Save คนสูงเนิน ทวงความยุติธรรม 'เงินคนตาย' ต้องไม่ถูกโกง ศ.ดำรงค์ธรรม ให้เวลาถึง 3 ก.ย.นี้

สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์การเกษตรสูงเนินโคราช ลุกฮือหลังถูกโกงเงิน ขณะที่คณะกรรมการฯ ยังไม่มีแนวทางแก้ไขเยียวยา อ้าง จนท.เชิดเงินหนีหลายล้านบาท นัดชี้แจ้ง 3 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่หอประชุมอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์การเกษตรสูงเนิน กว่า 2,000 คน เดินทางมาเข้ารับฟังการชี้แจงของคณะกรรมการฯ หลังจากทางสมาคมฯ ไม่ได้มีการจ่ายเงินฌาปนกิจให้กับสมาชิก และมีสมาชิกบางรายที่ได้รับเงินแล้วบางส่วน อีกทั้งยังมีเรื่องเจ้าหน้าที่บัญชีรายหนึ่งโกงเงินของสมาคมฯ ไปกว่า 3 ล้านบาท

ซึ่งได้มีการชุมนุมประท้วงเรียกร้องไปแล้วเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา และหลังจากเกิดปัญหาการฉ้อโกง ทำให้สมาชิกของสมาคมฯ ที่มีอยู่ 7,000 คน บางส่วนเกิดความไม่มั่นใจจึงไม่อยากส่งเงินฌาปนกิจให้กับสมาคมฯ จึงเหลือสมาชิกปัจจุบันอยู่ 4,000-5,000 คนเท่านั้น

โดยวันนี้ ทางสมาคมฯ มีเพียงนายวิลัย ฉาบสูงเนิน นายกสมาคมฯ นายประทีป เดชสูงเนิน เลขนุการฯ ออกมาชี้แจงสมาชิก ว่าสมาคมฯ ไม่มีเงินจ่ายฌาปนกิจฯ ให้กับสมาชิกเพราะมีสมาชิกบางรายที่จ่ายเงินไม่ครบ และเงินที่จะเอาไว้จ่ายให้กับสมาชิกได้ถูกเจ้าหน้าที่ทำบัญชีโกงเงินไปกว่า 3.8 ล้านบาท

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแล้วและคดีกำลังอยู่ในชั้นศาล จึงทำให้สมาคมฯ ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับสมาชิกได้ ปัจจุบันสมาคมฯ มีเงินเหลือในบัญชี 7 หมื่นกว่าบาท ทางออกคือ ยุบสมาคมฯ หรือให้สมาชิกโอนย้ายไปอยู่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์สีคิ้ว แทน

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ไม่สามารถตอบได้ว่ามียอดเงินคงค้างที่ยังไม่ได้จ่ายให้กับสมาชิกฯ เหลืออีกเท่าไหร่ และปัจจุบันมียอดสมาชิกอยู่เท่าไหร่ แต่คาดการณ์ว่า น่าจะมียอดเงินคงค้างที่ยังไม่ได้จ่ายให้กับสมาชิกนับล้านบาท รวมทั้งการตอบคำถามที่ไม่ชัดเจน


ด้าน นายปรัชญา มันตาพร ปลัดอำเภอสูงเนิน กล่าวว่ามติที่ประชุมวันนี้เป็นการชี้แจงว่าสมาคมฯจะประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในเร็วๆ นี้ โดยรองอัยการจังหวัดและผมจะเข้าร่วมประชุมด้วย และในวันที่ 3 กันยายนนี้ นัดสมาชิกฯ รับฟังคำชี้แจ้งที่ห้องประชุมอำเภอสูงเนิน เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป


ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ไม่ได้จัดการประชุมใหญ่เลยพอเกิดปัญหาก็ไม่ชี้แจง และวันนี้สมาคมก็ทําข้อมูลไม่ชัดเจนทั้งงบดุลรายรับ รายจ่าย บัญชีที่คงค้างของชาวบ้านที่ยังไม่จ่ายเงินก็มาเป็นข้ออ้างว่าชาวบ้านไม่จ่ายเงินหมุนเวียนในการจ่ายค่าส่งได้ ซึ่งที่ผ่านมาปี 2566 มีรายได้ประมาณ 4 ล้านบาท เงินหายไปไหน ไม่มีการชี้แจ้ง หรือวาระการประชุมประจำปี วาระการเปลี่ยนคณะกรรมการฯ

“ตนในฐานะฝ่ายปกครองจะดูแลความเรียบร้อนและให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด”ปลัดอำเภอสูงเนิน กล่าว

นายกิตติเมศร์ ถิระภิรมย์ไชย อัยการจังหวัดผู้ช่วย สำนักงานอัยการจังหวัดสีคิ้ว กล่าวว่าในการนัดหมายชี้แจ้ง 3 กย.นี้ ถ้าไม่จบก็ต้องใช้สิทธิทางศาลกระบวนการยุติธรรม  แต่ผมและทางปลัดคาดหวังว่าวันที่ 3 กย.นี้น่าจะได้ข้อสรุปที่พี่น้องประชาชนพอใจ ส่วนเรื่องตามเม็ดเงินกลับคืนมาได้ไหมนั้น อันนี้ยังตอบไม่ได้ เนื่องจากว่าชาวบ้านไม่รู้รายละเอียดรายรับรายจ่าย ใครเป็นหนี้เป็นสิ้นของของสมาคม ซึ่งต้องรอการชี้แจ้งในวันที่ 3 ก.ย.นี้

ส่วนเรื่องบทบาทของตัวสมาคมฯ เป็นนิติบุคคลประเภทหนึ่ง ตัวสหกรณ์ฯ เป็นนิติบุคคลประเภทหนึ่ง แยกสาขาจากกัน แม้ว่ามีคณะกรรมการบางคนเป็นกรรมการในแต่ละนิติบุคคลนั้นคือ มันเป็นนิติบุคคลแยกกัน อันนี้ในส่วนของกฎหมาย แต่ส่วนความเข้าใจของสมาชิกว่าการเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรสูงเนินก็เลยไปเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์การเกษตรสูงเนิน ตามเงื่อนไขการเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจฯ เหมือนเป็นสวัสดิการจึงมั่นใจแห่สมัครเป็นสมาชิกฯ 7,000 คนมา 30 ปี อันนี้เป็นความผิดพลาดของคณะกรรมการฯ ไม่ชี้แจ้งสมาชิกฯ จนเกิดปัญหาดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.พุทธรักษ์ อารยะรังษี  กล่าวว่าเนื่องจากสมาคมฯ ตั้งอยู่ในถิ่นของสหกรณ์การเกษตรสูงเนิน วันนี้พอเกิดปัญหามีหนังสือแจ้งความให้สมาคมฯ ย้ายออกภายในวันที่ 31 สค.นี้ ดูเหมือนเป็นการตัดตอนความรับผิดชอบ สมาคมฯบอกว่าถ้ายุบไป ก็ให้ไปอยู่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์สีคิ้ว นี้ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่ปัญหา คือ เกิดการทุจริตในคณะกรรมการทั้ง 13 คน ที่จะต้องรับผิดชอบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ในการสั่งจ่ายเงินต่างๆ ที่เกิดการสูญหายตรงนี้ ชาวบ้านต้องการความชัดเจน


