สังคม

หญิงร้อง เจ้าอาวาสวัดดังยืมเงินเกือบ 10 ล้าน พอทวงเจอบีบคอ ลั่นยึดโบสถ์ไปเลย!

โดย panwilai_c

4 ก.ย. 2567

111 views

เจ้าอาวาสวัดดัง ยืมเงินสีกา 9.2 ล้าน บอกอยากได้คืนก็มายึดโบสถ์



หญิงวัย 57 ปี ร้องสายไหมต้องรอด หลังเจ้าอาวาสวัดดังย่านลำลูกกาคลอง 13 ยืมเงิน 9 ล้าน 2 แสนบาท บอกถ้าอยากได้เงินคืนมายึดโบสถ์ไป ป้าบอก ถ้ายึดได้โบสถ์ก็เอา



เจ้าของเงิน 9 ล้าน คือ นาง กฤษณา อายุ 57 ปี นำหลักฐานเอกสารการกู้ยืมเงินของเจ้าอาวาสวัดชื่อดังย่าน ลำลูกกา คลอง13 มาแสดงต่อนาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่า เจ้าอาวาสยืมเงินมา 20 กว่าปี ยังไม่คืนสักที พอมาถึงเจ้าอาวาสท้าให้ไปยึดโบสถ์เอา



ส่วนสาเหตุที่ นาง กฤษณา ให้เจ้าอาวาสยืมเงินมากขนาดนี้ เพราะที่บ้านเป็นโยมอุปัฏฐากวัดดังกล่าวมาตั้งแต่รุ่นพ่อจึงมีความคุ้นเคยกับวัดและรู้จักเจ้าอาวาสมานาน กระทั่งปี 2552 เจ้าอาวาสก็ถามว่า "พอมีตังค์ใช่มั้ยจะขอยืมมาบูรณะซ่อมแซมวัด" เธอก็ให้ยืมด้วยความเคารพและศรัทธา ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน มีทั้งเงินสดที่นำไปให้ที่กุฏิ และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสอ้างว่า หากโอนเข้าบัญชีวัดจะยุ่งยาก แต่ผ่านมาถึงวันนี้ วัดก็ยังเหมือนเดิมซ่อมอะไรก็ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่เห็นมีการบูรณะ



พอถึงกำหนดคืน ก็อ้างว่าหากได้เงินกฐิน เงินผ้าป่าจะเอามาคืน แต่พอถึงเวลาก็ไม่เคยได้คืนแม้แต่บาทเดียว แต่กลับบอกว่า ให้ยึดโบสถ์ ยึดศาลา ยึดของในวัด ไปเลย พร้อมให้กุญแจโบสถ์มากับเธอเพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และก่อนหน้านี้ยังเคยถูกเจ้าอาวาสทำร้ายด้วยการถีบและบีบคอ แถมอ้างที่ทำไปไม่ได้ถีบ แต่ยัน ส่วนที่บีบคอแค่เผลอตัว



ทำให้เธอไปร้องเจ้าคณะอำเภอ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วันนั้นเจ้าอาวาสได้ทำสัญญารับสภาพหนี้ โดยบอกว่าจะใช้หนี้ให้หมดภายในเดือนสิงหาคม แต่จนถึงวันนี้ได้เงินมาแค่ 3,000 บาท จึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด



ป้ากฤษณา ถามคุณเอกภพด้วยว่า สามารถไปยึดโบสถ์ตามที่เจ้าอาวาสบอกได้หรือไม่ หากยึดได้ก็จะทำ ทุกคนยังสามารถมาบวชได้ตามปกติ แต่เธอจะเก็บเงินตามจิตศรัทธา สาเหตุที่คิดจะทำแบบนี้เพราะเธอเดือดร้อน เงินมรดกที่ได้มาจากพ่อคือเงินทั้งชีวิตแต่กลับถูกเจ้าอาวาสยืมไปจนหมด เครียดมาก คิดที่จะฆ่าตัวตายเตรียมยาไว้แล้วจะไปกินฆ่าตัวตายภายในวัด



นายเอกภพ บอกว่า ตามความจริงแล้วไม่สามารถยึดโบสถ์ได้แต่เมื่อเจ้าอาวาสทำเอกสารรับสภาพหนี้ทางผู้เสียหายสามารถไปฟ้องส่วนตัวและให้ยึดทรัพย์ที่เป็นซับส่วนตัวมาใช้นี้ได้ จากนั้นพาป้ากฤษณา มาพบกับพระครูโสภณภัทรเวทย์ หรือ พระครูอ๊อด เจ้าอาวาสวัดสายไหม และรองเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา เพื่อขอคำปรึกษา



พระครูอ๊อด บอกว่า โบสถ์ไม่สามารถยึดได้ เพราะวัดป็นการดูแลของสำนักงานพระพุทธศาสนา และทรัพย์สมบัติของวัดก็ไม่สามารถนำมาขายได้ ไม่สามารถนำไปเข้าไฟแนนซ์ หรือให้ใครได้ ส่วนการยืมเงินก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้าอาวาส เรื่องนี้จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน ให้เจ้าอาวาสมาชี้แจงเรื่องเงินว่านำไปใช้อะไร หากทำผิดจริงก็มีความผิดยักยอกทรัพย์ สามารถให้สึกจากความเป็นพระได้



พระครูอ๊อด โทรศัพท์ไปหาลูกศิษย์คนสนิทของเจ้าอาวาสคนดังกล่าว ชี้แจงว่าเงินที่เจ้าอาวาสยืมมาไม่ได้ใช้ในการบริหารวัดเลย เงินที่ทอดผ้าป่าทอดกฐินก็นำมาใช้บริหารวัดน้อยมาก ส่วนตัวไม่รู้ว่าเจ้าอาวาสเอาเงินไปทำอะไร เพราะตอนนี้ได้ลาออกมาแล้ว จากนั้นป้ากฤษณาถามว่า รู้เรื่องที่เจ้าอาวาสโอนเงินที่ยืมไปโอนให้กับผู้หญิง 2 คน และออกไปไหนมาไหนในยามวิกาลไหม ยังไม่รวมพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่ไม่เหมาะสม ไปฟังเสียงช่วงนี้



ล่าสุดเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา ได้เรียกเจ้าคณะตำบลทั้ง 6 มาหารือ และอยู่ระหว่างเชิญตัวเจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหามาให้ข้อเท็จจริงด้วย


https://youtu.be/0cKXoq2A0hg

คุณอาจสนใจ