สังคม

คนเฝ้าไข้ 'เสี่ยแป้ง' สารภาพได้ค่าจ้างร่วมพาหนี พร้อมบ้าน 1 หลัง แฉเพิ่มมี จนท.ราชทัณฑ์เปิดทางให้

โดย parichat_p

23 ต.ค. 2566

283 views

คนเฝ้าไข้สารภาพแล้ว ได้ค่าจ้างร่วมพาเสี่ยแป้งหนี 2 แสนบาท พร้อมบ้าน 1 หลังที่ภูเก็ต พร้อมแฉเพิ่ม เสี่ยแป้งให้ลูกน้องเอามีดตัดเหล็กมาให้ โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เปิดทางให้ก่อเหตุ


กล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เผยให้เห็นนาที นักโทษชายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด เดินออกจากลิฟท์ ในชุดเสื้อ-กางเกงสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ไม่มีโซ่ตรวนพันธนาการ โดยมีลูกน้องชื่อลูกวัว พาออกจากโรงพยาบาล


จากนั้นได้เดินไปขึ้นรถกระบะสีขาว 4 ประตู ทะเบียน 8 กจ 3212 กรุงเทพมหานคร ที่นายจักรี หรือ บิ๊ก อายุ 41 ปี ลูกน้องอีกคน ขับมาจอดรอ จากนั้นได้ขับหนี โดยมีรถในขบวนหลบหนี รวมทั้งหมด 3 คัน


โดยพบกล้องวงจรปิด ที่สี่แยกหัวถนน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เผยให้ขบวนรถที่พาเสี่ยแป้งหลบหนี หลังวิ่งออกจากโรงพยาบาล โดยคันแรกเป็นรถเก๋ง ฮอนด้าซีวิคสีดำ คันที่สองเป็นกระบะ 4 ประตู สีขาว วิ่งฝ่าไฟแดงผ่านทางแยกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนรถที่เสี่ยแป้งนั่งมา เป็นกระบะคันที่ 3 เมื่อถึงทางแยกได้จอดชะลอดูรถก่อน จากนั้นก็วิ่งฝ่าไฟแดงตามกันไป


เบื้องต้นได้ข้อมูลว่า หลังจากผ่านจุดนี้ เสี่ยแป้งกับลูกน้องคู่ใจ ได้ขับมุ่งหน้าเข้าจังหวัดตรัง แล้วไปที่จังหวัดกระบี่ เพื่อไปหาลูกพี่ แล้วมุ่งหน้าชายแดนประเทศเมียนมา แต่ถูกปฏิเสธ จึงต้องย้อนกลับมาที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งล่าสุด ได้เบาะแสมาว่า ได้หลบหนีเข้าพื้นที่จังหวัดสตูล แล้ว


ซึ่งเสี่ยแป้งมีประวัติก่อคดีอาชญากรรม มาอย่างโชกโชน แต่คดีที่ทำให้ถูกจำคุก เป็นคดีเมื่อปี 2564 ร่วมกับพวกเข้าปล้นผู้ต้องหา จากตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด ถูกศาลพัทลุง ตัดสินเป็นคดีแดง ให้จำคุก 20 ปี 6 เดือน เริ่มจองจำตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 และย้ายมาจากเรือนจำพัทลุง มาอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพราะเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง แต่ก็ยังสามารถแหกคุกได้สำเร็จ


โดยมีรายงานว่า เสี่ยแป้ง นาโหนด ได้เตรียมการล่วงหน้าหลายวันแล้ว โดยในวันที่ 20 ตุลาคม ก่อนจะไปพบทันตแพทย์ ได้มีอดีตนักการเมืองจากพัทลุง และตำรวจเดินทางไปเยี่ยมที่เรือนจำด้วย / ส่วนสาเหตุที่แหกคุกออกมา คาดว่า น่าจะออกมาล้างแค้นผู้เกี่ยวข้องในคดี อย่างน้อย 2 คน ที่เชื่อว่า เป็นคนทำให้แพ้คดีจนต้องโทษจำคุก


โดยเมื่อช่วง 21.30 น. วานนี้ พลตำรวจตรี สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เรียกประชุมด่วน ตำรวจสืบสวนจังหวัด / ตำรวจสืบสวน สภ.เมือง / เจ้าหน้าที่เรือนจำ เร่งรัดคดีติดตามตัวนักโทษชายเชาวลิต เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ เจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 นาย ที่ทำหน้าที่ควบคุมนักโทษชายเชาวลิต


