เปิดใจ เมีย 'เสี่ยต้น' ปฎิเสธทำผัวเสียชีวิต ตร.เร่งคลี่ปมส่งกระดูกพิสูจน์สถาบันนิติเวชรพ.ตำรวจ

ภรรยานักธุรกิจร้านนวดแผนไทยที่เสียชีวิตในบ้านภรรยาปริศนา เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับเปิดใจตนกลายเป็นอดีตลูกสะใภ้ ครอบครัวสามีต้องดูแลตัวเอง


เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา คุณมด ภรรยาของนายพิชิต เดินทางมาที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน หลังเมื่อวานนี้น้องสาวผู้ตาย และพระพ่อ ติดใจสงสัยการเสียชีวิตนายพิชิตอาจเป็นการฆาตกรรมหรือถูกวางยา ได้มาร้องเรียนของให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง


หลัง คุณมด ให้ปากคำกับเสร็จ ได้มาออกมาเปิดเผยกับสื่อด้วยเสียงสั่นเครือว่า วันนี้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของการเสียชีวิตของสามี ตนไม่ได้มีหลักฐานอะไรเพิ่มเติม มีแต่ข้อมูลที่ในส่วนที่หลายๆ คนสงสัยในหลายๆ ประเด็นก็ได้ให้คำตอบกับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว


ส่วนที่น้องสาวของสามีออกมาบอกว่า โทรศัพท์ของสามีหายไปตนขอชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุมันเป็นเหตุการณ์ชุลมุนพอรู้ว่าสามีเสีย ตนก็ไม่ได้มองหาของอะไรเลย แต่หลังเสร็จงานศพจัดของในบ้านเข้าที่เหมือนเดิมก็เจอโทรศัพท์ แล้วตอนนี้โทรศัพท์ก็อยู่กับตำรวจ สน.วังทองหลาง


ที่ผ่านมาสามีไม่มีโรคประจำตัว ตอนที่สามีเสียชีวิตก็เอะใจ ภาพสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันก็คือกินข้าว และมาเห็นสามีนอนหลับและกรนอยู่ที่กระท่อมหน้าบ้าน พอนอนหลับก็เลยเอาหมอนเอาผ้าห่มเอาพัดลมมาให้ทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าบ้าน มาพบอีกทีก็เสียชีวิตแล้ว


และที่ไม่ได้ส่งศพไปชันสูตรเพราะตนไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งสภาพศพตอนแรกไม่คล้ำเลยเพราะหากศพคล้ำดำตนเชื่อว่า แพทย์ก็คงจะไม่ปล่อยให้เราเอาไปประกอบพิธีทางศาสนาและต้องส่งชันสูตรแน่นอน ทุกอย่างปกติเขาเหมือนคนนอนหลับ แพทย์ลงว่าเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยที่ไม่ชัดเจน ซึ่งตนไม่ทราบว่าสาเหตุที่แพทย์ลงแบบนี้เพราะอะไร


ส่วนกรณีการถูกลอบยิงสามีก็ไม่มีความขัดแย้งกับใคร ในวันที่เขาโดนยิงได้โทรศัพท์มาบอกว่าถูกลอบยิง ตนได้บอกให้ไปแจ้งความ แต่สามีไม่ได้ไป เพราะกลัวถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ จึงได้นัดเจอกันที่บ้านย่านพัฒนาการ ซึ่งสามีบอกว่าไม่รู้ถึงชนวนเหตุที่ถูกลอบยิง แต่จากพฤติกรรมของสามีเวลาเมาแล้วจะโมโหร้าย ซึ่งคืนนั้นตนอยู่กับสามีถึง 04.00 น. แม้ว่าเราจะแยกกันอยู่แต่เราก็เจอกันอยู่เรื่อยๆ ยืนยันไม่ได้เป็นการชี้เป้าให้กับมือปืน


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียความรู้สึก เพราะตนซัพพอร์ตครอบครัวสามีมาตลอด แค่ทำให้เขาไม่ทันใจในเรื่องที่เขาต้องการทำไมตนดูเป็นผู้ร้าย หรือตกเป็นจำเลยของสังคมได้ขนาดนี้ แล้วก็อีกอย่างนึงคือ ครอบครัว 1 ครอบครัวการดูแลพ่อแม่เป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้ว ซึ่งตนในฐานะลูกสะใภ้ ตนนึกถึงบุญคุณของหลวงพ่อมาโดยตลอด ที่เคยให้เงิน 250,000 บาท ในการทำธุรกิจ ตนดูแลหลวงพ่อดูแลแม่มาตลอด แต่ ณ วันหนึ่งสามีเสียชีวิตแล้ว ตนเป็นอดีตลูกสะใภ้ หน้าที่ในการดูแลพ่อกับแม่ ก็ต้องเป็นลูกที่เหลือ ไม่ใช่มากังวลว่าอีก 1 ปี ถ้าตนไปมีครอบครัวใหม่ ใครจะดูแลพ่อแม่เขา ตนไม่ใช่ทาสของครอบครัวเขาที่จะหาเงิน แล้วซัพพอร์ตเขาตลอดชีวิตเขาต้องดูแลตัวเอง


ส่วนทางคดี พ.ต.อ.วัชรินทร์ สัตยาคุณ ผู้กำกับ สภ.ยางสีสุราช เปิดเผยว่า วันนี้ได้สอบพยานไปกว่า 10 ปาก และทางภรรยาของผู้ตายได้เดินทางมาที่ โรงพักเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่เคยสอบปากคำไปแล้วในช่วงวันแรกๆ ที่สามีเขาเสียชีวิต ซึ่งหลังจากที่น้องสาวมาร้องเรียนสงสัยสาเหตุการตายของพี่ชาย ว่าอาจจะมีสารบางอย่างในตัวของพี่ชาย ก็ต้องมุ่งประเด็นเพิ่มเติมไปยังสารพิษ การเปลี่ยนแปลงของสภาพศพ เรื่องเงินประกัน หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมถึงได้นำส่งกระดูกของผู้เสียชีวิต ไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจแล้ว และในส่วนของผลตรวจก็จะพยายามเร่งให้เร็วที่สุด


ในส่วนของแพทย์ที่จะมีการเรียกมาสอบปากคำ ได้ประสานไปแล้วแต่ตอนนี้แพทย์ที่ชันสูตรติดงานอยู่ โดยจะได้สอบพยาน หรือข้อเท็จริงให้ครบถ้วนทุกปาก แพทย์อาจจะเป็นคนสุดท้าย เพราะจะได้เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญและจะได้ดูข้อเท็จจริงทั้งหมด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/d_NnA-ebodw