สังคม

ตร.แจงปม หนุ่มร้องสายไหมต้องรอด ถูกผู้มีอิทธิพลใช้เอ็ม 16 ยิงถล่ม ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอเวลาตรวจสอบ

โดย panisa_p

5 ส.ค. 2567

53 views

หนุ่มพังงานั่งรถทัวร์หนีตายเข้ากรุง ร้องสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ หลังถูกผู้มีอิทธิพลที่เกาะยาวใหญ่ ควงปืนเอ็ม 16 ไล่ยิงพร้อมขู่ฆ่า แค่บอกให้เตือนลูกชายขี่รถดีๆ สุดช้ำแจ้งความให้ตำรวจช่วย กลับบอกช่วยอะไรไม่ได้



หนุ่มพนักงานโรงแรมที่จังหวัดพังงา เข้าร้องเรียนสายไหมต้องรอด โดยเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่าน ขณะขี่มอเตอร์ไซค์อยู่แถวที่พัก จู่ ๆ ถูกรถคู่กรณีเป็นวัยรุ่นขี่รถกินเลนสวนมา จนเกือบเฉี่ยวชน ตนจึงสบถว่า ...แม่ พร้อมเตือนไปว่า ขี่รถดี ๆ หน่อย แต่คู่กรณีกลับไม่พอใจ จึงไปฟ้องพ่อ ชื่อ แจ็ค ซึ่งอยู่บริเวณนั้นพอดี พ่อของคู่กรณีมาถึง พร้อมกับเพื่อนที่ชื่อโอ๋ ก็บอกให้ลูกชายขอโทษ



ตนจึงพูดเตือนอีกครั้งหนึ่ง ต่อหน้าพ่อว่า ให้ขับรถอย่างระมัดระวัง ทำให้พ่อเขาไม่พอใจ จนมีปากเสียงและชกต่อยกัน แล้วมีการใช้มีด วิ่งไล่แทงไปจนถึงห้องพักพนักงาน หลังจากนั้นทั้งแจ็คและโอ๋ ได้กลับไปเอาเอ็ม 16 มาที่ห้องพักอีกครั้ง มาเคาะประตูเรียก และยิงปืนขู่ที่หน้าห้องพัก พร้อมขู่จะฆ่าให้ตาย



ระหว่างนั้นจึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.เกาะยาว พอตำรวจมาเจอกับพ่อของเด็กคู่กรณี สิ่งแรกที่ตำรวจทำคือ ยกมือไหว้ขอให้ยุติเรื่อง ทั้งที่เห็นว่า พ่อของเด็กถือปืนเอ็ม 16 อยู่ในมือ แต่กลับไม่ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับแนะนำตนให้หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย ให้มาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดที่กรุงเทพฯ เพราะตำรวจในพื้นที่คงช่วยอะไรไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกและภรรยา ที่ยังอยู่ที่เกาะยาว เพราะคู่กรณีเคยมีคดีพยายามฆ่ามาแล้ว เพราะก่อเหตุยิงคนบนเกาะ



ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ ที่นักการเมืองยังต้องเกรงใจ เรื่องนี้อุกอาจมาก ที่นำอาวุธสงครามมายิงข่มขู่ชาวบ้าน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หลังจากนี้จะประสานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อติดตามคดีในพื้นที่ พร้อมพาผู้เสียหายไปเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน ที่กระทรวงยุติธรรม หากกรณีนี้จับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ เดี๋ยวตนจะเอาปี๊บไปให้ที่จังหวัดพังงา



ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ อยู่ที่ตำบลพรุใน อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา พบกับนายวิทูล บุญสพ กำนันตำบลพรุใน และนายภูริภัทร สงวนไถ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 เผยว่า คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่มาอาศัยทำมาหากินอยู่ในเกาะยาว ในฐานะผู้นำท้องที่ ยืนยันว่า พื้นที่เกาะยาวไม่มีผู้มีอิทธิพล เราอยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง ช่วยเหลือกันและกัน ตนไม่รู้จักนายโอ๋ ไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนนายแจ็คเป็นเจ้าของร้านอาหารในพื้นที่



ด้านนายอนุพงษ์ อาษาราษฎร์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะยาวใหญ่ บอกว่า ข่าวที่ออกไปนั้น ส่งกระทบต่อชาวเกาะยาว ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า บนเกาะยาวมีผู้มีอิทธิพล ใช้ความรุนแรง อยากให้สื่อลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องของคนจากที่อื่นมาทะเลาะกัน ขอยืนยันว่าในพื้นที่เกาะยาวไม่มีผู้มีอิทธิพล



ด้านพลตำรวจตรี สมคะเน โพธิ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เผยว่า เบื้องต้นให้ชุดสืบสวนจังหวัดพังงา ร่วมกับตำรวจ สภ.เกาะยาว ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุ 2 คน ข้อหาพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และข่มขู่ให้ตกใจ คาดว่า จะออกหมายจับได้ในวันนี้



เบื้องต้นได้เข้าตรวจค้นบ้านผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องพนักงานโรงแรม พบว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว ขณะเดียวกัน ได้ใช้เครื่องสแกนโลหะหาหัวกระสุน พบว่า พบหัวกระสุนที่ต้นมะพร้าว 1 หัว และที่ใบไม้มีร่องรอยหัวกระสุน คาดว่า เกิดจากตอนที่ผู้ก่อเหตุยิงขู่ผู้เสียหาย ส่วนเรื่องที่ตำรวจแนะนำให้ผู้เสียหายไปร้องเพจสายไหมต้องรอด เพราะตำรวจในพื้นที่ทำอะไรไม่ได้นั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาความจริง



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ECYmrFRvC0k

คุณอาจสนใจ

Related News