ไทม์ไลน์ 'ไฟไหม้เยาวราช' คนหนีตายอลหม่าน กทม.ตั้งศูนย์ช่วยผู้ประสบภัย สำรวจความเสียหาย

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.67 เวลา 20.42 น. ศูนย์วิทยุพระรามเก้า รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ซอย 7 ถนนเยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ จึงประสานตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2, เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และกู้ภัย ไประงับเหตุ  


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน ปลูกติดกันหลายหลัง จุดที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นบ้านเลขที่ 12 เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า บริเวณดังกล่าวมีประปาหัวแดงเพียงหัวเดียว อีกทั้งยังเป็นซอยแคบ ที่รถน้ำไม่สามารถเข้าถึง และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาสาธารณภัยที่เข้าไประงับเหตุ ถูกไฟดูด 1 ราย หมดสติ และสำลักควันอีก 1 ราย เร่งนำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ มาตัดกระแสไฟ และเร่งนำรถน้ำเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ


โดยมีจุดที่รถน้ำสามารถเข้าไปได้ 3 ทิศทาง คือ หน้าชุมชนตรอกโพธิ์, ที่อาคารพาณิชย์ด้านหน้า และทางซอยเยาวราช 7 โดยเจ้าหน้าที่นำรถน้ำเข้าไปตรงแยกเฉลิมบุรี และเข้าทางวัดสัมพันธวงศ์ศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) เพื่อนำสายดับเพลิงต่อกับประปาหัวแดง ที่อยู่หน้าชุมชนตรอกโพธิ์ แล้วลากสายเดินเข้าไปฉีดน้ำ


เวลา 21.15 น. เพลิงยังคงลุกไหม้รุนแรง มีการประสานขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และกู้ภัย 11 สถานี รถดับเพลิง 25 คัน ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บ้านที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายเริ่มทรุดตัว เพราะถูกไฟเผาเป็นเวลานาน  


เวลา 21.21 น. มีการประสานขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย มาในที่เกิดเหตุ รวมเป็น 17 สถานี รถดับเพลิง 40 คัน และทีม USAR ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดยาว, ราษฎร์บูรณะ) เนื่องจากบริเวณชุมชนตรอกโพธิ์ ซึ่งเป็นจุดต้นเพลิง มีบ้านเรือนปลูกติดกันจำนวนมาก อยู่บริเวณด้านหลังโรงแรมนิวเอ็มไพร์ ไฟยังลามหนัก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำสกัด แต่มีอุปสรรคที่มีลมพัดแรง ทำให้ไฟลามไปติดอาคารโรงแรมนิวเอ็มไพร์และอาคารข้างเคียง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนที่อยู่ในโรงแรมนิวเอ็มไพร์ สูง 8 ชั้น ซึ่งมีแสงไฟและกลุ่มควันทั่วอาคาร และที่อาคารสยามรังนก ซึ่งสูง 6 ชั้น จุดนี้มีรายงานว่ามีผู้ติดค้างอยู่ที่บริเวณชั้น 6 จำนวน 2 ราย เป็นผู้สูงอายุ นอกจากนี้มีรายงานว่า ไฟลามไปยังอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ซึ่งเป็นร้านฮอทพอท-ติ่มซำ และมีการเก็บถังแก๊สไว้บนชั้น 5 ด้วย  


โดยเจ้าหน้าที่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า หากมีผู้ประสบภัยติดค้างในอาคาร หากได้ยินเสียงประกาศ ขอให้ออกมาที่หน้าต่าง ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือให้เด่นชัด เปิดไฟโทรศัพท์มือถือเป็นสัญญาณ เจ้าหน้าที่จะได้ขึ้นไปช่วยเหลือได้ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบทุก ๆ ห้องพัก ว่ามีใครติดค้างหรือไม่ ห้องไหนตรวจสอบแล้วก็จะเปิดหน้าต่างไว้ 2 บาน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ตรวจสอบห้องดังกล่าวแล้ว


เวลา 22.00 น. สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ใช้รถกระเช้าอพยพประชาชนในโรงแรมนิวเอ็มไพร์ออกมาหมดแล้ว และเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในอาคาร ไม่พบผู้ติดค้าง ส่วนผู้ที่ติดค้างอยู่ในอาคารสยามรังนก 2 ราย เจ้าหน้าที่นำรถกระเช้าขึ้นไปรับออกมาได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาเพิ่มเติมเผื่อจะมีผู้ติดค้าง


เวลา 22.14 น. มีรายงานว่า ยังเห็นแสงเพลิงที่บริเวณชั้น 5-6 ของโรงแรมนิวเอ็มไพร์ เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด ขณะที่โรงพยาบาลเทียนฟ้า ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขอรถพยาบาลสนับสนุนเคลื่อนย้ายผู้ป่วย 30 กว่าราย ออกจากโรงพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งช่วยเหลืออพยพผู้ป่วยไปยังวัดไตรมิตร


