สังคม

ตั้งคณะสงฆ์สอบปมยืมเงินสีกา 9 ล้าน ไม่คืน ด้านเจ้าอาวาส เข้าแจ้งความถูกขู่บังคับรับสภาพหนี้

โดย panwilai_c

5 ก.ย. 2567

80 views

ยังตามต่อกรณีหญิงวัย 57 ปี ร้องถูกเจ้าอาวาสวัดดังในจังหวัดปทุมธานี ยืมเงินเกือบ 10 ล้านบาท แล้วไม่คืน ล่าสุดตั้งคณะสงฆ์สอบสวนเจ้าอาวาสแล้ว ขณะที่เจ้าอาวาส เผยปมยืมเงินโดนขู่บังคับรับสภาพหนี้ แต่เงินโอนเข้าบัญชีจริง



จากกรณีที่นางกฤษณา อายุ 57 ปี มาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังถูกพระครูสมบูรณ์ สิริปุญโญ เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม ซึ่งอยู่ที่ย่านลำลูกกาคลอง 13 ยืมเงินเกือบ 10 ล้านบาท แต่บ่ายเบี่ยงใช้คืนไม่ครบ แถมยังบอกว่าให้ไปยึดโบสถ์ เพื่อเป็นค่าใช้หนี้แทน



ล่าสุดเมื่อเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดพืชอุดม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พบกับพระครูสุวรรณวรการ เจ้าคณะอำเภอลำลูกกา ประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดธาตุ วัดสุวรรณบำรุงราชวราราม จ.ปทุมธานี หลังได้ตั้งคณะสงฆ์สอบสวนพระอธิการสมบรูณ์ บุญศรี เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม โดยมีนายคมสันต์ ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอลำลูกกา และตำรวจ สภ.คลองสิบสอง มาสังเกตการณ์ในการประชุมครั้งนี้ด้วย



โดยการประชุมเจ้าหน้าที่ขอให้สื่อมวลชนเก็บภาพได้แต่เพียงด้านนอกไม่อนุญาตให้ร่วมเข้ารับฟังด้วย แต่หลังจากประชุมหารือเสร็จทางวัดจะมีแนวทางชี้แจงแถลงข่าวต่อไป



ทั้งนี้ก่อนประชุมผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจาก พระอธิการพระสมบูรณ์ บุญศรี อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 เวลา 16.00 น. อาตมาได้ไปแจ้งความเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2567 ได้มีสีกาข่มขู่ให้ยินยอมรับสภาพหนี้ 9,200,000 บาท และเงินค่าจ้างค้างจ่ายสถานีวิทยุทหารอากาศ อีก 230,000 บาท เป็นสภาพบังคับที่ทำให้อาตมา ไม่สามารถหลบเลี่ยงจากการถูกบีบบังคับ ขืนใจให้กระทำในสิ่งที่ตนมิได้ยินยอม แต่ไม่สามารถขัดขืนได้ จึงมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน



และเรื่องที่ไปเซ็นรับสภาพหนี้นั้น วันนั้นอาตมาไปหาคณะสงฆ์ เเล้วอีกฝ่ายขู่ถ้าไม่ยอมรับสภาพหนี้ ก็จะให้สึก อาตมาก็อยู่ในสภาวะจำยอม จึงได้เซ็นไป แล้วหลังจากนั้นก็ได้ไปแจ้งความว่าถูกบังคับให้เซ็นรับสภาพหนี้ ส่วนเรื่องการยืมเงิน ถ้าหมายถึงการกู้ยืมนั้น ไม่มี แต่ถ้ายืมปากเปล่านั้นจะว่าไปก็เป็นการสร้างโน้น บูรณะนี่ ก็บอกกล่าวแล้วเขาก็จะมาช่วย โดยการบริจาคนั้นก็แล้วแต่ละครั้งมากน้อยแตกต่างกันไป มีทั้งหมื่น 2 หมื่น 3 หมื่น แสนนึงประมาณนี้ ซึ่งหลังจากได้เงินมาก็เอาไปทำเลย โดยผ่านทางบัญชีของอาตมา



ด้านนายอ้วน เป็นโยมอุปัฏฐาก กล่าวว่า ที่มีการอ้างว่าจะเอาโบสถ์ไปใช้หนี้นั้น ไม่เป็นความจริง ใครจะเอาไปให้เขา เรื่องของเรื่องสาเหตุที่มีการทวงหนี้กัน เนื่องจากที่ผู้หญิงท่านนี้มาทำบุญที่วัดยาวนาน 12-13 ปี โดยพระอาจารย์บอกบุญไปนั้น ถ้าใครไม่สะดวกมาทำบุญที่วัดก็จะเป็นการโอนเงินมาทำบุญ หรือบางทีจะมาทำบุญที่ท่านเอง ส่วนเรื่องที่เป็นหนี้กันนั้นตนไม่ทราบ แต่เคยมีเงินที่เขาช่วยทำบุญมาประมาณ 6-7 หมื่นบาท ซึ่งกรรมการวัดก็ลงบัญชีไว้ แต่พอวันต่อมา เขาได้มาขอคืนเงินจากคณะกรรมการ บอกว่าไม่อยากทำแล้ว ขอคืนดีกว่า ซึ่งการกระทำของเขาเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง ซึ่งตนไม่รู้ เขาอาจจะเป็นคนที่มี 2 บุคลิกหรือไม่ พอดีก็ทำบุญ แต่พอผ่านไปก็มาขอเงินคืน แล้วทางวัดก็คืนให้ โดยเงินที่เขาทำบุญกับวัดนั้น ส่วนใหญ่จะโอนเงินเข้าบัญชีพระอาจารย์ แต่ว่าทำบุญกับวัด หรือให้อาจารย์นั้น ตนก็ไม่แน่ใจ



ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนเจ้าอาวาสสมบูรณ์ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป สอบถามพระครูอาทรธัญญารักษ์ เจ้าคณะตำบลบึงคอไห เจ้าอาวาสวัดโสภณาราม เผยว่า หลังประชุมทางคณะพระสงฆ์กำลังรอผู้ร้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า มีการยืมเงินกันจริงหรือไม่ จากนั้นทางคณะสงฆ์จะทำรายงานส่งให้เจ้าคณะจังหวัดและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณา เพื่อดำเนินการตามขึ้นตอนต่อไป



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vf44LjK_4Jk

คุณอาจสนใจ

Related News