ข่าวโซเชียล

ทวงความยุติธรรม! สาวโดนแฟนเมาทำร้ายทั่วร่างเป็น 10 ครั้ง คราวนี้ไม่ขอทนลุยเอาผิด

โดย JitrarutP

18 พ.ค. 2565

428 views

เตือนสติผู้หญิงทุกคน สาวโพสต์แชร์เรื่องราว โดนแฟนทำร้ายทั่วร่างกาย แผลช้ำหัวจรดเท้า เพราะอีกฝ่ายเมาค้างหาเรื่องทะเลาะเป็น 10 ครั้ง เกินจะทน ลุยดำเนินคดีทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง



จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "วาวาไง กำลังพิมพ์" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เรื่องมีอยู่ว่าโดนทำร้ายร่างกายโดยคนเมามาเมื่อวันที่7 พฤษภาคม (นี่ไม่ใช่ครั้งแรก) แต่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่โพสต์ โพสต์เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตัวเอง และสังคม คงจะมีอีกมากมาย ที่ไม่ได้แชร์ประสบการณ์ครั้งนี้แบบฉัน จะไม่เอ่ยชื่อนะคะ ว่าเป็นใคร ให้ปล่อยเป็นเรื่องของคดีความ แต่เพื่งไปแจ้งความเมื่อเช้า เพราะทั้งตัวเละมากออกไปไหนไม่ได้เลย



ฝากเตือนสติผู้หญิงหลายๆ คน มีแฟน หรือแฟนเก่า จะเลิกกันด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายร่างกายเขา ผู้หญิง มีพ่อ มีแม่ อีกอย่าง สู้แรงผู้ชายไม่ได้อยู่แล้ว ขอให้เคสฉันเป็นเคสสุดท้ายที่เธอจะทำ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีการลดหย่อนใดๆ ทั้งสิ้น กับผู้ชายคนนี้ ตอนนี้มาตรวจร่างกายเพื่อใช้ในการดำเนินคดี ประสบการณ์ชีวิต บทเรียนราคาแพง



เช้านี้ตำตรวจมารับที่ห้องเลย ขอบคุณมากๆ ค่ะ ที่ให้ความร่วมมือ รับใช้ประชาชน กราบ เรื่องนี้คงจะเป็นอุทาหรณ์ให้ใครๆ ได้อีกหลายคน ฝากแชร์ด้วยนะคะ



รวมทั้งมีการโพสต์รูปภาพที่สภาพร่างกายได้รับบาดเจ็บอย่างหนักตั้งแต่ใบหน้าที่มีร่องรอยถูกทำร้ายทั้งตา คิวปาก จมูก คาง ลำตัวแขนขา และทั่วร่างกายมีสภาพบากแผลถลอก และฟกช้ำดำเขียวทั่วร่างกาย จึงได้โพสต์ข้อความและภาพเพื่อต้องการทวงความยุติธรรม และวอนให้สังคมออนไลน์ช่วยเป็นพยาน และเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนสติคนที่มีชีวิตคู่ที่มีความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ได้มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีอดีตแฟนหนุ่มกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว



ทั้งนี้มีรายงานว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นแฟนหนุ่มนั้นทำงานอาชีพบาร์โฮสต์ และเคยคบหาเป็นแฟนกันก่อนหน้านั้นช่วงเวลาประมาณ 7 เดือน ก่อนที่จะเลิกลาแล้วกลับมาคบกับอีกครั้งเมื่อประมาณเดือน ต.ค.64 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแฟนหนุ่มเมื่อมีอาการเมาหรือเมาค้างก็มักจะหาเรื่องทะเลาะและมีการทำร้ายร่างกายตนมากกว่า 10 ครั้งที่ผ่านมายอมทนเพราะรักแต่ล่าสุดทนไม่ไหวแล้วเพราะทำตนเองบาดเจ็บหนักกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News