้าให้งานนี้ได้เชื่อมโยงเครือข่ายด้านเทคโนโลยีอวกาศจากทั่วโลก สร้างโอกาสทางธุรกิจและการใช้ประโยชน์ให้กับไทยและภูมิภาคอาเซียน



Thailand space week 2024 เริ่มแล้วอย่างเป็นทางการ โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้าท่ามกลางการตอบรับจากตัวแทนของ 34 ประเทศทั่วโลก ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีหน่วยงานด้านอวกาศกว่า 100 รายเข้าร่วมจัดแสดงผลงานนวัตกรรม เทคโนโลยี และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในระดับนานาชาติ



ซึ่งจิสด้าได้นำเครื่องมือด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาจัดแสดง เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าด้านกิจการอวกาศไทย โดยเฉพาะการสร้างดาวเทียม



ที่ตอนนี้ไทยเริ่มการพัฒนาดาวเทียมสำรวจโลกธีออส 3 แล้ว โดยต่อยอดองค์ความรู้ต่อเนื่องจากการร่วมสร้างดาวเทียมธีออส2 และ 2 เอ กับวิศวกรต่างชาติ ทำให้ดาวเทียมดวงนี้มีต้นทุนต่ำลงและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการนำวัสดุมาประกอบสร้าง



ขณะที่ภาคเอกชนอย่างบริษัท ไทยคม ก็ระบุว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีอวกาศเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลภูมิสารสนเทศจากดาวเทียมเพื่อการสำรวจ ที่ทลายข้อจำกัดด้านพื้นที่ ทำให้เกิดรูปแบบบริการลักษณะนี้ขึ้นอย่างหลากหลาย เช่น การใช้ดาวเทียมตรวจวัดปริมาณคาร์บอนในป่า ที่มีความแม่นยำสูง



งานนี้มีตัวแทนจากหลากหลายชาติที่นำเทคโนโลยีอวกาศเข้ามาจัดแสดง โดยเฉพาะชาติในภูมิภาคเอเชียเช่น บริษัทกาแลคซีสเปซ จากจีน ก็นำเทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อการสื่อสารมานำเสนอ โดยปัจจุบันจีนมีนโยบายสนับสนุนกิจการอวกาศ เนื่องจากมองว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของประเทศ

ขณะที่ประเทศไทยก็มีศักยภาพการเป็นฐานด้านระบบนิเวศอวกาศของอาเซียนได้เช่นกัน



จุดเด่นของงาน Thailand Space Week ปีนี้มี Plenary Stage นำเสนอหัวข้อที่สำคัญของระบบนิเวศอวกาศ Space Leaders Forum, Unveiling Asean Space Ecosystems, การใช้เทคโนโลยีอวกาศรับมือกับความท้าทายที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน, Financing the Future กับโอกาสในอุตสาหกรรมอวกาศ



ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ระบุว่า จากการสนับสนุนด้านแผนแม่บทอวกาศแห่งชาติ ปี 2566 - 2580 จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เป็น New S Curve ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมอวกาศไทยเติบโต จนเกิดเงินหมุนเวียนหลัก 10,000 ล้านบาท



ล่าสุดร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ ฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ภายในปี 2568 โดยตอนนี้ประเทศไทยมีความพร้อมด้านบุคลากรและระบบนิเวศอวกาศไว้รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้แล้ว เพื่อความพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางด้านอวกาศของภูมิภาคอาเซียน