พบยาอันตรายบ้าน ‘แม่เจ๊มด’ เปิดคำพยานปากเอก ร่วมวง ‘เสี่ยต้น’ เล่าลูก-เมียยกเหล้าให้ดื่มก่อนเป็นศพ

ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีเสี่ยต้น ตายปริศนา วานนี้ค้นบ้านแม่ยายเสี่ยต้น พบยาอันตรายอยู่ในซองโฉนดที่ดิน พร้อมเปิดคำพยานปากเอก หลังร่วมวงเหล้า 'เสี่ยต้น' ก่อนพบเป็นศพ เผยลูก-เมียเอาเหล้าให้เสี่ยกิน หลังพาทำพิธีขอขมารูปพ่อตา

จากคดีการเสียชีวิตของนายพิชิต กลีบจินดา หรือเสี่ยต้น ที่ถูกลอบยิงที่ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม เมื่อคืนวันที่ 8 เมษายน แต่รอดชีวิตมาได้

จนเมื่อวันที่ 15 เมษายน เสี่ยต้นได้เดินทางไปหาภรรยาคือเจ๊มด ที่จังหวัดมหาสารคามโดยที่เจ๊มด ส่งตัวเครื่องบินมาให้เสี่ยต้น เพื่อไปปรับความเข้าใจหลังมีปัญหากัน

แต่สุดท้ายก็มาพบศพเสี่ยต้นนอนตายที่แคร่หน้าบ้านในสภาพศพดำคล้ำ ทำให้ครอบครัวเสี่ยต้นคาใจ เพราะเชื่อว่าเป็นการตายอย่างมีเงื่อนงำ เพราะพบว่าเสี่ยต้นได้ทำประกันชีวิตให้ลูกสาววงเงินประกันไว้ 16 ล้านบาท และก่อนหน้านี้ก็ถูกลอบยิง

ต่อมาตำรวจ สน.วังทองหลาง ซึ่งรับผิดชอบคดีลอบยิงเสี่ยต้น ได้ออกหมายจับทีมสังหารเสี่ยต้น ประกอบด้วยนายสาโรจน์ ทำหน้าที่จัดหาปืน นายวีรภัทร ทำหน้าที่ขี่มอเตอร์ไซด์ให้มือปืน นายณัฐพล มือปืน และเจ๊มด ผู้จ้างวาน

ส่วนคดีการตายปริศนาของเสี่ยต้น ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจ สภ.ยางสีสุราช กำลังเร่งหาพยานหลักฐาน ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุในเร็ววันนี้นั้น

ล่าสุดเมื่อวานนี้ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้าไปค้นบ้านของนางก่ำ ซึ่งเป็นแม่ของเจ๊มด ซึ่งเป็นบ้านที่พบศพเสี่ยต้น เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่ม เพื่อพิสูจน์ว่าถ้าเสี่ยต้นถูกวางยาจะเป็นยาชนิดใด โดยตำรวจพบหลักฐานสำคัญ คือยาอัลปราโซแลม 1 แผง ซึ่งอยู่ในซองโฉนดที่ดิน อยู่ในบ้านของยายก่ำ จึงนำไปตรวจสอบ

ขณะที่นางก่ำ เปิดเผยสั้น ๆ กับนักข่าวว่า ยาที่พบในซองโฉนดที่ดิน เสี่ยต้นเป็นคนเอาโฉนดที่ดินดังกล่าวมาให้ โดยที่ไม่รู้ว่ามียาอยู่ในซองโฉนดที่ดิน

ซึ่งเมื่อได้รับโฉนดมาก็วางไว้เฉย ๆ ไม่ได้สนใจ ส่วนยาที่เจอตนก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร เพราะไม่มีฉลากภาษาไทย และยาก็ยังอยู่ครบ 10 เม็ด

ล่าสุดทีมข่าวได้สอบถามกับนายถนอม ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้ โดยที่นายถนอมเป็นคนที่รับเสี่ยต้นจากสนามบินมาที่บ้านยายก่ำ และนั่งกินเหล้ากับเสี่ยต้นก่อนที่เสี่ยต้นจะเสียชีวิต

โดยนายถนอมบอกว่า เมื่อวานนี้ตำรวจได้เชิญตนไปเป็นพยาน ในขณะที่มีการค้นบ้านยายก่ำ ซึ่งตนเห็นยาในซองโฉนดที่ดินที่เจอในบ้านยายก่ำด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร

ส่วนวันที่ตนกินเหล้ากับเสี่ยต้นคือช่วงค่ำของวันที่ 15 เมษายน โดยตอนแรกนั่งกินกัน 4 คน คือนอกจากตน และเสี่ยต้นแล้ว ยังมีเจ๊มดและลูกสาวคนโตของเสี่ยต้นด้วย โดยบนโต๊ะมีเหล้า 2 แบน และเบียร์อีกจำนวนหนึ่ง โดยแยกแก้วกันกินคนละใบ ตนไม่ได้กินเหล้าแก้วเดียวกันกับเสี่ยต้นตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้

