สังคม

ดับเพิ่มอีก 1 เหยื่อยาดองมรณะ ร้านยัน 'เอส-อาร์ท' มาซื้อเอทานอล

โดย nattachat_c

3 ก.ย. 2567

51 views

ดับเพิ่มอีก 1 เหยื่อยาดองมรณะ สังเวยชีวิตรวมแล้ว 8 ศพ ยังใส่ท่อช่วยหายใจอีก 5 ป่วยสะสม 44 ราย ด้าน ผบก.น.3 นำหมายค้นเข้าตรวจค้นร้านขายเคมีภัณฑ์ ใน จ.สมุทรปราการ ร้านที่ ‘เอส-อาร์ท’ ซื้อเอทานอลมาทำเหล้า ตร.พบหลักฐานกลางเดือน ส.ค. ผู้ต้องหามาซื้อสารเคมีรวม 24 แกลลอน


วันที่ 2 กันยายน 2567 สถานการณ์ผู้ป่วยได้รับสารพิษ ‘เมทานอล’ กรุงเทพมหานคร จากกรมการแพทย์ และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยทั้งหมด รวม 44 ราย

  • เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 8 ราย
  • ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 30 ราย
  • ผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัว เหลือ 6 ราย
  • อยู่ระหว่างกำลังใส่ท่อช่วยหายใจ 5 ราย


แบ่งผู้ป่วยตาม รพ.ดังนี้

  • รพ.นพรัตนราชธานี (สีแดง) 1 ราย (สีเหลือง) 1 ราย และ(สีเขียว) 1 ราย
  • รพ.ราชวิถี (สีแดง) 1 ราย, รพ.เลิดสิน (สีแดง) 1 ราย
  • รพ.เชียงคำ (สีแดง) 1 ราย
  • สำหรับผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเสียชีวิตที่ รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง เป็นผู้ป่วยเดิมที่อาการหนักตั้งแต่แรกที่เข้ารับการรักษา


ขณะที่ วานนี้ (2 ก.ย. 67) เวลา 15.00 น. พลตำรวจตรี เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3  พันตำรวจเอกอิสระ ณ พัทลุง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3  พันตำรวจเอกกฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับก่ร สน.มีนบุรี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สน.มีนบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นเข้าตรวจค้นร้านขายเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขยายผลคดียาดองมรณะในพื้นที่ สน.มีนบุรี


โดยจุดที่เข้าตรวจคนในวันนี้ เป็นร้านขายเคมีภัณฑ์ ที่จำหน่ายสารเคมีให้กับ นายสุรศักดิ์ หรือ เอส และ นายสุรชัย หรือ อาร์ท สองพี่น้องผู้ต้องหาที่ผลิตสุราเถื่อนส่งให้กับเจ๊ปูไปผลิตยาดอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ให้การยอมรับกับตำรวจว่า ได้มีการเปลี่ยนร้านในการสั่งซื้อสารเคมีมาผลิตสุราจริง


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เอสและอาร์ท ได้สั่งเอทิลแอลกอฮอล์จากร้านเคมีภัณฑ์ย่านบางเสาธง แต่เนื่องจากค้างชำระค่าเอทิลแอลกอฮอล์ ล็อตล่าสุด ทางร้านจึงไม่ขายให้


ผู้ต้องหาจึงเปลี่ยนมาซื้อสารเคมีที่ร้านนี้ไปผลิตสุราส่งเจ๊ปู แต่จากคำให้การทั้ง 2 คน ยังยืนยันว่า สารเคมีที่ซื้อจากร้านนี้คือ เอทิลแอลกอฮอล์ ที่รับประทานได้ ไม่ใช่เมทิลแอลกอฮอล์ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงไปขอศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายค้นเข้าตรวจค้น


โดยลักษณะของร้านเคมีภัณฑ์ที่เข้าตรวจค้น เป็นร้านขนาดใหญ่ ด้านในทำเป็นโกดังเก็บสารเคมีหลากหลายชนิด ด้านหน้าติดป้ายไว้ว่า จำหน่ายเคมีภัณฑ์คาร์แคร์ทุกชนิด น้ำยาคาร์แคร์สำเร็จรูป และน้ำยาคาร์แคร์จัดชุดผสมเอง


