สังคม

เปลี่ยนด่วน! ถุงลมนิรภัยรถยนต์ 8 ยี่ห้อ หนุ่มวัย 46 เฉียดตาย ถูกแอร์แบ็คระเบิดใส่ ชิ้นส่วนฝังในอก

โดย petchpawee_k

26 พ.ย. 2565

6.7K views

หนุ่มใหญ่วัย 46 เฉียดตาย ถูกถุงลมนิรภัยรถยนต์ระเบิดใส่ ชิ้นส่วนฝังเข้าไปในอก เคราะห์ดี หมอผ่าตัดออกมาได้ – ขณะที่สภาองค์กรบริโภค เคยออกมาเร่งให้บริษัทรถยนต์ 8 ยี่ห้อเรียกคืนถุงลมเดิม เปลี่ยนถุงลมใหม่


จากกรณีผู้ขับขี่รถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้  zx ปี 2005 รายหนึ่ง ถูก แอร์แบ็คระเบิดใส่ตอนเกิดอุบัติเหตุรถชน และได้กล่าวว่า แอร์แบ็ค เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตแต่กลับจะฆ่าเสียเอง จึงอยากเตือนและให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจ้งและรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้


คุณวรชัย อายุ 46 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะนั้นได้ขับรถยนต์วิ่งขาเข้าเส้น สาย 3 ได้ชนท้ายรถกระบะ และเกิดแอร์แบ็คคระเบิด ซึ่งเพิ่งทราบภายหลัง  แต่ว่าตอนนั้นตนตั้งสติและโทรแจ้ง 191 รวมทั้งโทรหาคนใกล้เคียงก่อน และทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนแรกทางโรงพยาบาลเอ็กซเรย์ เจออะไรบางอย่างไม่รู้ฝังในหน้าอก คล้ายๆ ฝาน้ำขนาดใหญ่ ต้องรับการผ่าตัด เอาสิ้นช่วนนี้ออก


เมื่อผ่าตัดเสร็จ คุณหมอนิติเวช บอกว่าชิ้นส่วนที่ฝั่งในหน้าอก เป็นอุปกรณ์หรือสิ้นส่วนของแอร์แบ็ค และได้ให้ความรู้ว่า เข้าข่ายที่อุปกรณ์ของรถยนต์ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้  ซึ่งตอนแรกตนไม่ได้ตามข่าวเรื่องนี้ แต่สภาองค์ของผู้บริโภค ได้ให้ความรู้ว่าเหตุการณ์แอร์แบ็คระเบิด เกิดขึ้นกับหลายคนและกับรถหลายรุ่นแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียชีวิตได้

ต่อมา ตนได้รับความรู้จากเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยม และได้บอกว่าแอร์แบ็คระเบิดอันตราย ซึ่งทางสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ประสานเข้ามาผ่านคุณหมอนิติเวชเพื่อจะมาขอดูข้อมูลตรงนี้ และได้มีการประชุม สรุปว่าเกิดจากแอร์แบ็คระเบิดจริงๆ ซึ่งทางสภาองค์กรผู้บริโภคได้เรียกร้องไปทางบริษัทเจ้าของรถ เพื่อจะให้เข้ามาช่วยเรื่องการรักษาพยาบาลและอื่นๆ


คุณวรชัย ยังกล่าวว่า ตอนนี้ทางบริษัทเจ้าของรถ ยังไม่ติดต่อพูดคุยอะไรมา และยังไม่ทราบว่า ทางบริษัทเจ้าของรถ จะติดต่อมาหรือเปล่า ซึ่งทางองค์กรผู้บริโภคได้ส่งรูปภาพให้ดู จากเหตุการณ์ แอร์แบ็คระเบิด ซึ่งแอร์แบ็ค เป็นสิ่งป้องกันชีวิตอย่างสุดท้าย กลายเป็นว่าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด ซึ่งอุปกรณ์ แอร์แบล็ค ทำให้คนตาย ถือว่าตนโชคดี ที่เจาะมาแล้วกระดูกไม่หัก เพราะถ้าผ่านกระดูกไปได้อาจหนักกว่านี้


ซึ่งสำหรับตนรุ่นอื่นไม่แน่ใจ แต่รถของตนแม้จะเปลี่ยนอุปกรณ์ แอร์แบ็คแล้วก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และถ้าเกิดระเบิดจะอันตรายขนาดไหน


สำหรับบาดแผล ได้มีร่องรอยจากการระเบิดของแอร์แบ็ค 2 จุด บริเวณ หน้าอกและช่วงท้อง ทางหน้าอกได้ผ่าตัด เอาชิ้นส่วน ของแอร์แบล็ค ออก และแขน 2 ข้าง ช่วงคอมีบาดแผลคล้ายไฟไหม้ ส่วนรถก็เสียหายมาก และยังอยู่ที่ สน.อยู่ ซึ่งการรักษา มีทาง พ.ร.บ. และบัตร 30 บาท เข้าช่วย ส่วนค่ารักษาส่วนเกินได้ออกเอง ซึ่งทางบริษัทเจ้าของรถยังไม่ติดต่อหรือช่วยเหลือเข้ามา


