สังคม

ผลตรวจ 5 รถบัสในเครือ ‘รถบัสมรณะ’ ซ่อนถังก๊าซ CNG พบประตูฉุกเฉินเปิดไม่ออก ผู้ชายถีบ ยังไม่สะเทือน

โดย petchpawee_k

5 ต.ค. 2567

433 views

โคราช ผลตรวจสภาพรถบัส 5 คันของชินบุตรทัวร์ พบทุกคันแอบติดตั้งถังก๊าซ CNG มากกว่าที่ขออนุญาตไว้ และบางคันพบร่องรอยการถอดถังก๊าซออก

จากกรณีที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาได้รับการประสานงานจากกรมการขนส่งให้ติดตามรถบัสนำเที่ยว 5 คันของบริษัทชินบุตรทัวร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของรถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ที่ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเหตุให้ครู และนักเรียนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก หลังตรวจสอบพบพิกัดจีพีเอสของรถบัสทั้ง 5 คัน ไปอยู่ที่อู่แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลโคกกรวด อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าเจ้าของได้มีการนำรถบัสไปทำการถอดถังก๊าซ CNG ออก ทางขนส่งฯ จึงได้ประสานงานไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาให้ไปทำการตรวจยึดรถบัสนำเที่ยวทั้ง 5 คัน และได้นำรถบัสทั้งหมดไปตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ โดยมีการเน้นไปที่จุดติดตั้งถังแก๊สและระบบประตูฉุกเฉิน เพื่อดูว่าทุกอย่างยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยจากการตรวจสอบพบความผิดปกติ คือ จำนวนถังก๊าซ CNG ของรถบัสทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับทางขนส่งนั้น ไม่ตรงกับข้อมูลที่ขอจดทะเบียนเอาไว้ โดยรถบัสทุกคันมีถังก๊าซ CNG บรรจุอยู่ภายในรถมากกว่าที่ขออนุญาตจดแจ้งไว้ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าพบมีร่องรอยการถอดถังออกแล้วบางส่วน รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนบางจุดในตัวรถเพื่อปกปิดจำนวนถังแก๊สที่เพิ่มเข้ามา และการตรวจสอบประตูฉุกเฉินของรถบางคัน พบว่าไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นข้อกังวลในการใช้งาน

จากการขอหลักฐานเพิ่มเติม พบว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งไม่มีการถ่ายภาพหรือบันทึกเอกสารประกอบการตรวจสภาพรถบัสไว้เป็นหลักฐาน มีเพียงใบรับรองการตรวจสภาพเท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการตรวจสภาพที่อาจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

ทั้งนี้ ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น กับเจ้าหน้าที่ขนส่งนครราชสีมา ยืนยันว่าทั้ง 5 คัน ที่ตรวจยึดได้ ทุกคันติดตั้งถังก๊าซคันละ 11 ถัง


ซึ่งหากไล่ดูทะเบียนรถ พบว่า 5 คัน ประกอบด้วย รถบัสทัศนศึกษา คันที่ 1 , รถบัสทัศนศึกษา คันที่3 ที่เดินทางร่วมกับคันที่เกิดไฟไหม้ และรถบัสของบริษัทอีก 3 คัน  รวมทั้งหมด 5 คัน ติดตั้งถังก๊าซ 11 ถัง ทุกคัน  ส่วนแต่ละคันจะติดตั้งเกินที่ขออนุญาตไว้เท่าไหร่ ต้องรอเทียบกับเอกสารการติดตั้งก่อน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี ไล่นำรถบัสทั้ง 5 คัน ของบริษัทชินบุตรทัวร์ มาตรวจสภาพรถอย่างละเอียดทุกคัน โดยการตรวจสอบจะไล่ดูที่ละคันเปิดดูทุกจุดเพื่อตรวจสอบว่ามีถัง CNG กี่ถัง และมีการซุกซ่อนไว้ในจุดใดบ้าง ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจดูแต่ละคัน พบว่า มีลักษณะคล้ายซุกซ่อนถังก๊าซที่ไม่ได้ขออนุญาต คือ 6 ถังที่แต่ละคันขออนุญาต จะอยู่ในตำแหน่งที่เห็นชัดเจน  แต่ถังไหนที่ไม่ได้ขออนุญาตจะมีข้าวของบังไว้ เช่น อยู่ใต้จุดเก็บยางอะไหล่ หรือ อยู่ใต้ที่นั่งชั้นล่าง ป้องกันไม่ให้พบเห็น

