เร่งตามตัว ชายต่างชาติ มีสัมพันธ์หนุ่มไทยป่วยฝีดาษลิง หลังรู้จักทางออนไลน์ พบผู้เสี่ยงสูงแล้ว 16 ราย

คืบหน้ากรณีพบชายไทยป่วยโรคฝีดาษลิง เป็นรายที่ 2 ของประเทศ และเป็นรายแรกในพื้นที่ กทม. พบเป็นชายไทย อายุ 47 ปี โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) 2 แห่ง ยืนยันว่าติดเชื้อเป็นรายที่ 2 ของประเทศไทย แต่เป็นชาวไทยคนแรก

โดยประวัติมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันกับชายชาวต่างชาติ เป็นชาวยุโรป ผิวขาว ไม่ทราบสัญชาติ ที่รู้จักกันผ่านทางโลกออนไลน์ ว่าขณะนี้ทีมสอบสวนโรคยังอยู่ระหว่างการประสานติดตามหาชายชาวต่างชาติรายนี้ ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือกลุ่มเสี่ยงนั้น ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่านอกจากผู้สัมผัสร่วมบ้าน จำนวน 10 คนแล้ว ผู้ป่วยยังมีบ้านอีกหลัง โดยมีผู้สัมผัสอีก 6 คน ขณะนี้รวมแล้วเป็น 16 คน ทั้งหมดยังไม่มีอาการ แต่ยังต้องเฝ้าสังเกตอาการอีก 21 วัน

ส่วนผลการลงพื้นที่สอบสวนโรคเพิ่มเติมพบว่า วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยมีประวัติ มีเพศสัมพันธ์กับชายต่างชาติโดยไม่ได้ป้องกัน และเริ่มมีอาการไข้ วันที่ 15 ก.ค.

ต่อมาอีก 3 วัน คือวันที่ 18 ก.ค. เริ่มมีตุ่มหนองที่อวัยวะเพศ ไปซื้อยามาทาเอง แต่อาการไม่ดีขึ้น อวัยวะเพศบวม มีหนอง ปัสสาวะสีขุ่น และเริ่มมีผื่นขึ้นที่ใบหน้าแถวระหว่างคิ้ว แขนขา ลำตัว

จากนั้นผู้ป่วยจึงไปเข้าระบบคัดกรองที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และส่งตัวอย่างไปตรวจในห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง คือห้องปฏิบัติการของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่ามีการติดเชื้อฝีดาษลิง

ขณะนี้ ผู้ป่วยชายไทยอายุ 47 ปี ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง ได้รักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยแยกโรค แรงดันลบ(AIR) โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

มีรายงานว่า มีผู้เสี่ยงใกล้ชิดเป็นชายชาวต่างชาติ เบื้องต้น 1 ใน 3 คน ทราบว่าเป็นชาวรัสเซีย พบที่อยู่ ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง แต่ยังไม่พบตัว ส่วนอีก 2 คนเป็นชาวยุโรป กำลังติดตามสอบสวนโรค ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจาก แอปพลิเคชั่น ซึ่งผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิดได้ติดต่อกัน

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีที่ พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงรายที่ 2 ใน กทม.ว่า ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล วชิระพยาบาล สำหรับผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวไปตรวจที่โรงพยาบาลแรกแต่ไม่เชื้อ ไม่สามารถระบุอาการได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ปล่อยตัวกลับ ก่อนจะมาตรวจพบในภายหลัง

สำหรับประวัติ ผู้ติดเชื้อพบว่ามีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. และมีกลุ่มเสี่ยง 10 คนที่อยู่ในบ้านเป็นทาวน์โฮม แยกกักตัวเฝ้าระวังแล้ว ขออย่ากังวลเพราะว่าการติดเชื้อไม่ได้ติดกันง่ายเหมือน โควิด-19 และต้องทำความเข้าใจโรค รวมถึงอาการของโรคฝีดาษลิง อย่าสับสนกับโรคอีสุกอีใส

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกเกินไป ประชาชนทั่วไปสามารถดำเนินชีวิตตามปกติ แต่ขอให้งดหรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยง ทั้งนี้ โรคโควิด-19 และโรคฝีดาษลิง สามารถป้องกันการติดเชื้อ ด้วยการดูแลตนเองด้วยมาตรการสุขอนามัย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันโรคฝีดาษลิงมีโอกาสติดเชื้อยาก ซึ่งสามารถติดได้จากการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย และผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายป่วยได้เอง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/WXYgT2g1urE