'เอส-อาร์ท' ยันไม่ได้เปลี่ยนสูตรเหล้าทำยาดองมรณะ ขอโทษสังคม เสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต

ตำรวจบุกจับ "เอส-อาร์ท" 2 พี่น้อง เจ้าของเหล้าที่ "เจ๊ปู" นำไปต้มสมุนไพรจนกลายยาดองมรณะ ก่อนจะกระจายส่งขายในหลายพื้นที่ โดนตำรวจจับอีกครั้ง ตามหมายจับ "ฆ่าโดยเจตนา" แต่ทั้งคู่ยืนยันไม่ได้ผสมสารอันตราย



หากจำกันได้ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ตำรวจ สน.บางชัน บุกจับนายสุรศักดิ์ หรือ เอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย หรือ อาร์ท อายุ 44 ปี สองพี่น้อง ในข้อหาผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะเหล้าที่ทั้งคู่ผลิตขึ้นมาไปนำไปขายให้กับเจ๊ปู เพื่อไปผสมยาดองขาย จนเกิดเป็นคลัสเตอร์ยาดองมรณะในพื้นที่ สน.มีนบุรี แล้วตำรวจคุมตัวทั้งคู่ฝากขังที่ศาลมีนบุรี วันนั้นทั้งคู่ยื่นประกันตัวในวงเงิน 5 หมื่นบาท แต่ศาลไม่อนุญาต



ต่อมา 27 สิงหาคม สองผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง โดยเพิ่มหลักทรัพย์เป็น 1 แสนบาท ศาลจึงอนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับที่ผลตรวจของกลางจากบ้านของผู้ต้องหาที่กรมสรรพสามิตยึดไปตรวจสอบ พบว่ามีสารเมทิลแอลกอฮอล์ หรือ เมทานอลปนเปื้อน



วันที่ 28 สิงหาคม ตำรวจ สน.มีนบุรี จึงได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับทั้ง 2 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันปลอมปนอาหารเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายสาหัส และถึงแก่ความตาย ร่วมกันผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และเตรียมไปแจ้งข้อหาเพิ่มในเรือนจำ



29 สิงหาคม ตำรวจสืบสวนเข้าตรวจค้นบ้านเอส-อาร์ท อีกครั้ง หลังทราบว่า ทั้งคู่ได้ประกันตัวชั่วคราว แต่ทั้งคู่ได้เดินทางไปที่จังหวัดลพบุรี ก่อนจะไปอาศัยอยู่กับญาติที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปจับกุม



ทำให้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนนครบาลคุมตัวทั้งคู่มาสอบปากคำเบื้องต้นที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทันทีที่เจอกับสื่อมวลชน อาร์ท ได้กล่าวว่า อยากกราบขอโทษสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขี้น รู้สึกเสียใจกับผู้ที่สูญเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า ได้มีการนำเมทิลแอลกอฮอล์มาผสมเป็นสุราหรือไม่ รู้หรือไม่ว่าเมทิลแอลกอฮอล์รับประทานไม่ได้ และไปหาส่วนผสมจากแหล่งอื่นมาจากที่ไหน ทั้งอาร์ทและเอสไม่ตอบคำถามอะไรอีก ก้มหน้าขึ้นรถ เพื่อส่งตัวไปที่ สน.มีนบุรี



กระทั่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พลตำรวจตรี เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เข้าสอบปากคำ เอส-อาร์ทด้วยตัวเอง ตอนที่ตำรวจได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาออกมาจากห้องสืบสวน ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายอาร์ท ถึงที่มาของเมทิลแอลกอฮอล์อีกครั้ง โดยนายอาร์ท ยังคงยืนยันว่า ซื้อเอทานอล 95% ฟู้ดเกรด มาจากบริษัทย่านบางเสาธงที่เดียว ไม่เคยเปลี่ยนที่ซื้อ พร้อมยอมรับว่า ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าของเดิม ค้างไว้ประมาณ 25,000 บาท แต่ก็ยังไม่ได้สั่งของเพิ่ม โดยสุราล็อตล่าสุดที่ทำส่งให้เจ๊ปูนั้น ยังใช้เอทานอลของเดิมที่มีอยู่ ไม่ได้ไปสั่งที่ไหนเพิ่ม



ส่วนที่ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าเอทานอลนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่ยังไม่ได้สั่งล็อตใหม่เลยยังไม่ได้ไปจ่าย และไม่รู้ว่าเอทานอลที่บ้านมีเมทานอลปนเปื้อน และทุกครั้งที่ผลิตสุราก็ใช้สูตรเดิม แต่ไม่ตอบว่ามีการใส่ส่วนผสมอื่นเพิ่มหรือไม่



ราวบ่ายโมงครึ่ง พลตำรวจตรี เกียรติกุล แถลงข่าวรายละเอียดคดี โดยบอกว่า คดีนี้มีผู้ต้องหา 3 คน คือนางสาวภัสส์รศา หรือ เจ๊ปู นายสุรศักดิ์ หรือ เอส  และนายสุรชัย หรือ อาร์ท  เมื่อวานนี้ได้เรียกเจ๊ปู มารับทราบข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ปลอมปนอาหารเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายสาหัส และถึงแก่ความตาย



ส่วนเอส - อาร์ท ยังให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้ใช้สารเมทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ตำรวจก็มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งจากการเข้าตรวจค้นบ้านของเอสและอาร์ทเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ ก็พบวัตถุพยานเป็นแกลลอนที่ใช้ใส่สารเคมีแ ละเหล้าขาวเพิ่มเติม ซึ่งต้องนำส่งเพื่อไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนการสืบสวนหาแหล่งที่มาของเมทิลแอลกอฮอล์ กำลังดำเนินการ



ซึ่งระหว่างการแถลงข่าว เอส และอาร์ท ขอพูดกับสื่อมวลชน โดยอาร์ทกล่าวว่า อยากขอโทษสังคมถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สำนึกผิด และเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยสูตรการผสมสุรานั้น เขาได้ศึกษามาจากรุ่นพี่ที่ทำเป็น และดูจากตำราสุราพื้นบ้าน ซึ่งศึกษามานานพอสมควร แต่จำระยะเวลาไม่ได้ ส่วนที่เหลือขอไปให้การในชั้นศาล ส่วนเอสพูดสั้นๆ ว่า ตามที่น้องได้พูดไปหมดแล้ว



สำหรับยอดของผู้ป่วย ล่าสุดเมื่อเช้านี้ ได้รับผู้ป่วยมาเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้ป่วยสีเขียวที่ตรวจพบจากการเข้าไปค้นหากลุ่มเสี่ยง สรุปตอนนี้ มีผู้ป่วยรวมแล้วทั้งหมด 43 ราย เสียชีวิต 6 ราย กลับบ้านแล้ว 27 ราย ยังรักษาอยู่ในระบบ 10 ราย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/W_k3iAzk9uM