สังคม

ค้นบ้าน สจ.คนดังและพวก พบปืนเพียบ เจ้าตัวมอบตัวสู้คดี พร้อมถามกลับยาบ้ากับตนจะเลือกอะไร

โดย weerawit_c

21 เม.ย. 2567

671 views

วานนี้ (20 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายเชิดศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายจาก จ.สมุทรสงคราม พร้อม จ่าคิงส์ ธมนันท์ แตงทิม เจ้าของเพจ สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พงส.กก.5 บก.ป. เพื่อขอเข้าคุ้มครองพยานที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. พหลโยธิน จตุจักร กทม. เมื่อช่วงเช้า วันที่ 19 เม.ย.67 โดยอ้างว่าถูกสมาชิกสภาจังหวัดสมุทรสงคราม (สจ.) คนดัง จ.สมุทรสงคราม กับสารวัตรกำนันให้ลูกน้องไปตามมาพบก่อนที่บ้าน สจ.คนดังกล่าว โดยมีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และพวกช่วยกันรุมทำร้าย จนกระดูกหน้าผากแตก ข้อมือหัก สมองกระทบกระเทือน ต่อมา พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม ได้เดินทางมาที่ สภ.ลาดใหญ่ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามเร่งรัดคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่ายนั้น


ล่าสุดเช้าวันที่ 20 เมษายน 2567 นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับ พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม สนธิกำลังฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสงคราม, ชุดปฏิบัติการพิเศษภาค 7(อินทรี7) กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สมุทรสงคราม, สภ.เมืองสมุทรสงคราม และ ตำรวจ สภ.ลาดใหญ่ รวม 100 นาย ปฏิบัติการตรวจค้นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ตำบลลาดใหญ่ รวม 3 จุด ประกอบด้วยบ้านนายธีรพงษ์ ศรีกำเนิด อายุ 50 ปี สจ.เขต 11 อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ในพื้นที่ ม.5 ต.ลาดใหญ่, บ้านนายดำรงค์ ศรีกำเนิด ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.ลาดใหญ่ ในพื้นที่ ม.6 ตำบลลาดใหญ่ และ บ้านนายสมพร โมด่านจาก สารวัตรกำนันตำบลนางตะเคียน ในพื้นที่ ม.3 ต.ลาดใหญ่ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง


ต่อมา ที่ สภ.ลาดใหญ่ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับ พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม ได้แถลงผลการตรวจค้นผู้มีอิทธิพล ดังกล่าว พบ ของกลางรวม 5 กระบอก พบที่บ้านนายธีรพงษ์ 2 กระบอก คือ ปืน 11 มม. ยี่ห้อ โคล์ล มีทะเบียน ของ นาย นิคม เสือเล็ก ( ปืนผิดมือ ) พร้อมด้วยเครื่องกระสุน จุด 45 จำนวน 8 นัด, ปืนยาวลูกกด จุด 22 ยี่ห้อ อาร์มสกอร์ มีทะเบียน ของนายธีระ ศรีกำเนิด พร้อมด้วยเครื่องกระสุน ลูกกด 30 นัด, และบ้านนายดำรงค์ 3 กระบอก ปืนขนาด จุด 38 ยี่ห้อ โคล์ล มีทะเบียน ของนาย ดำรงค์ ศรีกำเหนิด, ปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อ กล็อก ของนายดำรงค์ ศรีกำเนิด และ ปืนยาวอัดลม ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน


นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดได้มอบหมายให้อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ได้เข้าไปดำเนินการติดตาม เพื่อบรรเทาเยียวยาให้ผู้เสียหายในเบื้องต้น และได้ติดตามกับตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม เข้ามาดำเนนการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน จึงลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนกรณีที่มีฝ่ายปกครองเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนได้สอบถามไปยังนายอำเภอเมืองสมุทรสงคราม พบว่าลักษณะการใช้อิทธิพลข่มขู่ และทำร้ายร่างกาย เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล หลังจากการตรวจค้น พบมีอาวุธปืนพบโต๊ะแถลงข่าวจำนวนมาก ดังนั้น กรณีที่ผู้ก่อเหตุมีผู้ใหญ่บ้าน และสารวัตนกำนัน เข้าไปเกี่ยวข้อง ตนได้มอบหมายให้นายอำเภอเมืองสมุทรสงครามตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพล จะดำเนินการทางด้านวินัยตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป


ขั้นตอนแรก ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลออกมาหากมีความผิดจริง ตนจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบออกมาเอง ส่วนกรณี สจ. ตนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีมูลความผิด จะเสนอไปยังประธาน สภา อบจ.สมุทรสงคราม เพื่อดำเนินการทางวินัย ซึ่งเป็นอำนาจของสภา อบจ.สมุทรสงคราม อย่างไรก็ตามหากคำพิพากษาตัดสินลงโทษถึงที่สุดดออกมาว่าผิดจริง ก็จะขาดคุณสมบัติการเป็น สจ.ทันที


พล.ต.ต.สมภพ กล่าวว่า เบื้องต้นกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าได้ร่วมกันทำร้ายและข่มขู่ผู้เสียหายจริง โดยใช้ ปืนของกลางลำดับที่ 1 ขนาด 11 มม. ยี่ห้อ โคล์ล ในการก่อเหตุ จึงแจ้งข้อหาร่วมกันข่มขู่ และร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งทางจังหวัด และตำรวจภูธรจังหวัด ดำเนินการตามข้อกฎหมาย และจัดการไม่ให้เกิดเหตการณ์แบบนี้ขึ้นอีก นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหามีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติอีก 2 ราย คือ นายธีรพงษ์ ศรีกำเนิด สจ.เขต 11 อำเภอเมืองสมุทรสงคราม , และนายดำรงค์ ศรีกำเนิด ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.ลาดใหญ่


อย่างไรก็ตามขณะที่นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม และ พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม กำลังเดินทางกลับ นายธีรพงศ์ ศรีกำเนิด 1 ในผู้ร่วมก่อเหตุ ได้เดินมาขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม โดยระบุว่าตนทำหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด เป็นผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่อายุ 27 ปี ในอดีตสื่อร้องเรียนมันน้อย ที่ตนไปกระทืบหรือทำร้ายร่างกาย


เพราะปัญหายาบ้าระบาดในพื้นที่ทั้งขายและเสพ ถ้าผมจะร้องเรียนเจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรกับยากและล่าช้า ผมจึงเลือกวิธีปกครองดูแลลูกหลานแบบนี้ แต่ปัจจุบันสื่อร้องเรียนมันไว ตนตั้งคำถามถึงท่านผู้ว่าฯ ท่านผู้การฯว่าจะเอายาบ้าไว้ หรือ พวกผมที่กวดล้างยาบ้ายาเสพติดไว้ มาตราการกวดล้างของผมเร็ว แต่อาจจะรุนแรง และโดนร้องเรียน


เมื่อวานนี้ตนขอให้กองปราบปรามตรวจปัสสาวะผู้ที่ไปร้องเรียนเมื่อวานนี้ ตนทำงานมีเหตุและผล แต่ตนไม่ค่อยชอบออกสื่อ ชอบทำงานเบื้องหลัง ตนทำงานการเมืองมากว่า 20 ปี แม้ปัจจุบันเป็น สจ.มาดูแลงบประมาณและความเจริญ แต่ก็ลงไปช่วยงานฝ่ายปกครอง ดูแลกวดล้างยาเวพติด ไม่อยากให้มีคนคลั่งยาที่ไปกระทืบแม่ตาย ที่ ตำบลบางจะเกร็ง และที่เป็นข่าวรายวัน แต่ผมทำงานชัดเจนและไวกว่าเจ้าหน้าที่ เพราะอยู่ในพื้นที่ แต่แลกด้วยคดีที่ได้มา ตนขอฝากให้ผู้ใหญ่ช่วยพิจารณา


จากนั้นนายธีรพงศ์ ได้เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม โดยขอไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เพราะชอบทำงานเบื้องหลัง ไม่ชอบเอาหน้า แต่ฝากข้อคิดไว้ว่าขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ร้องเรียนด้วยว่าเป็นอย่างไร ในพื้นที่เขารู้ดีแต่ไม่มีใครกล้าพูด


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JuM7BQKkkTw

คุณอาจสนใจ

Related News