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสภาพรถบอกว่า การที่มีจำนวนถังก๊าซไม่ตรงกับที่จดทะเบียนไว้จะมีผลต่อน้ำหนักของรถ ซึ่งการที่บริษัทรถเพิ่มจำนวนถังก๊าซ แต่ไม่ยอมลดจำนวนที่นั่งโดยสารถือเป็นความผิด นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า รถบัสบางคันมีร่องรอยเพิ่งถอดถังก๊าซ CNG ออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาไปทำการตรวจยึดไว้ได้ก่อนดังกล่าว โดยผลการตรวจสภาพรถบัสทั้ง 5 คันของบรัษัทชินบุตรทัวร์ สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาได้รายงานให้อธิบดีกรมการขนส่งทางบกทราบแล้ว

นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ตอนนี้จะไล่ตรวจสอบสภาพรถ ณ ปัจจุบันก่อน เพื่อดูความเรียบร้อย และต้องรอข้อมูลการขอติดตั้งถัง ว่า ขออนุญาตติดตั้งเท่าไหร่ และติดตั้งจริงเท่าไหร่ ยืนยันว่า ใครมีส่วนได้เสีย เกี่ยวข้องอย่างไร พร้อมเอาผิดทั้งหมด ขอประชาชนอย่ากังวล เพราะหากไล่ดูเอกสารมีข้อมูลทั้งหมด

และหลังจากนี้ทาง ป.ป.ช. จะดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อหาว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดที่อาจเกี่ยวข้องกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้รถบัสที่ไม่ผ่านมาตรฐานวิ่งบนท้องถนน จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

นอกจากนี้สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรีได้มีการนำสีสเปรย์สีแดงมาพ่นหน้ากระจกรถเพื่อเป็นการสั่งห้ามใช้รถทั้ง 5 คัน จนกว่าจะมีการตรวจสอบหรือดำเนินการทุกอย่างเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อู่กังการช่าง ในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าทางเข้าอู่นั้นไม่มีการติดป้ายชื่ออู่ และอยู่ลึกจากถนนใหญ่เข้าไปในป่ารกร้าง ลักษณะโครงสร้างอู่ เป็นเหล็กมีหลังคายกสูง ภายในนั้นพบรถบัสจำนวน 2 คันถูกจอดทิ้งไว้ โดยไม่พบคนอยู่ในอู่แม้แต่คนเดียว นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าอู่พบถังก๊าซ CNG ถูกวางทิ้งไว้จำนวนทั้งหมด 6 ถัง จากการตรวจสอบเอกสารที่ติดอยู่บริเวณถังพบว่า 3 ใน 6 ถัง ระบุทะเบียนรถในเอกสารเอาไว้ว่า 30-0411 สิงห์บุรี ซึ่งตามเอกสารนั้นถูกระบุว่า นางปาณิสรา ชินบุตร เป็นเจ้าของรถ ซึ่งเป็น 1 ในรถทั้ง 5 คัน ที่มาลักลอบถอดถังก๊าซออกก่อนที่จะนำไปตรวจสภาพตามกำหนดการเดิมที่จังหวัดลพบุรี ส่วนอีก 3 ถังที่เหลือนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากรถคันใด เนื่องจากเอกสารถูกขูดทำลายทำให้ไม่เห็นรายละเอียดต่างๆ

นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังพบเศษเหล็กที่มีลักษณะเหมือนคานสำหรับเอาไว้ใช้ล็อคถังก๊าซและสายรัดถังก๊าซกระจัดกระจายอยู่ในบริเวณดังกล่าว ใกล้กันกับจุดที่ถังก๊าซได้ถูกวางทิ้งเอาไว้นั้นตรวจพบเบาะรถสีแดงลายดอกไม้ซึ่งมีลักษณะตรงกับ 1 ในรถทั้ง 5 คัน ใกล้กันยังพบเบาะรถอีก 1 คู่ที่ถูกถอดวางทิ้งไว้ซึ่งเปรียบเสมือนหลักฐานที่ยืนยันว่ารถทั้ง 5 คันนั้นมายังอู่แห่งนี้ ซึ่งด้านหลังของเบาะ 1 คู่ที่พบเจอนั้นมีข้อความด้านหลังที่ระบุว่า “ชินบุตรทัวร์” สันนิษฐานว่าเบาะที่พบนั้นเป็นเบาะบริเวณห้องโถงชั้นล่างของตัวรถทัวร์ ส่วนสาเหตุที่ถอดออกนั้นคงเป็นเพราะว่าต้องการที่จะนำถังก๊าซออกจากตัวรถ


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังเทศบาลตำบลโคกกรวดซึ่งรับผิดชอบพื้นที่บริเวณที่อู่รถตั้งอยู่เพื่อไปตรวจสอบการยื่นจดทะเบียนและการเสียภาษีว่าอู่ดังกล่าวนั้นได้มีการยื่นจดทะเบียนประกอบกิจการถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในระหว่างพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลก็ได้มีการพยายามติดต่อไปยังเจ้าของอู่แล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าของไม่อยู่ที่บ้าน ทางเทศบาลตำบลโคกกรวด จึงได้ค้นข้อมูลพบว่า อู่ดังกล่าว มีชื่อนายจีราวัฒน์ จารุรัตน์ธันญา เป็นเจ้าของ โดยไม่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นอู่แต่อย่างใด

นายสมบูรณ์ บัวบูชา รองนายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด เปิดเผยว่า อู่รถดังกล่าวนั้นได้มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างเมื่อปี 2556 และมายื่นขอบ้านเลขที่ในปี 2557 โดยขออนุญาตใช้เป็นโรงจอดรถมีการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประจำทุกปี ปีละ 1,160 บาท ในลักษณะบุคคลธรรมดา ไม่ได้เสียภาษีหรือยืนขอจดทะเบียนในการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พรบ.สาธารณสุข ซึ่งถือว่ามีความผิด หลังจากนี้คงต้องแจ้งไปยังเจ้าของอู่ให้มายื่นจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ด้านนายภัคพล ยิ้มดี นายช่างโยธาเทศบาลตำบลโคกกรวด เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ที่ใช้เป็นอู่รถนั้น ก่อนหน้าปี 2556 ที่จะมีการแจ้งขอจดทะเบียน ทางเทศบาลฯ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว และพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นได้ถูกเทปูน ตนจึงได้เข้าไปพร้อมกับแนะนำให้ทางเจ้าของอู่ไปยื่นขอจดทะเบียนให้ถูกต้องว่าต้องการจะก่อสร้างอะไร ซึ่งทางเจ้าของอู่ก็ให้ความร่วมมือโดยเขียนแบบมาแจ้งจดทะเบียนว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นจะใช้เป็นโรงจอดรถ ต่อมาตนก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจดูอยู่เป็นระยะๆ พบว่ามีรถทัวร์มาจอดทิ้งไว้เป็นประจำ ส่วนใหญ่เป็นรถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุมาจากที่อื่น เพื่อจอดพักไว้รอดำเนินการบางอย่าง และมีการรื้ออะไหล่ที่พังแล้วออก และนำรถออกจากอู่ไป ซึ่งจากการตรวจสอบอู่ดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการประกอบรถขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงการติดตั้งก๊าซรถยนต์ สำหรับกรณีที่เป็นข่าวนั้นตนก็เพิ่งมาทราบหลังจากเป็นข่าวไปแล้ว ว่าอู่ดังกล่าวนั้นรับรื้อถอนการติดตั้งถังก๊าซรถยนต์ด้วย


https://youtu.be/FdtUbszLZoc

แท็กที่เกี่ยวข้อง  รถบัสมรณะ ,ไฟไหม้รถบัส

คุณอาจสนใจ

Related News