สังคม

เพื่อนบ้าน กลุ่มอดีตนศ. ทีมยิง 'เด็กอุเทนฯ-ครูเจี๊ยบ' แฉ ได้ยินท่องคำปฏิญาณ ปลุกใจทุกวัน

โดย panwilai_c

23 พ.ย. 2566

73 views

ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่เซฟเฮ้าส์ของกลุ่มผู้ต้องหาที่ตำรวจสืบสวนนครบาลบุกจับที่ย่านวงศ์สว่าง ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า มาเช่าบ้านได้ประมาณ 3 เดือน และทุกวันจะต้องท่องคำ "ปฏิณาณ" ปลุกใจให้หึกเหิม



หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังบุกค้นเซฟเฮ้าส์ ซึ่งเป็นที่รวมกลุ่มของอดีตนักศึกษาเทคโนโลยีปทุมวันกลุ่มหนึ่ง พบกระป๋องสีสเปรย์ ระเบิดปิงปอง และตราสัญลักษณ์ของสถาบันจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ที่ประตูห้องยังพบภาพหน้าศพของอดีคนักศึกษาเทคโนโลยีปทุมวัน ซึ่งโดนยิงเสียชีวิตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาติดอยู่ด้วย ก่อนจะคุมตัวอดีตนักศึกษา 6 คนไปสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหา "ซ่องโจร" และคุมตัวส่ง สน.ทุ่งมหาเมฆ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา



เช้าวันนี้ (23พ.ย.) ทีมขาวลงพื้นที่เซฟเฮ้าส์แห่งนี้ ในซอยวงศ์สว่าง 19 แยก 2 จังหวัดนนทบุรี เป็นบ้านเดี่ยวเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา สูง 2 ชั้น ชั้นบนแบ่งเป็น 3 ห้องนอน ห้องโถงกลาง ส่วนชั้นล่างแบ่งเป็นห้องโถง และห้องครัว



โดยทีมข่าวได้สอบถามกับเพื่อนบ้านในละแวกนี้ ก็บอกว่า กลุ่มนักศึกษาได้เข้ามาเช่าบ้านประมาณ 2-3 เดือน ส่วนใหญ่จะเข้ามาในบ้านตอนกลางคืน มีมาทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถปิคอัพ เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน และในบ้าน แต่ในช่วงเวลากลางวันไม่ค่อยสุงสิงกับใคร มีเพียงออกมาซื้อของกิน และน้ำดื่มเท่านั้น



บ้านหลังนี้จะล็อคประตูรั้วด้านในตลอดเวลา ถ้ามีคนมาบ้านจะต้องโทรศัพท์หาบุคคลในบ้านให้มาเปิดก่อน และบางครั้งจะมีคนมารวมตัวไม่ต่ำกว่า 20-30 คน แต่แปลกที่ไม่เคยส่งเสียงดังเลย มีเพียงบางครั้งที่จะได้ยินคำพูดของแกนนำในลักษณะให้ท่องคำปฏิญาณปลุกใจสร้างความหึกเหิม โดยกลุ่มที่เป็นเด็กกว่าก็มักจะตอบรับคำว่า "ครับพี่"



สอดคล้องกับข้อมูลของเพื่อนบ้านอีกคนหนึ่ง สังเกตพฤติกรรมของวัยรุ่นกลุ่มนี้ พบว่ารวมตัวกันดื่มสุรา และเสพกัญชา บริเวณชั้น 2 ของบ้าน และบางครั้งช่วงกลางดึกก็จะมีเสียงท่องคำปฏิณาญเช่นกัน และยังบอกด้วยว่าหลังจากตำรวจเข้าตรวจค้นเสร็จแล้ว มีวัยรุ่นชาย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาแล้วปีนรั้วเข้าไปในบ้าน จึงตะโกนถามไปว่า "เข้าไปทำอะไรในบ้าน ตำรวจเขาไม่ให้เข้า" เด็กกลุ่มนั้นก็เลยตอบกลับมาว่า "ติดต่อเพื่อนที่อยู่ในบ้านไม่ได้จึงเข้าไป" จากนั้นก็สังเกตว่าเหมือนหยิบสิ่งของบางอย่างแล้วปีนรั้วกลับออกไปทันที