โดยระหว่างที่กินเหล้าเสี่ยต้นได้พยายามพูดง้อเจ๊มดเพื่อขอคืนดี ถึงขนาดพูดไปร้องไห้ไป แต่เจ๊มดก็ไม่ยอมใจอ่อน จากนั้นลูกสาวเสี่ยต้นได้เดินไปหยิบรูปตา ซึ่งก็คือพ่อตาของเสี่ยต้นออกมาจากในบ้าน โดยเอารูปมาให้เสี่ยต้นกราบไหว้ขอขมากับเรื่องที่มีปัญหากับเจ๊มด ซึ่งเสี่ยต้นก็ยอมทำตามทุกอย่าง

จากนั้นลูกสาวเสี่ยต้น ได้นำรูปคุณตา เหล้า 1 แบน และแก้วของเสี่ยต้น ที่เสี่ยต้นใช้กินเหล้าอยู่ โดยเป็นแก้วใบเล็ก ๆ หรือที่เรียกว่าแก้วเป็กไปจากเสี่ยต้น โดยบอกว่าจะเอาไปทำพิธีขอขมาคุณตา โดยจุดที่ทำพิธีห่างจากจุดที่ตนกินเหล้าประมาณไม่ถึง 10 เมตร

จากนั้นลูกสาวก็เอาแก้วเหล้าของเสี่ยต้น มาให้เสี่ยต้นกิน โดยบอกว่าผ่านการทำพิธีขอขมาแล้ว และเสี่ยต้นต้องกินเหล้าให้หมดแก้ว ซึ่งเสี่ยต้นก็กินเหล้าในแก้วโดยไม่ขัดขืน

จนผ่านไป 1 ชั่วโมงเสี่ยต้นเริ่มมีอาการผิดปกติ คือเหมือนคนง่วงนอนมาก ซึ่งตนก็รู้สึกผิดสังเกตุว่า ทำไมเสี่ยต้นถึงดูง่วงมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังดูไม่มีอาการ และเสี่ยต้นก็ไม่ได้กินเหล้ามาก หากจะเมาก็ไม่น่าเมาขนาดนี้

จากนั้นเจ๊มดได้พาเสี่ยไปนอนที่แคร่หน้าบ้าน ซึ่งเสี่ยต้นจะขอไปนอนในบ้านแต่เจ๊มดไม่ยอม ซึ่งเมื่อเสี่ยต้นถึงแคร่ก็นอนหลับไปเลย จากนั้นยายก่ำ แม่ของเจ๊มดก็เอาเบียร์มาให้ตน 2 ขวดบอกให้ตนไปกินที่บ้าน ตนก็เดินทางกลับ

จนมารู้อีกทีว่าเสี่ยต้นเสียชีวิต ตนก็มาดูศพและยังบอกกับเสี่ยต้นเลยว่า ขอโทษที่ช่วยไว้ไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้เสี่ยต้นได้พุดกับตนว่าเหมือนจะได้รับอันตราย โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ถูกลอบยิง ที่เสี่ยต้นบอกกับตนว่าสงสัยเจ๊มด มากที่สุด

ขณะที่คุณเจ น้องสาวเสี่ยต้นเปิดเผยว่าทราบเรื่องที่ตำรวจพบซองยา ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้แล้ว ยอมรับว่าดีใจที่คดีมีความคืบหน้าและเป็นไปในทิศทางที่ตนและครอบครัวได้คิดไว้แต่แรก คือพี่ชายถูกฆาตกรรมอำพราง

ส่วนวันที่พี่ชายกินเหล้าที่บ้านบ้านเจ๊มด ที่มหาสารคามแล้ว มีการทำพิธีขอโทษดวงวิญญาณพ่อตาของพี่ชายนั้น ตนคิดว่าเป็นการจัดฉาก เพื่อให้พี่ชายตนกินน้ำหรือเหล้าในแก้วใบนั้น

ทั้งนี้หากตำรวจจะมีการออกหมายจับคนใกล้ชิดพี่ชายเพิ่ม นอกเหนือจากเจ๊มด ตนมองว่าเป็นไปตามพยานหลักฐาน ผิดหรือถูกศาลจะเป็นผู้ตัดสิน และตนขอฝากไปถึงลูกสาวพี่ชายคนโตด้วย ซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ ของตนและตนก็เคยเลี้ยงตั้งแต่เด็กว่า ขอให้ออกมาพูดความจริง เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และกฎแห่งกรรมมีจริง

รับชมผ่านยูทูป : https://youtu.be/PbuVchtLWvE