แม่สาวหล่อ ขอโทษ บอกลูกป่วยทางจิต หลังขโมยรถกลางห้างดัง ขับหนีชนดะ

แม่ของสาว LGBTQ+ ที่ก่อเหตุขโมยรถยนต์จากลานจอดรถในห้างสตรีทรัชดา สารภาพลูกสาวป่วยทางจิต เพราะตกงานช่วงโควิด ขอโอกาสสังคมให้ลูกได้รักษา สัญญาจะดูแลให้ดีกว่านี้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวานนี้ (2ต.ค.67) ผู้ก่อเหตุเป็นสาว LGBTQ+ ขับรถพุ่งชนแผงเหล็กกั้น และพุ่งฝ่าวงล้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างเดอะสตรีท รัชดา หลังขโมยรถคันนี้จากลานจอดรถภายในห้าง เพราะคนขับติดเครื่องทิ้งไว้ให้น้อง "มอร์ตี้" แมวน้อยที่นั่งรอในรถ ขณะเดินเข้าไปซื้อของภายในห้างไม่ถึง 5 นาที - จากคลิปจะเห็นว่า สาวผู้ก่อเหตุพุ่งชนเหล็กกั้น จนเกือบจะชน รปภ. ของทางห้าง ที่พยายามเข้าไปสกัดรถคันนี้ แม้ว่าทาง รปภ.ของห้างจะเข้าไปทุบกระจกรถ แต่เธอก็ยังไม่หยุด สุดท้ายได้ขับรถฝ่าวงล้อม ขับหนีออกไปตรงประตูทางออกได้- กล้องวงจรปิดพบว่าก่อนจะก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาที่ห้างบิ๊กซีรัชดาตอนประมาณ 10.21 น. จากนั้นได้เปลี่ยนรองเท้าจากรองเท้าแตะเป็นรองเท้าคัชชู และเวลา 10.56 น. ได้ออกจากห้างบิ๊กซี ไปที่ห้างเดอะสตรีทรัชดา และอยู่ที่ห้างเดอะสตรีทประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง และลงมือก่อเหตุขโมยรถตอน 14.03 น. สุดท้ายเกือบ 5 ทุ่มตำรวจไปตามจับหญิงคนนี้ได้ที่อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งภายในซอยนาคนิวาส 16 ส่วนรถถูกจอดหน้าอพาร์ตเมนต์และถูกถอดทะเบียนป้ายแดงออก ตรวจสอบในรถเจอ "มอร์ตี้" แมวพันธ์ไทย ยังอยู่ในรถซึ่งพบว่าปลอดภัยดี

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ เป็นสาว LGBTQ อายุ 39 ปี มีประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตเวชที่จังหวัดขอนแก่นมานานกว่า 1 ปี โดยผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกมาจากบ้านพักย่านธัญญบุรี จังหวัดปทุมธานีมาแล้ว 3 วัน เบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ

โดยยอมรับว่าขับรถไปตามเส้นทางดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้ขโมย เนื่องจากมีคนบอกให้ขับรถออกมา ซึ่งในวันนี้ตำรวจได้เรียกครอบครัวของผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ หลังสอบปากคำครอบครัวผู้ก่อเหตุนายกว่า 4 ชั่วโมง

แม่ของผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ บางช่วงเสียงสั่น น้ำตาคลอ บอกว่า ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น รู้สึกเสียใจมากๆ ทำให้ทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหาย เรื่องทุกอย่างขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมยอมรับว่า ลูกสาวมีภาวะเครียดและมีอาการซึมเศร้า เพราะตกงานในช่วงโควิด แต่ไม่บอกให้ทางครอบครัวรู้ จนกระทั่งมีอาการหนักขึ้น เคยรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดขอนแก่นอยู่ปีกว่า แต่พอออกมาก็ไม่กินยาจนอาการกำเริบอีก ล่าสุดก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกันเล็กน้อย ทำให้ลูกสาวน้อยใจหนีออกจากบ้านจนมาก่อเหตุ

ขณะที่เจ้าของรถ อายุ 27 ปี เดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและดูสภาพรถ บอกว่า ยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเล่าว่า เมื่อวานนี้ขับรถไปกับแฟนและน้องแมว แล้วจอดรถหน้าห้างเพื่อจะเข้าไปซื้อยา แต่สตาร์ทรถทิ้งไว้เพราะมีแมวในรถ และคิดว่าไปไม่นาน คงไม่เป็นอะไร เนื่องจากมีคนพลุกพล่าน  มี รปภ. อยู่- พอเดินกลับมาก็เห็นรถตัวเองขับผ่านหน้าไป และขับรถวนไปวนมาเพื่อหาทางออก จังหวะนั้นมีพลเมืองดี ขับไปขวางไว้ให้จึงดึงประตูข้างรถ ผู้ก่อเหตุ ยังหันมาท่าทีเอาเรื่อง บอกว่า "รถกู กูผิดอะไร" แล้วขับชนรถพลเมืองดี ทำให้พลเมืองดีต้องถอยรถออก รปภ. ช่วยกันเอาแผงเหล็กมากั้น ผู้ก่อเหตุก็ขับรถฝ่าแผงเหล็กออกจากห้างไป เขานั่งวินมอเตอร์ไซค์ตามไปถึงแยกรัชโยธิน ก็คลาดกันไป จึงเข้ามาแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง- ส่วนที่ผู้ก่อเหตุบอกว่า ป่วย มันย้อนแย้งกับการกระทำ เพราะมีการขับรถออกไปแล้วยังไปจอดเพื่อถอดป้ายทะเบียนรถออก ช่วงที่พยายามจะเอารถออกจากห้าง ก็เหมือนมีการคิดตัดสินใจอยู่ตลอดในการขับชน จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย กลัวว่าจะไปก่อเหตุให้ใครเดือดร้อนอีกและอีก 1 คนที่เป็นฮีโร่ในการสักดจับคนร้ายขโมยรถ

โดยพ.ต.ต.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล สารวัตรกองกำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม เล่าว่า ขณะขับรถกลับบ้านกับแฟนและหลาน 2 คน ช่วงแยกรัชโยธิน เจอรถคันนี้มีร่องรอยเฉี่ยวชนด้านข้าง จึงเอะใจว่าเป็นคันเดียวกับที่มีข่าวหรือไม่ จึงตัดสินใจขับตามไปถึง ซอยรามอินทรา 14 คนร้ายรู้ตัวว่าถูกขับตามจึงจอดรถอยู่ข้างทาง

จากนั้นคนร้ายกลับรถเข้าไปจอดในปั๊มน้ำมัน จึงกลับรถตามไปจอดรถใกล้ๆ กัน แล้วเดินเข้าไปหาที่ข้างรถพร้อมแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ- ตอนนั้นคนร้ายมีอาการตกใจและจะเหยียบคันเร่งหนี แต่มือของเขาจับพวงมาลัยเอาไว้พร้อมกับเกาะประตูรถ แต่คนร้ายไม่สนใจ ถอยรถทำให้เขาโดนลากไปกับรถยาวกว่า 100 เมตร มีแผลถลอกที่ข้อศอกหัวเข่าและเท้าทั้ง 2 ข้าง ส่วนรถคันร้ายหนีไปได้ส่วนการดำเนินคดีตำรวจจะส่งตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจสภาพอาการทางจิต ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาก่อน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ss_ai9yw-Js