แม่ร้อง ลูกถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง ใช้ดินสอทิ่มมือจนเป็นรอย ตาบวมปูด

แม่ร้อง ลูกถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง ใช้ดินสอทิ่มมือจนเป็นรอย ตาบวมปูด โวยลูกโดนแกล้งประจำ

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ปกครองรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก ภาพของลูกชายที่ถูกเพื่อนใช้ดินสอทิ่มมือจนเป็นรอย อีกทั้งใต้ตายังมีอากรบวมปูด โดยระบุว่า “ลูกกูโดนดินสอเเทงขนาดนี้  อืมมันเป็นโรคอะไรวะกะลูกกูเนี่ย โดนเเกล้งตลอด”

หลังจากโพสต์นี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความเป็นห่วง อีกทั้งยังตำหนิว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไป และยังถามว่าครูไปไหน ทำไมไม่ดูแลนักเรียน จึงแนะนำให้ผู้ปกครองแจ้งโรงเรียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ครูผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้เข้ามาคอมเมนต์ระบุว่า “ในฐานะที่เป็นครูประจำชั้นของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) นะคะ ขอพูดเหตุการณ์สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ตอนน้องถูกกระทำครูนั่งตรวจการบ้านอยู่หน้าชั้นเรียน แล้วน้องเอนั่งข้างกับเด็กที่กระทำซึ่งไม่ห่างจากครูเลยค่ะ แต่ในขณะที่ครูก้มตรวจอยู่นั้นไม่ได้ยินเสียงน้องเอแม้แต่แอะเดียว ในขณะที่ถูกกระทำจนเด็กข้างๆ เรียกแล้วครูหันไปดูก็เห็นน้องร้องไห้จึงเรียกมาถามทั้งคู่

ได้การณ์ว่าจากน้องเอและเพื่อนๆ ว่า น้องเอไปบอกเพื่อนอีกคนว่าน้องที่กระทำชอบเพื่อนอีกคน ส่วนน้องที่กระทำประมานว่าโมโหที่เพื่อนเอาไปพูดก็เลยเกิดการใช้ดินสอทิ่ม พอคุณครูรู้ไม่ได้นิ่งเฉย ครู 5 คนเดินเข้ามาดูน้องพาไปทำแผลที่ห้องพยาบาลถามตลอดว่าปวดไหม แม้กระทั่งเด็กจะกลับบ้านครูยังเอามือของต้นข้าวมาดูแล้วพูดประโยคที่บอกว่าปวดไหมลูกเพราะอากาศที่บ้านมันหนาวเย็นเพราะครูรู้ว่ามันต้องปวด กลับบ้านไปกินยาพาราอีกนะลูก

ครูไม่เคยอยากให้เกิดขึ้นแล้วคุณครูได้ลงโทษเด็กคนที่กระทำไปแล้วแล้วได้ว่ากล่าวตักเตือนเด็กที่กระทำไปแล้ว ในฐานะที่เป็นครูประจำชั้นของน้องทั้ง 2 ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนเรื่องที่หางตาอันนี้ตอนอยู่ รร.ไม่มีบวมดังในรูป แล้วตอนเย็นครูจะไปหาที่บ้านเพราะเยี่ยมบ้านแต่น้องไม่อยู่ปั่นจักยานออกไปเล่นข้างนอกแล้ว

ครูก็ไปเยี่ยมบ้านอีกหลายหลังจนไปที่บ้านน้องที่ถูกกระทำนั่งสอบถามพูดคุยกันสักพักก็มีน้องเอกับผู้ปกครองขับมอเตอร์ไซค์ไปที่บ้านน้องที่กระทำพอดีแล้วได้พุดคุยตักเตือนกันแล้วเมื่อตอนเย็น ทุกคนไม่เห็นด้วยกับการกระทำในครั้งนี้ เราเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย ทางเราไม่ได้นิ่งเฉยได้พูดคุยกับผู้ปกครองที่กระทำน้องแล้ว ได้ตักเตือนไปแล้ว โปรดเข้าใจและเห็นใจเราด้วยนะคะ”

นอกจากนี้ยังได้คอมเมนต์รูปภาพเพิ่มเติม พร้อมระบุว่า “นี่คือสิ่งที่คุณครูเห็นแล้วได้สอบถามตามความเป็นจริง”