เวลา 22.28 น. เจ้าหน้าที่รายงานว่า สามารถสกัดเพลิงทางด้านฝั่งโรงแรมโพธิ์เพลสได้


และเวลา 22.30 น. บริเวณบ้านไม้ในชุมชน สามารถสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไว้ได้แล้ว เหลือเพียงอาคารพาณิชย์หลังชุมชน ที่ยังมีแสงเพลิงบริเวณชั้น 4-5 เจ้าหน้าที่ใช้รถกระเช้าขึ้นไปฉีดน้ำสกัด  


เวลา 23.01 น. อาคารพาณิชย์บริเวณด้านหน้าชุมชนยังคงมีแสงเพลิง และด้านหลังชุมชนฝั่งโรงแรมนิวเอ็มไพร์ กับอาคารตึกแถว 2 ชั้น ยังคงมีแสงเพลิงอยู่ แต่สามารถป้องกันเพลิงลุกลามอาคารข้างเคียงได้


จนกระทั่งเวลา 23.16 น. สามารถควบคุมเพลิงและป้องกันเพลิงลุกลามไว้ได้ทุกด้าน


พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เปิดเผยว่า อุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่ คือสถานที่เกิดเพลิงไหม้คับแคบ รถน้ำเข้าไปไม่ถึง แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงและเฝ้าระวังจนถึงเช้า ป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีก พร้อมปิดการจราจรบริเวณถนนเยาวราช ช่วงแยกเฉลิมบุรีถึงบริเวณวงเวียนโอเดียน เนื่องจากที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวถนนเยาวราชจำนวนมาก หลังกระแสเอ็มวีของลิซ่า จึงต้องรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นในช่วงที่คนยังไม่นอน จึงสามารถอพยพออกมาได้ทันเวลา โดยมีผู้ติดค้างประมาณ 5-6 คน แต่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้ทั้งหมด


ขณะเดียวกัน ทางตำรวจจะร่วมกับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ตั้งศูนย์ดูแลผู้ที่ได้รับความเสียหายที่สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมกับจะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ค.67)


ด้าน นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่จะต้องมีการฉีดน้ำแบบดับถ่านตลอดคืน โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ต่อไป  


เวลา 00.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช พร้อมกับ ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ    


โดย นายชัชชาติ เปิดเผยว่า จุดที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหนัก คือบริเวณชุมชนตรอกโพธิ์ ที่มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยในเวลา 23.50 น. กทม. เปิดลงทะเบียนช่วยเหลือ สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ไปที่กองอำนวยการร่วม เต็นท์หน้าโรงแรมไชน่าทาวน์


นอกจากนี้ สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ยังเปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบเข้าไปพักพิงได้ คือที่ห้องประชุมเยาวราช ชั้น 5 อาคาร 2  สามารถรองรับได้ 21 คน ประชาชนสามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ที่กองอำนวยการร่วม เต็นท์หน้าโรงแรมไชน่าทาวน์เช่นกัน


ส่วนที่วัดไตรมิตรฯ วัดสัมพันธวงศ์ และวัดชัยชนะสงคราม (วัดตึก) รวมทั้งอาคารพิชัยญาติ ถนนมังกร ซึ่งเป็นอาคารของเอกชน ก็เปิดให้ประชาชนที่ประสบภัย เข้าไปพักพิงได้ โดยที่วัดไตรมิตร ยังรองรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเทียนฟ้าชั่วคราวด้วย รอจนกว่ามั่นใจว่าสถานการณ์ปลอดภัย จึงจะอพยพผู้ป่วยกลับโรงพยาบาล


โดยผู้ประสบภัย สามารถติดต่อเข้าพักพิงชั่วคราวที่วัดทั้ง 3 แห่ง ดังนี้ วัดไตรมิตรฯ และวัดสัมพันธวงศ์ โทร. 085-130-5345 / วัดชัยชนะสงคราม (วัดตึก) 093-519-8999 / อาคารพิชัยญาติ 094-241-8931


ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า สิ่งสำคัญขณะนี้ คือให้ประชาชนได้มีสถานที่พักพิงชั่วคราวก่อน จากนั้นก็เป็นกระบวนการเยียวยาตามขั้นตอน ตามสิทธิ โดยมีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแล้ว 248 คน ผู้บาดเจ็บเล็กน้อย เช่น สำลักควัน 6 คน ส่วนเจ้าหน้าที่อาสาที่ถูกไฟดูด ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ทรัพย์สินเสียหาย หรือแรงงานต่างชาติที่เช่าบ้านอยู่ในชุมชนตรอกโพธิ์ ก็จะมีมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้น


ขณะที่ความเสียหายทั้งหมดและสาเหตุ ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายหลัง เบื้องต้นทราบว่าภายในชุมชนตรอกโพธิ์ มีบ้านเรือนอยู่ประมาณ 65 หลังคาเรือน ถูกไฟไหม้เสียหายบางส่วน และมีอาคารพาณิชย์ที่เสียหาย 2 อาคาร โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในวันนี้ (7 ก.ค.67) พร้อมเปิดเส้นทางจราจรบนถนนเยาวราชให้สามารถกลับมาใช้งานได้ปกติ

รับชมผ่านยูทูป :  https://youtu.be/FMshgqHZRQA