หลังจากตำรวจสืบสวนนครบาล เปิดปฏิบัติการ "ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด" จับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ 9 คน และทั้งหมดเป็นอดีตนักศึกษาของเทคโนโลยีปทุมวัน ล่าสุดอธิการบดีออกมาปฏิเสธ ยืนยัน ทั้ง 9 คน ไม่ใช่นักศึกษาปัจจุบัน พ้นสภาพไปนานแล้ว



ทีมข่าวอาชญากรรม โทรศัพท์พูดคุยกับ รศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ระบุว่า สั่งให้ฝ่ายทะเบียนเช็คข้อมูลของผู้ต้องหาทั้ง 9 คน แล้ว พบว่าทั้งหมดพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไปหมดแล้ว แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดก่อนว่า เคยมีประวัติลงทะเบียนเรียนหรือไม่



ส่วนพวกรุ่นพี่ตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่า เป็นกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุ จนทำเป็นขบวนการนั้น อธิการบดีเชื่อว่า น่าจะเป็นกลุ่มคนที่แอบอ้างเอาชื่อสถาบันไปก่อเหตุมากกว่า เพราะจากหลายกรณีในอดีตที่พบว่ามีการอ้างว่าเป็นศิษย์เก่าเทคโนปทุมวัน พอไปตรวจสอบพบว่าไม่เคยมีประวัติเรียนที่สถาบัน หรืออาจจะเคยลงทะเบียนเรียนจริง แต่เป็นการเรียนในระยะสั้น หรือมาสมัครเพื่อเอารุ่น หรือเคยเป็นนักศึกษาจริงแต่ถูกไล่ออกพ้นสภาพออกไป



พร้อมย้ำว่า บุคคลที่จะขึ้นชื่อเป็นศิษย์เก่าในทะเบียนของสมาคมศิษย์เก่าได้ จะต้องสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่กำหนด ถึงจะสามารถเรียกเป็นศิษย์เก่าเทคโนปทุมวันได้จริง หลังจากนี้จะให้ฝ่ายกฎหมายของสถาบันไปแจ้งความเพิ่มกับพวกผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ที่แอบอ้างชื่อของสถาบันจนได้รับความเสียหายด้วย



ส่วนนักศึกษาปัจจุบัน ไม่พบว่ามีใครที่ตั้งกลุ่มเป็นนักเลงมีเรื่องกับสถาบันคู่อริ หากตรวจพบว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีโทษสถานเดียวคือ "ไล่ออก"



และในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (24พ.ย.) ทางสถาบันจะประชุมกับคณะผู้บริหาร และสภาสถาบันเพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น



ขณะที่เมื่อคืนนี้ (23พ.ย.) พนักงานรักษาความปลอดภัยของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แจ้งว่ามีคนโยนวัตถุปริศนาเข้ามาในรั้ว พอตำรวจสน.ปทุมวันไปตรวจสอบพบว่าเป็นปืนแบลงกัน แบบลูกโม่ พร้อมกระสุนขนาดจุด 38 อีก 4 นัด คาอยู่ในโม่ปืน และยิงออกไปแล้ว 2 นัด ตำรวจจึงยึดมาไว้เพื่อตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับคดีใดหรือไม่



พันตำรวจเอก นพดล เทียมเมธา ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า เบื้องต้นอาจารย์ของเทคโนปทุมวันให้ข้อมูลว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงทำกิจกรรม อาจารย์จึงไปบอกให้นักศึกษากลับบ้านเพราะค่ำแล้ว และระหว่างเดินตรวจตราโดยรอบพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นปืนจากบุคคลในสถาบันฯ หรือบุคคลภายนอก แต่ยืนยันว่าไม่ใช่กลุ่มวัยรุ่นที่ขับรถจักรยานยนต์หนีด่านและโยนปืนเข้าไปในสถาบัน



ส่วนอาวุธปืนที่พบอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด เนื่องจากจุดที่ทิ้งปืนเป็นจุดอับที่กล้องเห็นได้ไม่ชัดเจน และอยู่ระหว่างส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจหาลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/HuNU6aitqPg

คุณอาจสนใจ

Related News