เบื้องต้น พนักงานของร้าน ให้ข้อมูลว่า เป็นเพียงลูกจ้าง เจ้าของร้านจะให้นำสารเคมีชนิดต่าง ๆ มีผสมตามสูตรของร้าน ทำเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาคาร์แคร์ต่าง ๆ แล้วจำหน่ายให้กับลูกค้า ส่วนมากจะเป็นร้านคาร์แคร์ โดยสารเคมีที่ใช้ เช่น สารบิวทิล สำหรับขจัดน้ำมัน ล้างห้องเครื่อง คานูบาแวกซ์เคลือบเงา น้ำยาทำฟอง N70 น้ำยาสลายคราบยางมะตอย


พนักงานของร้าน ยืนยันว่า ไม่มีตัวไหนที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และไม่เคยเห็นว่าที่ร้านมีการนำเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเมทิลแอกอฮอล์มา เมื่อถามว่าร้านมีใบอนุญาตหรือไม่ พนักงานตอบว่าไม่รู้ ต้องถามเจ้าของร้านเท่านั้น ตนแค่มารับจ้างทำงาน


ต่อมาราว 4 โมงเย็น เจ้าของร้านได้เดินทางมาถึงที่ร้าน และได้ให้ข้อมูลกับตำรวจ ยืนยันว่า เอส-อาร์ท ซื้อสารเคมีที่ร้านจริง แต่เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ 95% ซึ่งเป็นของที่เขาเคยซื้อมาตั้งแต่ช่วงปี 2563 ตอนนั้น ได้สั่งเอทิลแอลกอฮอล์ มาผลิตเจลล้างมือขายช่วงโควิด แต่ต่อมา เศรษฐกิจไม่ดี ของขายไม่ได้ จึงเหลือเอทิลแอลกอฮอล์สต็อกไว้อยู่ โดยปกติร้านจะขายขนาดแกลลอนละ 20 ลิตร ใส่แกลลอนสีน้ำเงิน แต่ผู้ต้องหาบอกว่า อยากได้ขนาดถังละ 15 ลิตร จึงนำแกลลอนเปล่าของตัวเอง เป็นแกลลอนสีใสเอามาให้ร้านแบ่งใส่ให้ และมีคนมารับของไปวันที่ 19 สิงหาคม จำนวน 18 แกลลอน


เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่า ตอนนี้ที่ร้านยังมีสารตัวดังกล่าวที่ขายไป หรือยังมีบรรจุภัณฑ์อยู่หรือไม่ เจ้าของร้าน ระบุว่า ตอนนี้ไม่มีสารตัวดังกล่าวเหลืออยู่ที่ร้านแล้ว เพราะส่วนที่เหลือจากการแบ่งขายไปให้กับผู้ต้องหา ก็ได้เอาไปผสมทำน้ำยาตัวอื่น ส่วนถังที่บรรจุมาก็นำไปผ่าทิ้งแล้ว แต่ยืนยันว่ามีหลักฐานการซื้อสารตัวนี้มาจริง และเคยถูกกรมสรรพสามิตสั่งปรับ เพราะกักตุนแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด ในช่วงโควิด


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บตัวอย่างสารเคมีทั้งหมดในร้าน รวมถึงแกลลอนบรรจุต่าง ๆ ไปตรวจพิสูจน์ทั้งหมดว่า มีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์หรือไม่ และจะเรียกเจ้าของร้าน รวมถึงลูกจ้างอีก 5 คน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม


ทีมข่าวได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่า จากการตรวจสอบตำรวจพบพยานหลักฐานว่าผู้ต้องหามีการสั่งซื้อสารเคมีจากร้านนี้จริง โดยมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีของร้าน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสารเคมีที่ซื้อเป็นสารอะไร


โดยพบว่า ช่วงประมาณกลางเดือนสิงหาคม ผู้ต้องหาได้เริ่มมาสั่งซื้อสารเคมีที่นี่ เป็นจำนวน 1 แกลลอน ในราคา 1,000 บาทก่อน และครั้งที่สองได้มาซื้ออีก 5 แกลลอน ก่อนที่ในวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา จะนำรถกระบะมาซื้อล็อตใหญ่จำนวน 18 แกลลอน จ่ายเงินเป็นจำนวน 18,000 บาท


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/v3K3IvHQAWo

คุณอาจสนใจ

Related News