สังคม

อนุฯ ปลาหมอคางดำ สรุปผลศึกษา ชี้ พบเอกชนรายเดียวนำเข้า

โดย panwilai_c

25 ก.ย. 2567

40 views

อนุ กมธ.ปลาหมอคางดำ ได้บทสรุปผลการศึกษา พบ บ.เอกชนนำเข้ารายเดียว ขณะ กรมประมง ชี้การแพร่ระบาด คาดสาเหตุจากการเคลื่อนย้าย แนะเร่งฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบ หมอเก่ง ย้ำ พอใจผลการศึกษาในระดับหนึ่ง เตรียมตรวจการบ้านอย่างต่อเนื่อง แม้อนุ กมธ.หมดหน้าที



25 ก.ย. 2567 ที่รัฐสภา นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะ แถลงสรุปผลโดยไล่เลียงผลการศึกษา ตั้งแต่การนำเข้าปลาหมอคางดำมาในประเทศไทย ซึ่งพบว่า มีเอกชนเพียงรายเดียวที่ดำเนินการขออนุญาตเพื่อนำเข้าปลาหมอคางดำ เข้ามาในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2549 บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการขออนุญาตเพื่อนำเข้ามากับกรมประมง ซึ่งกรมประมงได้มอบหมายให้คณะกรรมการด้านความหลากหลายและความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือไอบีซี เป็นผู้พิจารณา จากนั้น ปี 2553 บริษัทขออนุญาตกรมประมงอีกครั้ง และได้อนุญาตนำเข้าประหมอคางดำ 2,000 ตัว จากสาธารณะรัฐกานา



โดยแจ้งว่ามีเป้าประสงค์เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ปลานิล ที่ศูนย์วิจัยสัตว์น้ำ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และได้ทำข้อตกลงกับไอบีซี แต่ทั้งนี้ปลารอดชีวิตจากการขนส่งมาได้เพียง 600 ตัว และได้ทยอยตายในบ่ออนุบาลจนเกือบหมดภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ บริษัทจึงไม่สามารถทำการวิจัยได้และได้มีการทำลายและฝังกลบปลา พร้อมเก็บซากปลาใส่ขวดโหลดองน้ำยาสองขวด ส่งมอบให้กับกรมประมงตามเงื่อนไข



แต่จากคำชี้แจงของกรมประมงไม่พบบันทึกการรับมอบขวดโหล ต่อมาเมื่อปี 2560 พบการระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดเพชรบุรี กรมประมงจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และได้เก็บตัวอย่างขึ้นมาถอดรหัสพันธุกรรมไว้ในคลังและฐานข้อมูลของกรมประมง



พร้อมกันนี้ กรมประมงยังบ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำมีลักษณะเป็นหย่อมๆ ไม่เชื่อมต่อกัน ดังนั้นการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่อาจมีสาเหตุมาจากการเคลื่อนย้ายปลาหมอคางดำ โดยการกระทำของมนุษย์มากกว่าการแพร่กระจายไปตามเส้นทางน้ำ ซึ่งหลังจากนั้น การแพร่ระบาดทวีความรุนแรงขึ้นทำให้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 450 ล้านบาท มาดำเนินการแก้ไขปัญหา



ทั้งนี้ คณะอนุกรรมมาธิการเห็นว่า รัฐควรดำเนินการเสาะหาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามกฎหมายและยังเห็นว่ากระทรวงต่างๆ ควรบูรณาการและเร่งแก้ปัญหาฟื้นฟู และเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดอย่างเป็นระบบ


https://youtu.be/Ax4IQEUF_E8

คุณอาจสนใจ

Related News