“วันนี้ กระทรวงพม.ผู้ว่าฯ จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สมาคมฯ สหกรณ์การเกษตรสูงเนิน ต้องมาร่วมบูรณาการ โดยทางรัฐนั้นเป็นผู้ซัพพอร์ต ในเรื่องต่างๆ ส่งตัวแทนมาสังเกตการณ์ แก้ไขปัญหาเรื่องการเงิน ตรงนี้ให้ได้ชัดเจน เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นของประชาชนคืนมา จะให้สมาคมฯมาแก้ไขกับปัญหาพี่น้องมันก็เหมือนเดิมมากี่ครั้งก็เหมือนเดิม ความทุกข์ยากของพี่น้องเดินทางมาแต่ละครั้ง มันไม่ใช่เรื่องง่าย คือ 1.อยากให้รัฐเข้ามาบรูณาการ ร่วมกับตัวแทนสมาชิกฯ กลุ่มละ 5-6 คน เพื่อเป็นตัวแทนแจ้งความดำเนินคดีต่อดีเอสไอ เนื่องจากสมาชิกผู้เสียหายมีจํานวนมากถึง 7,000 คน  2.คาดว่าผู้กระทําความผิดเป็นผู้มีอิทธิพล 3.จํานวนวงเงินในการเสียหายครั้งนี้เป็นจํานวนมาก เรียกร้องให้ดีเอสไอ มาร่วมรับผิดชอบในคดีนี้ เพื่อเอาผู้กระทําความผิด กระชากหน้ากากผู้อยู่เบื้องหลังเอามาลงโทษให้ถึงที่สุด”


ด้านนายนิคม  ชาสูงเนิน ชาวบ้านรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่าครอบครัวส่งเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ โดยตลอด ไม่มีขาดตกบกพร่อง จนเมื่อไม่นานมานี้ พ่อของตนได้เสียชีวิตลง แต่ทางสมาคมฯ กลับจ่ายเงินค่าฌาปนกิจฯ มาเพียง 50,000 บาทเท่านั้น จากยอดเต็มที่ควรจะได้ประมาณ 150,000 บาท ซึ่งตนได้ทวงถามอยู่เรื่อยมา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากทางสมาคมฯ จนกระทั่ง เริ่มมีสมาชิกหลายรายได้เงินบางส่วน และบางรายไม่ได้เงินค่าฌาปนกิจเลยแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่บัญชีที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ นำเงินของสมาคมฯ ไปประมาณ 3.8 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

“การกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ ตนเชื่อว่าน่าจะมีผู้สมรู้ร่วมคิด จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมตรวจสอบการดำเนินการ รวมไปถึงการทุจริตของเจ้าหน้าที่สมาคมในครั้งนี้ด้วย อยากให้ทางสมาคมฯ ชี้แจงรายละเอียดด้านการเงินและวิธีการดำเนินงานของสมาคมฯ ให้สมาชิกได้เข้าใจทุกขั้นตอน ที่สำคัญคือ อยากให้สมาคมฯ หาเงินมาจ่ายให้กับสมาชิกที่ยังคงค้างอยู่ รวมทั้งสมาชิกที่ยังได้รับเงินแม้แต่บาทเดียวด้วย”นายนิคม กล่าว

ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมชี้แจงในครั้งนี้ ค่อนข้างที่จะตึงเครียด เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ รู้สึกไม่พอใจกับการบริหารงานของคณะกรรมการชุดนี้ อีกทั้งการชี้แจงของคณะกรรมการฯ ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดที่กระจ่างชัด และตอบคำถามของสมาชิกไม่ได้ จึงทำให้ผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการประชุมชี้แจงฯ ไม่พอใจตะโกนโห่ตลอดเวลา พร้อมกับถือป้ายประท้วง โดยมีข้อความระบุว่า “โกงคนตาย มันไม่ใช่คนอยู่หรือเปล่า ฉีกหน้ากากออกมา” และป้าย “ถูกหลอกหากินกับคนตาย เงินไปอยู่ที่ไหน“ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มีการชี้แจงของทางคณะกรรมการฯ ก็มีประชาชนลุกขึ้นมาถามคำถามอยู่ตลอดเวลาถึงขั้นตอนการบริหารงาน แต่คณะกรรมการฯ ที่มาชี้แจง ก็ไม่สามารถตอบได้ ทั้งยังไม่ได้นำเอกสารเกี่ยวกับบัญชีการเงินรายรับ-รายจ่ายของสมาคมฯ มาชี้แจงแต่อย่างใด