และยังได้สอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม อายุ 32 ปี พยานปากสำคัญ ที่ให้ข้อมูลอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากญาติให้เฝ้านักโทษ เบื้องต้น น.ส.ใหม่ ให้การเป็นประโยชน์หลายประเด็น พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือช่วยเหลือนักโทษคนดังกล่าว เนื่องจากวัน และเวลาเกิดเหตุ ญาตินักโทษได้ให้ไปซื้อของนอกโรงพยาบาล


โดยวันนี้ ตำรวจคุมตัว น.ส.ไหม มาสอบปากคำอีกครั้ง หลังเค้นสอบอย่างหนัก น.ส.ไหม ให้การซัดทอดผู้เกี่ยวข้องอีก 3 คน คือ นายบอย หรือ ลูกวัว / นายบิ๊ก / และ นางหมวย ที่แบ่งหน้าที่กันพาเสี่ยแป้ง หลบหนี โดยบอกว่า เสี่ยแป้ง นำโทรศัพท์มือถือของเธอไปใช้ประสานงานการหลบหนี หากทำสำเร็จจะให้ค่าตอบแทนกับ น.ส.ไหม เป็นเงิน 2 แสนบาท และให้บ้านที่ภูเก็ต อีก 1 หลัง แต่ตอนนี้นางหมวย โอนเงินให้แค่ 2,000 บาทเท่านั้น


ขณะเดียวกัน มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ในวันที่ 20 ตุลาคม ขณะที่เสี่ยแป้งได้นอนพักที่โรงพยาบาล นายบิ๊ก กับนายวัว ได้เอามีดตัดเหล็กมาที่โรงพยาบาล โดยมอบให้ น.ส.ไหม เอาไปให้เสี่ยแป้ง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทั้ง 2 คน เปิดทางให้ / จากนั้นวันที่ 21 ตุลาคม น.ส.ไหม ไปซื้อโทรศัพท์มือถือให้เสี่ยแป้ง / ต่อมาในช่วงกลางดึก รอยต่อคืนวันที่ 21 เข้าสู่วันที่ 22 ตุลาคม นายลูกวัว มารับเสี่ยแป้ง โดยเดินออกจากลิฟท์พร้อมกัน หลังพ้นกล้องวงจรปิดไป ได้มอบปืนขนาด 9 มม. เอาไว้ป้องกันตัวระหว่างหลบหนี


ล่าสุด ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด เบื้องต้นมี เสี่ยแป้ง / นายลูกวัว / และนายบิ๊ก ลูกน้องที่พาหนี


ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก นายเฉลิมพงษ์ หรือ ช่างปุ๊ ผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจบอกว่า เป็นคนพาเสี่ยแป้ง นาโหนด หนี โดยเดินออกจากลิฟท์คู่กัน และกำลังจะถูกออกหมายจับ / มาขอแสดงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเผยว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของเสี่ยแป้ง ตกใจมาก หลังจากเห็นข่าวในจอทีวี แล้วระบุว่ามีตนเองเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นคนเดินคู่เสี่ยแป้งออกจากตึก


จริง ๆ แล้ว ภาพนั้นไม่ใช่ตนเอง คืนเกิดเหตุ ตนเองได้เดินทางไปเปลียนยางรถยนต์ให้ลูกค้า บริเวณเขาพับผ้า พื้นที่รอยต่อพัทลุง-ตรัง และไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเลย กระทั่งมีข่าวดังกล่าว ซึ่งตนกับเสี่ยแป้งรู้จักกัน เพราะเคยไปทำงานที่อู่ซ่อมรถเสี่ยแป้ง แต่หลังจากเสี่ยแป้งติดคุกก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันอีก อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ตนเองด้วย ยืนยันว่า คนที่เดินออกจากลิฟท์พร้อมเสี่ยแป้ง ไม่ใช่ตนเอง แต่เป็นคนอื่นที่ตนก็รู้จัก แต่ก็ไม่ได้สนิทกัน


ส่วนภรรยานายเฉลิมพงษ์ บอกว่า รู้สึกงงเหมือนกัน และไม่สบายใจ ว่าสามีไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีได้อย่างไร เพราะช่วงเกิดเหตุ สามียังเดินทางไปซ่อมรถให้ลูกค้านอกสถานที่ ตอนตี 3 โดยมีพยานเป็นเพื่อนข้างบ้าน และเจ้าของรถที่ไปซ่อม ส่วนภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด รูปร่างลักษณะไม่ได้เหมือนสามีเลย ไม่เข้าใจว่า เอาไปโยงกันได้อย่างไร


ล่าสุดนายเฉลิมพงษ์ เตรียมเดินทางมาที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Ucf680L7UlQ

คุณอาจสนใจ

Related News