สังคม

ลูกแจ้งความ 'ดิไอคอน' ทำพ่อหลงเชื่อหมดตัว จบชีวิตตัวเองในวัด - แม่จูงลูกออทิสติกแจ้งความ ถูกหลอกลงทุน 2 แสน

โดย passamon_a

20 ต.ค. 2567

408 views

ลูกชายหอบหลักฐาน แจ้งความดิไอคอน ทำพ่อหลงเชื่อจนหมดตัว ก่อนจบชีวิตตัวเองในวัด - แม่จูงมือลูกสาวป่วยออทิสติก แจ้งความตกเป็นเหยื่อดิไอคอน ถูกหลอกลงทุน 2 แสนบาท   


จากกรณีผู้เสียหายจาก ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCON Group) บริษัทขายตรงที่กำลังอื้อฉาวอยู่ในขณะนี้ ซึ่งที่ จ.เชียงราย โดยที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ก็ได้มีญาติของหนึ่งในผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าว นำหลักฐานเดินทางมาพบ พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ เพื่อร้องทุกข์  


จากการสั่งการให้ทุก สภ. เปิดจุดรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีเกี่ยวกับดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งในส่วนของ สภ.บ้านดู่ ก็มีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความเรื่อย ๆ โดยมีทั้งคนที่วอล์คอินเข้ามาแจ้งความด้วยตนเอง จำนวน 7 เคส และคนที่แจ้งความผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 3 เคส รวมแล้วตอนนี้มีทั้งหมด 10 เคส มูลค่าความเสียหายประมาณ 4.2 ล้านบาท แต่ในภาพรวมทั้งจังหวัดตอนนี้มีผู้เสียหายรวม 62 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 18 ล้านบาท


ซึ่งยอดเสียหายสูงสุดก็อยู่ที่ สภ.บ้านดู่ เพราะมีผู้เสียหายรายหนึ่งสูญเงินไปในการลงทุนกับบริษัทดังกล่าวประมาณ 3.5 ล้านบาท และล่าสุดมีเคสที่เพิ่มมาแจ้งความ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เคสดังกล่าวครอบครัวต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะพ่อขายบ้านขายรถนำเงินไปลงทุนกับดิไอคอน จนครอบครัวแตกแยก ลูกไม่ได้เรียนต่อ ส่วนพ่อที่ไปลงทุนกับบริษัทดังกล่าว สุดท้ายเครียดหนัก และไปแขวนคอตายในวัดใกล้บ้าน


ด้าน นายพงษ์พันธ์ อายุ 23 ปี ซึ่งมาแจ้งความในคดีดังกล่าว เล่าว่า พ่อของตนซึ่งก็คือ นายธนพงษ์ชัยวัฒน อายุก่อนเสียชีวิต 56 ปี ได้นำเอาเงินเก็บไปลงทุนในธุรกิจดิไอคอน โดยมีภาพหลักฐานการไปร่วมทำกิจกรรม และยังมีภาพถ่ายคู่กับบอสพอลอีกด้วย ซึ่งหลังจากพ่อเข้าไปลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2560 ก็ได้มาชักชวนแม่ อา รวมถึงญาติพี่น้องคนอื่นให้ร่วมลงทุน และมีการลงทุนเพิ่มเรื่อย ๆ จากที่เคยมีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถยนต์ 3 คัน กลับกลายว่าทุกอย่างสูญไปกับการลงทุนของพ่อ


จนมาระยะหลังพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันเรื่องที่พ่อไปลงทุนดังกล่าว จนครอบครัวมีปัญหาการเงิน ตนและน้องสาวเลยไม่ได้เรียนต่อ สุดท้ายแม่ก็เลยขอหย่ากับพ่อ จากนั้นพ่อก็ไปอาศัยอยู่ที่วัดใกล้บ้าน ก่อนที่สุดท้ายจะคิดสั้นแขวนคอตายในวัด เมื่อช่วงเดือน เม.ย.63 หรือประมาณ 4 ปีกว่ามาแล้ว


ตอนนั้นตนยังเด็ก ไม่รู้ว่าพ่อไปทำธุรกิจอะไรจนนำมาสู่ปัญหาชีวิต และแม่ก็ไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง เพราะตอนนั้นแม่อยากให้พวกเราตั้งใจเรียนหนังสือ จนกระทั่งไม่นานมานี้มีการนำเสนอข่าวดิไอคอน ตนก็เลยจำได้ว่าเคยเห็นภาพของพ่อตอนไปร่วมกิจกรรม และมีภาพตอนพ่อถ่ายรูปร่วมกับบอสพอล ตนก็เลยคิดว่าการเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวอาจเป็นชนวนเหตุพาไปสู่ปัญหาชีวิต เพราะปัญหาอย่างอื่นคงไม่ทำให้พ่อคิดสั้นแบบนี้ ประกอบกับหลังจากมีข่าวดิไอคอน ทางอาของตนได้บอกตนว่าพ่อของตนเคยชักชวนอาให้เอาเงินไปลงทุนกับดิไอคอนเหมือนพ่อ ตนจึงรวบรวมหลักฐานมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว หลังจากนี้ตนจะไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และจะนำมาส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง และตั้งใจจะเดินหน้าดำเนินคดีกับบริษัทขายตรงดังกล่าวให้ถึงที่สุด