คุณวรชัย ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ใช่ที่ว่าการเกิดอุบัติเหตุเป็นเพราะเราขับรถประมาท แต่อุปกรณ์ แอร์แบ็คคืออุปกรณ์ช่วยจากหนักให้เป็นเบา แต่กับจะอุปกรณ์ฆ่าเสียเอง และตอนนี้ได้ให้สภาองค์กรผู้บริโภค ยื่นเรื่องกับเจ้าของบริษัทรถยนต์ให้เข้ามารับผิดชอบ เพราะตนไม่ได้ดูเรื่องกฎหมาย แล้วอยากให้ผู้รู้และหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ


ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นข้อมูลเมื่อ 31 มี.ค.65 สภาองค์กรของผู้บริโภค เคยออกมาเร่งให้บริษัทรถยนต์ 8 ยี่ห้อ เปลี่ยนถุงลมนิรภัย ประกอบด้วย


- TOYOTA (ปีที่ผลิต 2001-2016)

-  HONDA (ปีที่ผลิต 1998-2014) 

-  FORD (ปีที่ผลิต 1998-2014)

-  MAZDA (ปีที่ผลิต 2004-2014)

-  NISSAN (ปีที่ผลิต 2000-2014)

-  MITSUBISHI (ปีที่ผลิต 2005-2015) 

-  BMW (ปีที่ผลิต 1998-2018) 

-  CHEVROLET (ปี2007-2015)


ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊กเพจ "Drama-addict" ได้โพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์ ให้เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ราว 6 แสนคัน ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบและแก้ไขถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะ นำรถเข้ามารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

พร้อมยังบอกด้วยว่า จากการพูดคุยกับ อ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ล่าสุดพบว่า มีคนเจ็บ/ตาย จากถุงลมนิรภัยทาคาตะที่ทำงานผิดพลาด รวม 6 คน แบ่งเป็นตาย 3 บาดเจ็บสาหัส 3 โดยเคสที่ห้าเกิดเดือน 9 ส่วนเคสที่หกเพิ่งเกิดไม่กี่วันนี้


 ปกติ ถุงลมนิรภัย มีไว้ป้องกันชีวิตผู้ขับขี่จากอุบัติเหตุ ยกเว้นถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะ ซึ่งเป็นยี่ห้อที่มีใช้แพร่หลายอันดับต้นๆ ในโลก ร่วมร้อยล้านคัน ถุงลมนิรภัยของยี่ห้อนี้ดันสร้างแรงดันอากาศเยอะเกินไปจนเกิดแรงระเบิด ทำให้ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะของรถและถุงลมพุ่งเข้าใส่คนขับเหมือนห่ากระสุน ทำให้มีคนเจ็บและตายมากมายทั่วโลก เพราะถุงลมยี่ห้อนี้เอาเฉพาะอเมริกาที่เดียวนี่ตายเป็นร้อย บาดเจ็บหนักหลายพันคน


 ปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตถุงลมนิรภัยได้ล้มละลายไปเรียบร้อย แต่ยังมีถุงลมนิรภัยรุ่นนี้ติดตั้งในรถทั่วโลกอีกมากมาย เฉพาะในไทยมีหกแสนคันที่ยังเหลือ เหมือนคุณมีกับดักติดอยู่หน้ารถตัวเอง รอเวลาปะทุออกมา


และที่น่ากลัวคือ ไม่ต้องชนแรงมาก แค่ชนแรงพอที่จะให้ถุงลมนิรภัยทำงาน มันก็จะสร้างแรงอัดที่รุนแรงจนเศษโลหะแตกและพุ่งเสียบร่างกายคนขับแล้ว


ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถเข้าไปตรวจสอบว่ารถยนต์เข้าข่ายที่ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยหรือไม่ ที่ www.checkairbag.com

เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก สายด่วนโทร. 1584

เว็บไซต์ของสภาองค์กรของผู้บริโภค www.tcc.or.th

 หากพบว่ารถยนต์เข้าข่ายต้องเปลี่ยน สามารถติดต่อศูนย์รถยนต์เพื่อนำเข้าไปเปลี่ยนถุงลมนิรภัยได้ฟรี หากถูกปฏิเสธไม่รับเปลี่ยนถุงลมนิรภัย หรือถูกเรียกเก็บค่าบริการ ร้องเรียนได้ที่ สคบ. โทรสายด่วน 1166 และร้องเรียนออนไลน์ที่เว็บไซต์ complaint.ocpb.go.th หรือสภาองค์กรของผู้บริโภค.


https://youtu.be/MuHG9P9PW8s

คุณอาจสนใจ