สังคม

รวบคาไลฟ์ ‘แพรรี่ ดาวยั่วสาวสอง’ หลอกพ่อบ้านขี้เหงาส่งภาพลับ ขู่แบล็กเมล์แลกเงิน

โดย nicharee_m

24 มิ.ย. 2566

499 views

วานนี้ (23 มิ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายเอกพล หรือแพรรี่ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.212/2566 ลงวันที่ 4 เม.ย.66 ข้อหา "ร่วมกันรีดเอาทรัพย์"โดยจับกุมตัวได้ที่ ห้องพัก บริเวณถนนเพชรเกษม-ท่าพระ  แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.

สืบเนื่องจากช่วงปี พ.ศ.2564 มีขบวนการสาวข้ามเพศแสบรายหนึ่ง ต่อมาทราบชื่อคือ นายเอกพล หรือ แพรรี่ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ออกอาละวาดหลอกลวงในโลกโซเชียล โดยแผนประทุษกรรมของขบวนการนี้ จะแฝงตัวอยู่ในทวิตเตอร์ โพสต์รูปภาพส่วนตัวลักษณะวาบหวิวผ่านทวิตเตอร์ และหาเหยื่อที่เป็นชายขี้เหงาเพื่อจะ “นัดเจอ”

เมื่อมีผู้ชายตกเป็นเหยื่อแล้ว ก็จะทำทีแชทสนทนา ใช้มารยาต่าง ๆ นานา ขอให้ผู้เสียหายส่งรูปภาพ ขนาดอวัยวะเพศมาให้ดูก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อส่งรูปให้ ผู้ต้องหากลับข่มขู่ว่าหากไม่อยากถูกนำรูปภาพดังกล่าวไปโพสต์ประจานในโซเชียล หรือส่งให้ “ภรรยา” ต้องโอนเงินให้ ตอนแรก ๆ ผู้เสียหายกลัวจึงยอมโอนเงินให้ครั้งละ 500-1,000 บาท แต่ผู้ต้องหาก็ยังข่มขู่เรื่อยมา บางครั้งให้โอนเงิน 4-5 ครั้งต่อวัน โดยทั้งหมดโอนไปกว่า 40,000 บาท จึงทนไม่ไหวเข้าแจ้งความดำเนินคดี พ่อบ้านผู้เสียหายบางรายถึงขั้น “อยากฆ่าตัวตาย”

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ขบวนการนี้มี นายเอกพล ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหา โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 และสืบนครบาล ติดตามจับกุม จนกระทั่งจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักดังกล่าว ขณะที่กำลังไลฟ์สดอยู่ในห้องพักจนติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายเอกพล ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนจบการศึกษาชั้น ปวช. เป็นสาวประเภทสอง แต่ยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศ ปัจจุบันหาเลี้ยงชีพด้วยการไลฟ์สด 18+ ผ่านแอปพลิเคชัน M Live โดยทั่วไปจะมีคนดูประมาณ 10,000 คน และช่องของตนมีผู้ติดตามกว่า 300,000 คน

นายเอกพล ให้การต่อว่า ส่วนเรื่องทางคดีนั้นเกิดนานแล้ว ยืนยันว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง ความผิดทั้งหมดเกิดจาก นายปิยฉัตร (ขอสงวนนามสกุล) ที่ถูกจับกุมไปนานแล้ว หลังจากจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว ส่งที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ายังมีกลุ่มมิจฉาชีพอีกหลายรายที่มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันกำลังหาเหยื่อในกลุ่มพ่อบ้านหรือหนุ่มอารมณ์เปลี่ยวตกหลุมพราง และกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ นอกจากจะสูญเงินเป็นจำนวนมากแล้ว ยังจำต้องแลกมาด้วยชื่อเสียงอีกด้วย และที่สำคัญคือ บาดแผลทางจิตใจที่ยากต่อการเยียวยา จนบางรายไม่กล้าจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ และบางรายถึงขั้นคิดจะจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีกับอดีตที่ผิดพลาด

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวต่อว่า ด้วยจุดอ่อนเหล่านี้กลุ่มมิจฉาชีพจึงใช้เป็นช่องทางรีดเอาทรัพย์ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงขอฝากเตือนทุกท่านที่ต้องการหาเพื่อนหรือพูดคุยกับบุคคลอื่นๆ ให้พึงระลึกไว้ก่อนว่า “รู้หน้า ไม่รู้ใจ”



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/MMab_c2K9sA

คุณอาจสนใจ

Related News