"ที่ผ่านมา ตนกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว แต่เพิ่งมาทราบว่าหากเราแจ้งความผ่านทางเจ้าหน้าที่ จะไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทางตนก็เลยรู้สึกดีใจมาก ๆ อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ดูแลแนะนำตนเป็นอย่างดี" นายพงษ์พันธ์ กล่าว


ส่วนที่พัทยา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจบรรยากาศการร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบว่าตั้งแต่เปิดรับแจ้ง จนล่าสุด ทางตำรวจได้รับคดีและสอบปากคำผู้เสียหายมากกว่า 20 รายแล้ว โดยหลังจากการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนส่งมอบให้ บช.ก. เพื่อไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.บี อายุ 61 ปี อาชีพแม่บ้าน หนึ่งในเหยื่อดิไอคอนกรุ๊ป ที่ได้จูงมือลูกสาวป่วยออทิสติก เข้าแจ้งความ ระบุว่า เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เธอได้เห็นในรายการหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง เป็นชีวิตของบอสพอลจากเด็กยากจนสู่เส้นทางมหาเศรษฐี ด้วยธุรกิจขายของออนไลน์ ภายในรายการมีการพูดถึงเรื่องเปิดรับสมัครคอร์สออนไลน์ 97 บาท สอนการขายออนไลน์ ด้วยความที่มีอายุมากและอยากมีธุรกิจส่วนตัว จึงโทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่ขึ้นโชว์ในรายการทีวี เพื่อคุยรายละเอียด หลังจากนั้นเธอก็โอนเงินสมัครเรียน ก่อนทางบริษัทจะส่งลิงค์เข้าอบรมผ่านระบบซูม เพราะว่าช่วงนั้นเป็นโควิด ไม่สามารถรวมตัวไปนั่งประชุมได้


โดยเธอระบุด้วยอีกว่า ภายในการสอนมีการเล่าเรื่องประวัติชีวิตของบอสแต่ละคนที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไร จนสู่ประสบความสำเร็จร่ำรวยด้วยธุรกิจขายของออนไลน์ จังหวะนั้นจึงเอาเงินเก็บจำนวนกว่า 200,000 บาท ไปลงทุนสมัครเป็นดีลเลอร์ เพื่อต้องการเงินปันผลค่าตอบแทนเอามาเลี้ยงลูกที่ป่วยเป็นออทิสติก ซึ่งแม่ทีมเหมือนรู้จุดอ่อนว่าลูกเธอป่วยออทิสติก ได้ออกอุบายพูดจาหว่านล้อม ว่าเงินปันผลที่ได้สามารถเลี้ยงลูกได้สบาย ซึ่งจะมีรายได้ตั้งแต่หลักหมื่น จนไปถึงหลักแสน


แต่พอหลังจากสมัครไปได้สินค้ามาเพื่อให้จำหน่าย แต่ก่อนที่จะจัดจำหน่ายตัวเธอได้เบิกของมาทดลองใช้ก่อนว่าสินค้ามันดีจริงหรือไม่ พอลองใช้แล้วสินค้ามันก็ไม่ดีอย่างที่โฆษณา เธอเองก็ไม่กล้าเอาไปขาย จึงติดต่อไปหาแม่ทีมเพื่อเอาของคืน ซึ่งเธอเองมองว่าเหมือนเป็นการหลอกลวง แต่ทางแม่ทีมบอกว่าไม่สามารถคืนของได้ มีวิธีเดียวคือหาลูกทีมมาสมัครหัวละ 2,500 บาท เพื่อกินเปอร์เซ็นต์จากการขายของลูกทีมเอา


หลังเหตุการณ์นี้เธอเคยคิดจะไปร้องเรียน แต่ด้วยเป็นผู้หญิงที่อายุมากที่ต้องเลี้ยงลูกป่วยออทิสติก คงจะไม่มีพลังไปสู้กับกลุ่มนายทุนเหล่านั้น กระทั่งบอสพอล และบรรดาบอสอื่น ๆ ตกเป็นข่าว ซึ่งส่วนตัวมองว่าเวรกรรมสมัยนี้มันติดจรวด และอยากจะฝากคำพูดถึงบอสพอล และพวกว่า พวกคุณไม่น่ามาสร้างความหวังให้คนอื่น ว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง แต่ที่จริงแล้วมันคือการหลอกลวง



https://youtu.be/L60Wvd5tx6w


แท็กที่เกี่ยวข้อง  ดิไอคอน ,แจ้งความดิไอคอน

คุณอาจสนใจ

Related News