'อัจฉริยะ' ยันรับประสานจากภรรยา-พี่ชาย 'โค้ชแล็ป' ให้ช่วยคดี หลังมีบุคคลอ้างเป็นตร. เรียกเงิน 9 ลบ.

'อัจฉริยะ' ยืนยันเข้าไปพบโค้ชแล็ปที่เรือนจำเป็นไปตามระเบียบ หลังภรรยาและพี่ชายโค้ชแล็ป ให้ช่วยเหลือหลังมีบุคคลอ้างเป็นตำรวจ เรียกเงิน 9 ล้านบาท


อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ชี้แจงกรณีที่ตนเองได้เข้าไปพบกับ โค้ชแล็ป ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา


โดยยืนยันว่าเข้าไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องเรียนจากภรรยาและพี่ชายของโค้ชแล็ป ก่อนที่โค้ชแล็ปจะถูกออกหมายจับ ว่าได้มีบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม มาเรียกเงิน 9 ล้านบาทผ่านคนสนิทของภรรยากับพี่ชาย


จึงอยากให้ตนเข้ามาช่วยสืบสวนเรื่องนี้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร เป็นตำรวจจริงหรือไม่ ตนก็รับดำเนินการ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องให้โค้ชแล็ปเป็นผู้มอบอำนาจให้ตนดำเนินคดี จึงมีการนัดแนะในการนำเอกสารเข้าไปให้โค้ชแล็ปเซ็น


นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่าภรรยาของโค้ชแล็ป อยากให้มีตำรวจเข้าไปด้วย เพราะโค้ชแล็ปอยากจะให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ตนจึงประสานไปยัง พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่ามีญาติประสานมา ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปร่วมสืบสวนด้วย


โดยในวันที่เข้าไปในเรือนจำฯ ภรรยาของโค้ชแล็ปได้ยื่นขอเยี่ยมในฐานะญาติตามปกติ แต่ตนกับพี่ชายของโค้ชแล็ป ได้เข้าไปพร้อมกับตำรวจ ตามหนังสือจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งระบุชื่อตนและพี่ชายโค้ชแล็ป เป็นบุคคลที่ 3 ที่ได้รับความไว้วางใจ


ทั้งนี้ตอนที่เข้าไป โค้ชแล็ปมีอาการจิตตก คุยกับพี่ชายว่าตนเองผิดอะไรถึงต้องมาอยู่ในเรือนจำ สภาพจิตใจไม่พร้อมพูดคุย จึงยังไม่ทันได้ทำอะไร จากนั้นประมาณ 10 นาที ผู้คุมก็มาเรียกให้ไปคุยกับภรรยาที่เข้ามาเยี่ยม


ส่วนเอกสารมอบอำนาจที่ตนนำไปให้นั้น โค้ชแล็ปยังไม่ได้เซ็น เพราะตนระบุไว้ด้วยว่าต้องให้สิทธิในการแถลงข่าว แต่โค้ชแล็ปไม่ต้องการให้ออกข่าว จึงยังไม่เซ็น


ดังนั้น จึงยืนยันได้ว่าทุกอย่างที่ตนทำ เป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ มีการอนุมัติในการเข้าเยี่ยมถูกต้อง ไม่ได้ตีเนียน แต่กลับมีนักข่าวสำนักข่าวหนึ่ง ลงข่าวอ้างว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการเรือนจำฯ ระบุว่ามีการคาดโทษตน


โดยตนได้สอบถามไปทั้งทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำฯ ก็ยืนยันว่าไม่ได้ให้สัมภาษณ์แบบนั้น แต่บอกว่านักข่าวมีการถามนำ โดยใช้คำพูดของนายวิฑูรย์ ทนายความของบอสพอลให้สัมภาษณ์มาถามนำ และผู้บัญชาการเรือนจำฯ ยังยืนยันด้วยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นไปตามที่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ ไม่ได้มีการกระทำผิด ตนไม่ได้ถูกกรมราชทัณฑ์คาดโทษแต่อย่างใด


และในวันพรุ่งนี้ตนจะไปยื่นฟ้องสำนักข่าวดังกล่าว ที่ศาลจังหวัดพระประแดง ที่ผ่ามาตนเคารพสื่อมวลชนมาตลอด ไม่ได้จะฟ้องทุกสื่อ แต่ที่ฟ้องเพราะปกป้องตัวเอง


ส่วนกับนายวิฑูรย์ ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงต้องไปให้สัมภาษณ์สื่อแบบนั้น ทั้งที่ตอนอยู่ในเรือนจำ ก็ยังเจอกัน และพูดคุยกัน ยังทักทายกันว่าคดีเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งมองว่า ถ้าลูกความไม่ได้ทำอะไรผิด ทนายความจะกลัวอะไรที่ตนจะเข้าไปเจาะเบื้องหลังของดิ ไอคอน กรุ๊ป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pRdY_nMPNG4