สังคม

รวบ 'จีจี้' นักข่าวสาวคนดัง แอบอ้าง 'บิ๊กโจ๊ก' เรียกรับเงิน 33 ล้าน จากแก๊งอุ้มบุญจีนเทา อ้างช่วยล้มคดีได้

28 พ.ค. 2566

159 views

วานนี้ (27 พ.ค.) เวลา 14.00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงคดีของ นางสาวนวพร ภาเกียรติสกุล อายุ 53 ปี เจ้าแม่แก๊งอุ้มบุญให้ทุนจีนสีเทาที่ถูกตำรวจจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างเพิกถอนสัญชาติ ซึ่งจากการสอบปากคำ นางสาวนวพร เพิ่มเติม พบว่ามีนักข่าวสาวไทย ลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน (จีจี้) เรียกรับเงิน จากนางสาวนวพร เพื่อช่วยเหลือคดีด้วย


โดยนักข่าวสาวคนดังกล่าว อ้างว่า มีความสนิทสนมและทำงานใกล้ชิดให้กับตน จึงสามารถวิ่งเต้น เพื่อที่จะล้มคดีของนางสาวนวพร และสามารถช่วยเหลือคนจีนคนอื่นๆ ได้ พร้อมเรียกรับเงินจำนวน 33 ล้านบาท แต่นางสาวนวพรจ่ายไปเพียง 14 ล้านบาท


ซึ่งจากการที่ตำรวจได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมหลักฐาน พบว่ามีมูลความจริง เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา จึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับนักข่าวสาวคนดังกล่าวในข้อหา “เรียกรับ หรือยอมจะรับผลประโยชน์ใดๆ เพื่อจะให้เจ้าพนักงานของรัฐกระทำการใด ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่” ก่อนเข้าจับกุมในช่วงเย็นคาคอนโดที่พัก


รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุอีกว่า พฤติการณ์การกล่าวอ้าง หรือแอบอ้างถึงตนว่าจะสามารถช่วยเหลืออาชญากร หรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง เพื่อน หรือนักข่าว เมื่อแอบอ้างชื่อตน เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งก่อความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนจะไม่ละเว้น ต้องขอดำเนินคดีทุกราย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เห็นเป็นข่าวแล้วหลายคดี ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น หรือแม้แต่นักข่าว ก็ถูกดำเนินคดีมาแล้ว


ส่วนกรณีนักข่าวสาวคนดังกล่าว ยอมรับว่าทำงานให้กับตนจริง ซึ่งตนให้ช่วยประสานงานกับทางการจีน เพราะนักข่าวสาวคนนี้สามารถใช้ภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว และเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในฝั่งประเทศจีน แต่เมื่อกระทำผิด ต่อให้เป็นบุคคลใกล้ชิดมากกว่านี้ ก็ต้องดำเนินการ ตามกระบวนการของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง


สำหรับความผิดในข้อหาเรียกรับ หรือยอมจะรับผลประโยชน์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท


มีรายงานเพิ่มเติมว่า ชุดสืบสวนสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาหญิงมาให้ดำเนินคดีที่ สน.เมื่อ 21.00 น.วันที่ 26 พฤษภาคม ฐานความผิด เรียกรับ หรือยอมจะรับผลประโยชน์ เจ้าตัวให้การปฏิเสธต่อมาได้ขอประกันตัว 3.5 ล้านบาท โดยได้ปล่อยตัวเมื่อเช้าวันเดียวกัน ซึ่งทางตำรวจมีเงื่อนไขห้ามไม่ให้นักข่าวสาวเดินทางออกนอกประเทศ


ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักข่าวสาวคนดังกล่าวโพสต์ข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า เรียน คู่ค้าที่เคารพ เพื่อนๆ ที่เป็นห่วงเรา และพนักงานทุกคน ตอนนี้การโจมตีล้างแค้นของกลุ่มจีนเทาได้เข้าถึงจีจี้อย่างร้ายแรง ด้วยวิธีการที่แยบยลและร้ายกาจ มากๆ ซึ่งจีจี้ได้คาดไว้ว่าคงจะได้รับการโจมตีจากคนเหล่านั้นและระวังตัวตลอด รวมทั้งมีการจ้าง bodyguard ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา แต่ในที่สุดก็หลบไม่พ้นกับขบวนการแก้แค้นทำร้ายของอิทธิพลจีนเทา



เรื่องถูกหมายจับตามที่สื่อนำเสนอนั้นเป็นจริง นี่เป็นวิธีการแก้แค้นใส่ร้ายที่เราไม่คาดคิดมาก่อน ตอนที่ถูกจับก็ตกใจมาก เพราะไม่เคยกระทำความผิดใดๆ แต่เมื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้วจึงรู้ว่า มูลเหตุของเรื่องนี้เกิดจาก การที่เราช่วยเหลือ ให้ข้อมูลกับทางราชการตำรวจไทย ประสานผู้เสียหายแจ้งความ อันเป็นการทำประโยชน์แก่ประเทศไทย จนนำมาสู่การจับจุมคนกระทำผิดหลายครั้ง รวมไปถึงตัวของนวพร คนที่กล่าวหาคดีนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงขอวิงวอนว่า อย่าเพิ่งหลงเชื่อคำกล่าวหา ที่เกิดจากความแค้นและจ้องทำร้ายของเครือข่ายนวพร


ทั้งนี้ จีจี้ขอยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักนวพร หรือ อาโจ เป็นการส่วนตัวเลย เพียงแค่รู้จักในข้อมูลข่าว รู้ว่าเขาเป็นเจ้าแม่อาชญากรรมจีนในไทย มีพฤติกรรมผิดกฎหมายที่เป็นขั้นร้ายแรงจำนวนมาก จีจี้ทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่แจ้งเข้ามาหลังบ้านของสื่อเรา และคนที่ไว้วางใจที่จะแจ้งเบาะแสกับเราเพื่อขอให้เราแจ้งไปทางตำรวจต่อไป ไม่เคยติดต่อสัมผัสกับนวพรเลย ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการรับเงินจากนวพร ยิ่งเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างใด และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเราให้ปรากฎต่อสาธารณชนต่อไป


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/4nBXHBJRs1o

คุณอาจสนใจ

Related News