สังคม

ผู้เสียหายกว่า 500 ราย เข้าแจ้งความ บ.ขายตรง นำสินค้าโยนทิ้ง ลั่นกินเองยังแสบคอ จะให้ขายใคร จี้สคบ.ตรวจคุณภาพ

โดย panwilai_c

10 ต.ค. 2567

88 views

ผู้เสียหายบริษัทขายตรงรวมตัวกันเข้าแจ้งความที่ บก.ปคบ. และ 1 ในผู้เสียหายฉีกสินค้าเททิ้ง บอกสินค้าคุณภาพแย่ ทำให้ขายไม่ได้ และบริษัทเน้นให้หาลูกทีมมากกว่าขายของ



1 ในผู้เสียหายที่มากับทีมงานของมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ได้นำสินค้ามาโชว์ แล้วฉีกซองเทสินค้าทิ้ง และบอกว่า "เป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ" เพราะเคยลองกินแล้วไม่ได้ดีจริงตามที่โฆษณา เคยกินบางตัวก็แสบคอ ขนาดกินเองยังกินไม่ได้ จะขายได้อย่างไร ทำให้หลายคนที่ร่วมลงทุนไม่สามารถขายของได้ หรือได้กำไรตามที่บริษัทโฆษณา แต่ที่บริษัทยังมีกำไรและเปิดได้มาตลอด เพราะหาตัวแทนหน้าใหม่มาตลอด จึงอยากให้ สคบ.เข้ามาตรวจสอบคุณภาพสินค้าด้วย



ผู้เสียหายอีกรายเป็นชายเกือบจะฆ่าตัวตาย เพราะตอนที่ลงทุนเขาตกงาน ตัดสินใจไปกู้เงินมา 2 แสน 5 หมื่นบาท เพื่อมาลงทุนในธุรกิจนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่าขายของออนไลน์จะช่วยสร้างรายได้ให้ดีขึ้น ประกอบกับคำพูดของบิ๊กบอสที่มักจะย้ำเสมอว่า "ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย" สุดท้ายก็มีปัญหากับครอบครัว เพราะสินค้าที่ได้มาไม่สามารถขายได้ คุณภาพไม่ดี ตอนนี้สินค้ากองอยู่ที่บ้านมากมาย คนที่รวยไม่ใช่ผู้ร่วมลงทุนแต่กลายเป็นเจ้าของ ทำให้เขาเครียดจนเกือบจะฆ่าตัวตาย



เช่นเดียวกับผู้เสียหายที่ต้นอ้อ เพจเป็นหนึ่ง คุณอี้ แทนคุณ จิตอิสระและทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พามาก็โดนชักชวนมาเรียนขายออนไลน์แล้วเป็นสมาชิกเช่นกัน อย่าง ผู้เสียหายหญิงคนนี้เป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์เสียเงินไป 4 แสนบาทกับบริษัทนี้ โดยเริ่มจากเห็นโฆษณาผ่านทางทีวี และโซเชียล ประกอบกับช่วงเวลานั้นเป็นช่วงหลังโควิด ต้องการหาอาชีพเสริมเลยสนใจที่จะลงเรียน เป็นการเรียนแบบออนไลน์ ในราคา 97 บาท



3 วันแรกก็เป็นการสอนเรื่องเทคนิคการขายให้ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการขายของออนไลน์ วันที่ 4 เริ่มโชว์ให้เห็นภาพความสำเร็จของบรรดา CEO และคนที่ทำธุรกิจนี้ จากนั้นเริ่มชักชวนให้เปิดบิลอีก 2,500 บาท โดยบอกว่าได้สินค้า 5 ชิ้นไปทดลองใช้เอง และฝึกวิชาการขายที่เรียนมา



วันที่ 5 วันสุดท้ายของการเรียนถูกชักชวนให้ขยับการเปิดบิลเพิ่มขึ้นอีก 25,000 บาท ได้สินค้าและผลิตภัณฑ์ประมาณ 50 ถึง 100 ชิ้น และอ้างว่าจะมีทีมงานเครือข่ายที่มาช่วยในการขายของ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ทางแม่ทีมจะเป็นคนหาลูกทีมมาให้ ตัวเรามีหน้าที่สอนและถ่ายทอดวิชาการขายให้กับลูกทีมเท่านั้น เมื่อเปิดบิล 25,000 บาท แล้ว ต่อไปจะขยับเป็น 250,000 บาท เพิ่มอัพเลเวลเป็นซูปเปอร์ไวเซอร์ ซึ่งจะได้เปอร์เซ็นต์และค่าแนะนำหาคนต่างๆ เพิ่มขึ้น



แต่ในความเป็นจริง เธอต้องจ่ายเงินค่ายิงโฆษณาออนไลน์อีกครั้งละ 5,000 บาท เพื่อให้ได้ลูกทีมมาอย่างน้อย 1 คน พอได้ลูกทีมมาก็ต้องพูดให้ยอมเปิดบิล 250,000 บาท เพื่อจะได้ส่วนแบ่ง 10,000 บาท ซึ่งลูกทีมที่ได้มาก็ไม่ได้มีกำลังเงินมาเปิดบิลหลักแสน ส่วนสินค้าแทบจะไม่ได้ขายเลย หาแต่ลูกทีมอย่างเดียว



นางสาว กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย - ออนไลน์ และศูนย์ข่าวต้านโกง พาผู้เสียหายมาที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เพื่อยื่นหนังสือให้ตรวจสอบบริษัทขายตรงที่มี 3 ดาราเป็นผู้บริหาร และมีดารานักแสดงหลายคนมาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้มีชื่อเสียง ขายเครดิตขายความน่าเชื่อถือของตัวเอง ดังนั้นเมื่อเกิดความเสียหายก็ควรต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปด้วยซึ่งในทางกฎหมายเข้าข่ายผู้ร่วมขบวนการ



ส่วนกรณีที่บอสพอล ยืนยันว่า ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมาตรงมา และถามว่าผิดอะไร อยากฝากไปถึงบอสพอล ควรเปลี่ยนจากคำว่า " ผิดอะไร" เป็น " จะแก้ไขอะไรดีกว่า" เพราะจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนธุรกิจ "ตลาดแบบตรง" คือ การทำตลาดสินค้าในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลผ่านออนไลน์เพื่อให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า แต่ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวกลับทำออกมาเป็นลักษณะ "ธุรกิจขายตรง" เคยขออนุญาตจากทาง สคบ.แล้วแต่ไม่ผ่าน กลับยังดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งในเบื้องต้นจะมีความผิดในการขอใบอนุญาตธุรกิจตลาดขายตรง รวมถึงการโฆษณาเชิญชวนที่เกินจริง



ตอนนี้มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนบริษัทนี้ผ่านศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์และศูนย์ข่าวต้านโกง แล้ว 110 ราย 89 ราย อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนอีก 21 รายเป็นผู้เสียหายใหม่ ที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการ ส่วนผู้เสียหายที่ร้องผ่านองค์กรและหน่วยงานอื่นมีมากกว่า 500 คน อยู่ระหว่างทยอยเข้าแจ้งความ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/x7C7GegEjk8

คุณอาจสนใจ

Related News