แม่เด็ก 8 ขวบ ไม่กังวล พม.ขอคุ้มครองเด็ก เชื่อศาลยึดตามความต้องการเด็กเป็นหลัก

แม่เด็ก 8 ขวบ ออกมาเปิดใจ ในช่วงพักเที่ยงระหว่างการไต่สวนคดี พม. ร้องขอให้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก พร้อมเผยน้องขึ้นเบิกความให้การด้วยตัวเอง ซึ่งชัดเจนว่าไม่มีใครไปกระซิบบอกอะไรได้ แถมยังบอกเชื่อมจิตพิสูจน์ได้ด้วยเทคโนโลยี



ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.ซึ่งเป็นช่วงพักเที่ยง ทางครอบครัวเชื่อมจิต และทนายธรรมราช สาระปัญญา ได้เดินทางออกมาจากศาลเยาวชนและครอบครัวเพื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน



โดยทาง แม่ของเด็กชายวัย 8 ขวบ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมโดยระบุว่าในวันนี้ จะมีพยานฝ่ายจำเลยขึ้นให้การไปแล้ว 2 ปาก คือ ตนและเด็กชายวัย 8 ขวบ ซึ่งตัวน้องเองก็เป็นคนเบิกความให้การด้วยตัวเอง ซึ่งตนก็มองว่าเป็นผลดีเนื่องจากว่าจะได้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องมีใครไปบอก แต่น้องให้การฉะฉานและพูดด้วยตัวเองไม่มีใครไปบอกให้พูด สยบข่าวลือที่บอกว่ามีแม่ไปกระซิบเพราะในชั้นศาลแม่ไปกระซิบอะไรไม่ได้ รวมๆ คือพยานทั้งหมด 60 กว่าปาก เพราะว่ามีบางส่วนเดินทางมาจากต่างประเทศแล้วก็หลายๆจังหวัด



ซึ่งในชั้นศาลน้องก็ถูกซักถามในประเด็นที่มาที่ไปของน้อง ในเรื่องของคำสอนต่างๆว่าน้องมีการสอนเรื่องอะไรบ้าง นอกจากนี้ตัวน้องเองก็ยังได้พูดต่อหน้าศาลถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้พิสูจน์ในเรื่องของการเชื่อมจิตได้อีกด้วยซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่น้องพูดถึงและแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และเพิ่งรู้ว่ามันสามารถนำมาใช้ได้



ซึ่งตอนนี้การเบิกพยานในชั้นศาลก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่แน่ชัดว่าศาลจะมีคำสั่งในวันนี้เลยหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้กังวลใจในคดีนี้เพราะมั่นใจว่าในเรื่องของการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กนั้นก็ต้องคำนึงถึงความต้องการของเด็กเป็นพื้นฐาน



สำหรับกรณีของเดลินิวส์ ทางเดลินิวส์ยอมที่จะลบตั้งแต่ในครั้งแรกอยู่แล้ว ซึ่งมีการพูดคุยกันตั้งแต่ครั้งแรกที่มาศาลว่าทางเดลินิวส์ได้ลบไปแล้ว และจะไม่นำเสนอข่าวที่เป็นผลร้ายกับน้องอีก และนำหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่า เป็นการเผยแพร่โดยไม่มีเจตนา และชี้แจงที่มาที่ไปของภาพว่านำม่จากที่ไหน แต่ที่ทางฝ่ายตนไม่ยอมถอนฟ้องในตอนนั้นเนื่องจากว่าน้องต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน เพื่อไม่ให้ต้องการภาพที่ถูกตัดต่อถูกนำไปใช้



ซึ่งจะแตกต่างกับกรณีของ "หนุ่ม กรรชัย" รายการโหนกระแส ที่มีเจตนาชัดเจนว่าจะไม่ลบและมีการเผยแพร่ซ้ำ และแตกประเด็นไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นคนละกรณีกัน



สำหรับปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรดที่เกิดขึ้นเหนือฟ้าเมืองสุราษฎร์ธานีในวันนี้ (02 มิ.ย.) แม่เปิดเผยว่าจริงๆแล้วเป็นเรื่องปกติของน้องเวลาที่น้องจะทำอะไร หรือจะสอนทำหรือจะให้การในชั้นศาล ไม่ว่าน้องจะไปที่ไหนก็จะเกิดปรากฏตกาลลักษณะอย่างนี้ซึ่งก็เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล อยากให้ไปพิจารณากันเอง



เมื่อสอบถามว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่น้องขึ้นเบิกความหรือไม่ แม่ของน้องบอกว่าก็ให้ไปพิจารณากันเอง แต่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง



นักข่าวถามถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวหวิดวางมวยในห้องพิจารณาคดีระหว่างทนายตุ่ยกับพ่อเด็ก 8 ขวบ จริงหรือไม่



แม่เด็ก 8 ขวบ บอกว่า ขอตอบแทนตอบแทนคุณพ่อเลย เพราะว่าศาลท่านบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะโดนบันทึกไว้อยู่ที่ศาลทั้งหมดอยู่แล้วเพราะฉะนั้นศาลท่านขอไม่ให้เรามีการนำเรื่องราวตรงนั้นมาพูดตั้งแต่แรก จะสังเกตว่า พ่อแม่หรือทีมนิรมิตทั้งหมดเลยเนี่ยเราจะไม่มีไม่มีการลงมาให้สัมภาษณ์ระหว่างทางอะไรเลย มันไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรขนาดนั้น แม้กระทั่งเรื่องของน้องที่มีการไปบอกว่าน้องเดินไปมาอะไร มันก็ไม่ใช่ค่ะน้องยกมือโดยปกติของน้อง



บางเรื่องของน้องก็อยากจะพูดด้วยตัวเอง น้องก็มีการยกมือต่อศาลท่านตลอด เพียงแต่ว่าศาลท่านมองว่าตรงเนี้ยมันเป็นผู้ใหญ่แบบกำลังคุยทนายกำลังคุยอยู่ศาลก็เลยบอกไม่อยากให้น้องเข้ามาอยู่ในสภาวะของการขัดแย้งอะไรแบบนี้ แค่นั้นเองไม่ได้มีอะไรเลย



ด้านนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ วันนี้ก็เดินทางไปศาลเยาวชนฯด้วย ให้สัมภาษณ์ บอกว่า ไม่กังวลใดใด ตอนนี้ ส่วนกรณีการโพสต์ภาพพระอาทิตย์ทรงกลด โดยบอกว่า เป็นปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นประจวบเหมาะพอดี ส่วนใครจะเชื่อแบบไหนสุดแล้วแต่ความเชื่อของคนนั้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Pd95TLEIG9Y