'ศรีริต้า' ปล่อยโฮ หลังได้รับความยุติธรรม คดีมือดีแชร์คลิปตัดต่ออนาจาร

วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก นักแสดงสาว "ศรีริต้า" ร้องไห้หน้าศาลดีใจที่ได้รับความยุติธรรมเสียที หลังสู้มานานกว่า 2 ปี เรื่องที่ถูกมือดีแชร์ภาพตัดต่อของเธอ โดยศาลสั่งจำคุกมือโพสต์ 12 เดือน ปรับ 6 หมื่น แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา



วันนี้ (25 ต.ค. 66) นางสาว ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช เดินทางมาพร้อมนาย กรณ์ ณรงค์เดช สามี และ นางสาว ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีที่มีชายคนหนึ่งแชร์ภาพตัดต่อ ซึ่งเป็นลามกอนาจารที่ใช้ภาพใบหน้าของ "ศรีริต้า" แล้วปล่อยสู่โซเชียลมีเดีย ทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง



ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฐานส่งต้อข้อมูลอันเป็นเท็จ ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท / ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท / ข้อหากระทำการให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ลงโทษปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 121,000 บาท



แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 12 เดือน และปรับ 60,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิด



โดยให้จำเลยรายงานตัวพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้งใน 1 ปี ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง และให้ลบ ทำลาย ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท ให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 15 วัน และโฆษณาคำขออภัยผ่านทางเฟซบุ๊กของโจทก์เป็นเวลา 30 วัน พร้อมกับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย



ศรีริต้า พูดกับสื่อทั้งน้ำตาว่า นับตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ที่มีการแชร์ภาพนี้ในโซเชียลมีเดีย เป็นเวลาถึง 2 ปี 3 เดือน 18 วัน ที่เธอต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง และวันนี้ (25ต.ค.) ศาลอาญารัชดา ได้ให้ความยุติธรรมกับเธอแล้ว และหวังว่านี่จะเป็นกรณีตัวอย่างให้คนที่ทำลงไปด้วยความคึกคะนองหยุดพฤติกรรมแบบนี้



ขณะที่สามีของคุณศรีริต้า กล่าวว่า ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกข์ใจมาตลอด หากหลายคนจำได้ตอนที่เกิดเรื่องดังกล่าวเป็นตอนที่ภรรยากำลังตั้งท้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรง และตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการวางตัวดีมา โดยตลอดไม่เคยมีข่าวเสื่อมเสียใดๆ วันนี้จะได้เคลียร์ให้ชัดว่าผู้หญิงที่อยู่ในคลิปเป็นการตัดต่อไม่ใช่ภรรยา และถือว่าได้เคลียร์ชื่อเสียง 100 เปอร์เซ็นต์

https://youtu.be/kPDaT6C4DnU