แจ้ง 2 ข้อหา วิศวกรชาวจีน อ้างถูกขบวนการใต้ดินเวียดนามไล่ล่า ลุกเปิดประตูเครื่องบินกลางรันเวย์

จากรณีเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ (7 ก.พ.67) เกิดเหตุผู้โดยสารในเที่ยวบิน TG121 เส้นทาง เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ของสายการบินไทย ก่อเหตุเอะอะโวยวายและเปิดประตูเครื่องบินระหว่างที่เครื่องบินเตรียมที่จะทำการวิ่งขึ้น ทำให้เบาะสไลด์กาง จนส่งผลให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ และจอดค้างอยู่กลางทางวิ่ง (Runway)



ส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ไม่สามารถทำการขึ้น – ลง ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ชั่วขณะ โดยเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ 13 เที่ยวบิน และผู้โดยสารทั้งสิ้น 2,296 คน



มีผู้ใช้ Facebook ชื่อ Ananya Tiangtae โพสต์ภาพเหตุการณ์และระบุข้อความว่า ระทึกกลางดึก ผู้โดยสารชาวจีนพุ่งตัวเปิดประตูเครื่องบินขณะเครื่องกำลังทะยานขึ้นฟ้า เรือยางเด้งออกจากประตู แอร์โฮสเตสลุกจากที่นั่งมาจับตัวผู้โดยสาร ยื้อกันไปมา ก้อนลมมหึมาพัดเข้ามาในเครื่องบิน นักบินจอดเครื่องบินกะทันหัน ผู้โดยสารฝรั่งอีกคนหายตกใจ ลุกมาช่วยจับตัวไว้ อลหม่านไปทั้งลำ กว่าช่างจะมายกเรือยางออกก็ห้าทุ่มกว่า เดิมต้องTake off 21: 05 ทุกคนต้องกลับมาอาคารสนามบิน



เจ้าหน้าที่พาชายจีนคุ้มคลั่งออกจากเครื่องบิน ผู้โดยสารหลายสิบคนตกเครื่องที่บินต่อไปต่างประเทศ เครื่องบินจากต่างประเทศและในประเทศที่มาลงเชียงใหม่ต้องไปจอดที่เวียดนามหรือลาวแทน คนที่บินกลับกรุงเทพฯ ต้องรอเปลี่ยนเครื่องเช้าวันใหม่ ส่วนเราตกค้างนอนเชียงใหม่อีกคืน กระเป๋าเดินทางติดแหง็กใต้ท้องเครื่อง กว่าจะได้คืนก็เป็นเวลา 01.00 น.



ล่าสุด ตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหาหนัก หนุ่มวิศวกรฯ ผู้ต้องหาเปิดประตูเครื่องบินจน 13 เที่ยวบินได้รับผลกระทบเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าตัวเผยเกิดอาการหลอน กลัวขบวนการใต้ดินจากเวียดนามจะมาก่อเหตุทำลายเครื่องบิน จึงพยายามเปิดประตูหนี



จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ เกิดเหตุผู้โดยสารในเที่ยวบิน TG121 เส้นทางเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ของสายการบินไทย ก่อเหตุเอะอะโวยวายและเปิดประตูเครื่องบินระหว่างที่เครื่องบินเตรียมที่จะทำการวิ่งขึ้น ทำให้เบาะสไลด์กาง จนส่งผลให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ และจอดค้างอยู่กลางทางวิ่ง (Runway) ทั้งนี้ส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ไม่สามารถทำการขึ้น-ลง ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ชั่วขณะ โดยเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ 13 เที่ยวบิน และผู้โดยสารทั้งสิ้น 2,296 คน



ต่อมาตรวจสอบทราบว่าผู้โดยสารที่ก่อเหตุชื่อ นาย Wong Sai Heung อายุ 40 ปี สัญชาติแคนาดา ซึ่งหลังจากที่ก่อเหตุแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าคุมตัวนำส่ง สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ โดยจากการค้นในตัวพบยารักษาโรคจำนวนหนึ่ง



ขณะที่วันนี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวออกมาจากห้องขัง เพื่อตรวจหาสารเสพติดแต่ไม่พบ จากนั้นนำตัวมาสอบสวนผ่านล่าม อ้างว่าเกิดจากอาการหวาดกลัว ที่ก่อนหน้านี้ได้ไปเที่ยวเวียดนามแล้วเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองรู้สึกว่าถูกคุกคาม และติดตามเพื่อจะมาทำร้าย โดยกลุ่มขบวนการใต้ดิน ทำให้คิดว่ามีผู้ที่มาติดตามจะมาทำร้ายตนเองอีก และพยายามจะทำลายเครื่องบินลำนี้ ตนเองจึงเกิดอาการหวาดกลัวเลยพยายามหาทางหนีด้วยการวิ่งไปเปิดประตูฉุกเฉินดังกล่าว



พ.ต.ท. ณัฐวุฒิ น้อยสอน รอง ผกก. สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เผยว่าหลังทำการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นได้แจ้ง 2 ข้อหาคือกระทำด้วยประการใดๆ ให้อากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล ,และเป็นผู้อยู่ในอากาศยานระหว่างการบินฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมอากาศยานฯ (เปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินโดยไม่มีเหตุอันควร)



อย่างไรก็ตามอาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับความผิดตาม พรบ.อากาศยาน ซึ่งรอผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ขณะเดียวกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน และเที่ยวบินทั้ง 13 เที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบทางสายการบิน แต่ละแห่งก็อาจจะมาดำเนินการแจ้งความเพิ่มเติมอีก



สำหรับผู้ต้องหารายนี้เป็นคนเชื้อชาติจีน สัญชาติแคนนาดา มีอาชีพเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ และกำลังจะบินกลับจากเชียงใหม่ไปต่อเครื่องที่กรุงเทพในคืนที่ผ่านมา



นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ แถลงการณ์หลังรับแจ้งเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่ช่าง เข้าดำเนินการตัดเบาะสไลด์ออก ก่อนนำเครื่องบินกลับเข้าหลุมจอดหมายเลข 15 และสามารถเปิดใช้งานทางวิ่งได้ตามปกติในเวลา 22.50 น. ส่วนผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าว ได้นำกลับเข้าพักคอยภายในอาคารผู้โดยสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแล ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ช่างได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขเรียบร้อยแล้ว สามารถออกเดินทางได้ในเวลา 00.43 น ของวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/J8XFGZyV-XI