ได้วงจรปิดแล้ว 'พริตตี้สาว' ถูกเป่าเมาแล้วขับแต่โดนปล่อย เตรียมเข้าพบตร.ให้ปากคำบ่ายนี้

พริตตี้สาวเตรียม เข้าให้ปากคำตำรวจช่วงบ่ายวันนี้ ชี้แจงการโพสต์ถูกตำรวจตรวจเมาแล้วขับแต่ปล่อยตัว จริงหรือไม่ 

กรณีสาวโพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องราวถูกตำรวจตรวจเมาแล้วขับแต่ปล่อยตัว หลังจากนั้นช่วงบ่ายวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เธอโพสต์ชี้แจงอีกครั้งว่า "ขอโทษที่พิมพ์ไม่ครบ ตกหล่นประเด็นสำคัญ”
เธอบอกว่า วันเกิดเหตุเธอดื่มแฮลกอฮอล์จริงแต่ในปริมาณไม่มาก พอมาเจอด่านเป่าตรวจวัดปริมาณแฮลกอฮอล์จริง แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ ทำให้รอดมาได้ แต่ตำรวจก็ตักเตือนแล้ว ว่าอย่าเมา เมาแล้วอย่าขับ จากนั้นตำรวจจึงได้ปล่อยผ่านไป”

เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.)  กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดภาพวงจรปิดที่บันทึกวันเกิดเหตุ จะเห็นว่ารถของเธอเข้ามาตอนเกือบ ตี 2 และใช้เวลาการตรวจไม่ถึง 5 นาทีแล้วก็ปล่อยไป

ขณะที่ ตำรวจ สน.จรเข้น้อยได้เดินทางไปสอบปากคำ น.ส.สโรชา อนันตพงษ์ ให้การว่าได้เดินทางมาทำงานที่ร้านแห่งหนึ่ง ในคืนวันที่ 12 เม.ย.2566 มีการดื่มกินบ้าง ตามที่ลูกค้ายื่นให้ดื่มในลักษณะของการทำงาน แต่ยืนยันว่าไม่เมา หลังจากร้านปิด เมื่อเลิกงานได้เดินทางกลับ โดยขับขี่รถยนต์ส่วนตัวกลับคนเดียว ตามเส้นทางที่ gps แนะนำ เพราะตนไม่เก่งเรื่องเส้นทาง

เมื่อขับขี่มาถึงบนถนนรามอินทรา ฝั่งมุ่งหน้าวงเวียนบางเขน ตัดกับถนนเลียบด่วนรามอินทรา ได้พบจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ตรวจวัดตามปกติ รับว่าดื่มมาบ้างแต่มั่นใจว่าไม่เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ซึ่งก็ตรงกับผลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวัด ปรากฏผลว่าไม่เกินกว่าที่กฏหมายกำหนดห้าม แต่จำไม่ได้แน่ชัดว่าเท่าไหร่ ก็ได้รับคำตำหนิจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่าดื่มและปล่อยตนไป

เมื่อตนมาถึงที่พักคอนโด จึงได้โพสต์ขอบคุณร้านและทีมงาน โดยถ่ายรูป (ปรากฏในโพสต์) บริเวณที่จอดรถของคอนโด แต่ด้วยความไม่ระมัดระวังในการสื่อสาร จึงได้โพสต์ไปด้วยความคะนอง

โดยยืนยันคำว่า "เป่าจนปรอทจะแตกพี่ก็ปล่อยหนูผ่าน" คือตนได้เป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เต็มแรง ไม่ได้หมายถึงมีปริมาณแอลกอฮอลที่มากแต่อย่างใด

ด้านพลตำรวจตรีอาจชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากกรณีนี้ข้อมูลยังสับสนเนื่องจากผู้เสียหายให้การสลับไปมาและมีการโพสต์ทาง Facebook เท่านั้น โดยขณะนี้เจ้าตัวอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม และจะเดินทางกลับจากจังหวัดมหาสารคามวันนี้ (16 เม.ย.) จะเข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงเวลาประมาณบ่ายสองเพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร

ส่วนกรณีที่อ้างว่ามีการอยู่ที่ด่านตรวจเพียง 5 วินาที หรือ 5 นาทีนั้นจากข้อมูลความเป็นจริงการที่จะอยู่ด่านตรวจถึง 5 วินาทีนั้นเป็นไปไม่ได้ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจจะต้องสอบปากคำเจ้าตัวอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งและหากพบว่าสิ่งที่สาวรายนี้โพสต์เป็นความเท็จตำรวจก็ต้องดำเนินคดีตามกฏหมายเรื่องนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพราะเรื่องนี้ทำให้เสื่อมเสีย

ขณะเดียวกันหากพบว่ามีการตรวจแอลกอฮอล์แล้วหญิงรายนี้มีแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดแต่ตำรวจปล่อยตัวไปตำรวจก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งตามกฎหมายและวินัยเช่นกัน

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/G2NWND-Dm-w