ข่าวโซเชียล

คนไทยไม่ได้เห็น! ‘ขยะอวกาศ’ น้ำหนักครึ่งตัน ตกลงยังพื้นโลก เคลื่อนผ่านไทยไปแล้ว เริ่มเผาไหม้ในยุโรป

โดย thichaphat_d

9 มี.ค. 2567

172 views

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก สมาคมดาราศาสตร์ไทย โพสต์ระบุเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2567 ระบุว่า

“เที่ยงคืนวันนี้ (00.00-00.30 น.) หากมีลูกไฟสว่างไสวเคลื่อนไปช้าๆ จากฟ้าตะวันตกยังตะวันออก ให้สันนิษฐานว่าเป็นขยะอวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) น้ำหนักครึ่งตันตกลงมา


โดยคาดว่า วิถีโคจร (ไม่ใช่จุดตก) ของขยะอวกาศขนาดครึ่งตัน จากสถานีอวกาศนานาชาตินี้ ขณะเคลื่อนผ่านน่านฟ้าไทยคืนนี้ 00.04-00.13 น. โดยขยะอวกาศชิ้นนี้ คาดว่าจะเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศไม่หมด และจะตกลงยังพื้นโลก

จากนั้นความเคลื่อนไหวช่วงเวลา 00.26 น. (9 มี.ค.67) ขยะอวกาศ EP-9 ยังคงอยู่ในวงโคจร และยังไม่เผาไหม้ในบรรยากาศโลก ทำให้คนไทยไม่ได้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าว


ล่าสุดเมื่อเวลา 01.39 น. (9 มี.ค.67) เมื่อสักครู่มีรายงานว่า ขยะอวกาศ เริ่มเผาไหม้สุกใสเหนือฟ้าเนเธอร์แลนด์แล้ว



สำหรับขยะอวกาศ ข้อมูลจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ได้อธิบายว่า ปัจจุบันมีการส่งดาวเทียมและยานอวกาศจากนานาประเทศทั่วโลก เพื่อประโยชน์ทั้งทางด้านการสำรวจทรัพยากร การศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ของโลก การติดต่อสื่อสารทางไกล ไปจนถึงด้านความมั่นคงของชาติหรือทางการทหาร

ทำให้ภายในปี ค.ศ.2022 มีดาวเทียมที่ยังคงปฏิบัติภารกิจและโคจรอยู่รอบโลกมากกว่า 5,000 ดวง และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดมากขึ้นในทุก ๆ วัน นักวิทยาศาสตร์คาดว่า ภายในปี ค.ศ.2030 จะมีดาวเทียมโคจรอยู่รอบโลกมากถึง 60,000 ดวง


อย่างไรก็ดีตาม แม้จำนวนดาวเทียมที่มากขึ้น อาจสื่อถึงความเจริญทางเทคโนโลยีก็จริง แต่ปัญหาใหญ่ที่กำลังจะตามมาในไม่ช้าก็คือ “ขยะอวกาศ” ที่เกิดจากดาวเทียมที่หมดอายุการใช้งานไปแล้ว ซึ่งดาวเทียม 1 ดวงไม่ได้กลายเป็นขยะอวกาศแค่ 1 ชิ้น

หากปล่อยทิ้งไว้ในวงโคจรรอบโลก มันมีโอกาสที่จะถูกชนเข้ากับวัตถุขนาดเล็กในอวกาศอื่น ๆ รวมไปถึงชนกันเองกับดาวเทียมดวงอื่น ๆ ทำให้จากขยะเพียงชิ้นเดียว ก็กลายเป็นกลุ่มฝูงขยะจำนวนนับไม่ถ้วนที่โคจรอยู่รอบโลกต่อไป

และทำให้ยิ่งเพิ่มโอกาสในการไปชนเข้ากับดาวเทียมดวงอื่น ๆ มากขึ้นไปอีก โดยจากการประเมินในปัจจุบันนี้ นักวิทยาศาสตร์คาดว่าน่าจะมีขยะอวกาศที่ไม่สามารถติดตามได้มากถึง 100 ล้านล้านชิ้นอยู่รอบโลก และจะยิ่งทวีคูณเพิ่มมากยิ่งขึ้นหากยังไม่มีการกำหนดแนวทางการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ


ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการพยายามผลักดันให้เกิดสนธิสัญญาในการควบคุมดาวเทียม เพื่อลดจำนวนขยะอวกาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นเดียวกับสนธิสัญญาเพื่อปกป้อง High Seas หรือน่านน้ำสากล ที่กว่า 170 ประเทศจากทั่วโลกพร้อมใจกันหาข้อตกลงร่วมกันและลงมือปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดการรุกล้ำทรัพยากรธรรมชาติโดยปราศจากการควบคุม

คุณอาจสนใจ

Related News