สังคม

แม่ร้อง ลูกสาววัย 12 ถูกชายลวงไปกักขัง 3 วันแล้วขืนใจ ผ่านมาเกือบ 1 เดือนคดีไม่คืบ คนร้ายลอยนวล

โดย panisa_p

4 ก.ย. 2566

90 views

แม่เด็กหญิงชาวเมียนมาวัย 12 ปี ถูกชายร่วมชาติวัย 35 ปี ล่อลวงไปกักขังห้องเช่าย่านดุสิตนาน 3 วัน และใช้มีดจี้ กระทำชำเรา แต่คนร้ายยังลอยนวล ซ้ำยังถูกโทรข่มขู่ คดีผ่านมาเกือบ 1 เดือนไม่คืบ ร้องทนายความช่วยเหลือ



คุณชญตร์ มุกดาหาร ทีมข่าวเรือ่งเด่นฯ ได้พูดคุยกับหญิงอายุ 35 ปี แม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี ชาวเมียนมา ให้ข้อมูลผ่านล่ามว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ถูกนายโสนัย อายุ 35 ปี ชาวเมียนมา ที่รู้จักกันมาประมาณ 1 ปี เพราะเป็นคนแนะนำให้ตนและครอบครัวมาขายของที่ตลาดท่าอิฐ จังหวัดนนทบุรี ล่อลวงลูกสาว โดยโทรศัพท์ไปที่เบอร์ของแม่เด็ก แต่แม่เด็กไปขายของ ลูกสาวเลยรับสายแทน



นายโสนัยเลยออกอุบายให้ลูกสาวตน เดินจากห้องเช่าหลังตลาด ไปขึ้นรถแท็กซี่ บริเวณใกล้ๆ ตลาดท่าอิฐ โดยนายโสนัย เป็นคนโทรบอกพิกัดสถานที่กับแท็กซี่ ให้มาส่งที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง แถววัดประชาระบือธรรม เขตดุสิต



พอตนเองกลับมาห้อง ไม่เจอลูกสาว จึงเปิดโทรศัพท์มือถือดู เห็นเบอร์นายโสนัย จึงโทรกลับไป นายโสนัยจึงเปิดกล้องวีดีโอคอล ให้เห็นลูกสาว และบอกว่าจะขอแต่งงานกับลูกสาว แม่ของเด็กเลยออกอุบายว่า ให้รีบพาลูกกลับมา ถ้าไม่อยากให้เป็นคดีความ ซึ่งลูกสาวไปถึง ก็ถูกกักขังตัวไว้ในห้องนาน 3 วัน พร้อมกับใช้อาวุธมีดข่มขู่ลูกสาว บอกว่าจะฆ่าพ่อแม่ หากหนีออกไป



ตนเองพยายามโทรหาทุกวัน และโทรหาญาติของนายโสนัย จนกระทั่งวันที่ 9 สิงหาคม จึงปล่อยตัวลูกสาวกลับมา โดยให้เพื่อนของนายโสนัยเป็นคนพามาส่ง



ส่วนเด็กให้ข้อมูลกับคนใกล้ชิด ว่าวันเกิดเหตุ นายโสนัยโทรล่อลวง บอกว่าถ้าไม่มาจะฆ่าพ่อแม่ จึงนั่งรถแท็กซี่ไป โดยไม่รู้ปลายทาง พอไปถึงก็ถูกกักขัง และบังคับให้กอดนายโสนัยตลอด โดยอ้างว่าผู้ก่อเหตุเอามีดจี้ข่มขู่ตลอดเวลา แต่มาจนถึงวันนี้ ยังรู้สึกหวาดกลัว โดยในวันที่ 9 สิงหาคม ทั้งคู่จึงพยายามจะไปแจ้งความที่ สภ.บางศรีเมือง แต่ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ จึงกลับไปก่อน



ก่อนที่จะมีชาวบ้านในพื้นที่สงสาร และเห็นใจจึงช่วยพาไปแจ้งความใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 12 สิงหาคม โดยชาวบ้านรายนี้ชื่อคุณแหม่มเล่าว่า ตนเองสงสารเด็ก จึงเข้ามาช่วยเหลือ และติดตามความคืบหน้าทางคดีให้ แต่ปรากฏว่าคดีค่อนข้างช้า และอ้างว่าตนเองรู้จักคนเยอะ ทำให้ผู้เสียหายยิ่งหวาดกลัว ซึ่งตนก็ไม่ยอม จึงได้ประสานให้นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้งให้ช่วยเหลือ



โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุจะโทรมาข่มขู่บ่อยครั้ง และอ้างว่า ไม่สามารถเอาผิดกับตนได้ แม้แต่ช่วงวันที่31 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน ก็ยังโทรมาขู่ ว่าให้คนมาจับ ถ้าไม่คืนลูกสาวให้นายโสนัย และข่มขู่เรื่อยๆว่า จะไม่ให้ครอบครัวผู้เสียหายทำงานที่ประเทศไทย และจะส่งกลับประเทศ



ทางด้านทนายโป้ง หลังจากได้รับร้องเรียนจึงพาไปติดตามคดีต่อที่ สภ.บางศรีเมือง ถึงรู้ว่าคดียังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากทางสภ.ยังไม่สามารถติดต่อสหวิชาชีพได้ผู้เสียหายจึงยังไม่เข้าสู้กระบวนการตามคดีอาญา ส่วนตัวมองว่า พนักงานสอบสวนต้องเร่งดำเนินการมากกว่านี้ เพื่ออนุมัติหมายศาลออกหมายจับ



อย่างน้อยก็สามารถแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ หรือความผิดเกี่ยวกับทางเพศได้ แต่ตอนนี้ผลตรวจร่างกายยังไม่ได้ ซึ่งทุกอย่างช้าไปหมด และควรเร่งติดตามให้เร็วกว่านี้ ซึ่งตอนนี้จากข้อมูลผู้ถูกกล่าวหาอ้างตัวเองรู้จักผู้ใหญ่สามารถให้คนช่วยเหลือได้ รวมถึงช่องว่างทางกฎหมายทำให้กลุ่มคนต่างด้าวมีช่องทางในการอยู่ในประเทศได้ โดยการจ่ายส่วย ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้ครอบครัวดังกล่าว ตกอยู่ในการควบคุมของผู้ถูกกล่าวหา



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/y5EZ5_HUVyI

คุณอาจสนใจ

Related News