'อัจฉริยะ' หอบหลักฐานร้อง ปปป. สอบ 'รองฯสรรพสามิต' เอี่ยวแก๊งลอบขนน้ำมันเถื่อน

อัจฉริยะ นำหลักฐานข้อมูลขบวนลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ของ "เจ๊บีม" ที่ร่วมกับ รองยุทธ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต และอดีตตำรวจน้ำ มามอบให้ผู้บังคับการ ปปป. พร้อมบอกว่า ขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถือนเป็นกระบวนการใหญ่ที่มีการจ่ายส่วยจำนวนมาก



นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อยื่นหนังสือต่อ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. ให้ตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน หลังจากปรากฏข่าวว่า มีการจับกุมรถขนน้ำมันเถื่อนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และมีข้าราชการระดับสูงของกรมสรรพสามิตโทรศัพท์ไปเจรจาตำรวจขอไม่ให้ดำเนินคดี



นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ขบวนการนี้ เป็นขบวนการใหญ่ที่ทำการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนมานานแล้ว โดยเป็นการนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาจากประเทศมาเลเซียด้วยการสำแดงเท็จเป็นน้ำมันดำ ซึ่งเป็นน้ำมันคุณภาพต่ำ มีราคาถูก และยังบอกถึงวิธีตบตาในการสำแดงเท็จของขบวนการดังกล่าว คือจะนำน้ำมันดีเซล คุณภาพดี ไปผสมกับคาร์บอน 40% เพื่อให้ดูเหมือนเป็นน้ำมันดำ และนำไปสำแดง แต่เมื่อเวลาผ่านไ ปคาร์บอนจะตกตะกอน จากนั้นก็จะนำน้ำมันดังกล่าวไปกรองตะกอนออก ก็จะกลายเป็นน้ำมันดีเซลคุณภาพดีเหมือนเดิม ซึ่งการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ประมาณ 4 หมื่นลิตรต่อวัน



นายอัจฉริยะ ยังพูดถึงตัวละครสำคัญของขบวนการนี้ ที่ถือว่าเป็นรนี้ ตัวการใหญ่ คือ "เจ๊บีม" ที่เป็นผู้ลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี และจำหน่ายไปยังปั๊มหลอดในพื้นที่ภาคกลาง เช่น จังหวัดสุพรรบุรี จังหวัดสระบุรี

และยังให้ข้อมูลอีกว่า ก่อนหน้านี้ เจ๊บีม ได้ร่วมกับ อดีตตำรวจนายหนึ่งสังกัด กองบังคับการตำรวจน้ำ ในการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนร่วมกัน แต่มีปัญหากัน เจ๊บีม จึงเปลี่ยนมาทำงานกับรองอธิบดีกรมสรรพสามิตที่ชื่อ "รองยุทธ" โดยใช้บริการรถขนส่งของ "เจ๊หมง" ที่เป็นเจ้าของรถที่รับจ้างขนน้ำมันเถื่อนจากจังหวัดสงขลามาที่จังหวัดปทุมธานี



และในวันเกิดเหตุ ตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 2 ได้จับกุมรถรบรรทุกคันหนึ่ง ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ขาเข้าจังหวัดประจวบขีรีขันธ์ พบรถบรรทุกลักลอบขนน้ำมันเถื่อนมากว่า 4 หมื่นลิตร ซึ่งมากกว่าที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้



โดยขณะนั้นตำรวจทางหลวง ไม่ชำนาญเรื่องน้ำมัน จึงเชิญเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตในพื้นที่มาร่วมตรวจสอบ แต่ระหว่างที่ตรวจสอบ ก็ได้มีสายโทรศัพท์โทรฯเข้ามา ปลายสายคือ "ต้น" รองผู้อำนวยการฝ่ายปราบปรามของกรมสรรพสามิตจากส่วนกลาง เปรียบเสมือนมือขวาของ "รองยุทธ" ที่จะทำหน้าที่เก็บส่วยทั้งน้ำมัน / บุหรี่ / เหล้า ในพื้นที่ภาคใต้



โดย "รอง ผอ.ต้น" ได้โทรไปยังสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่ร่วมจับกุม การพูดคุย ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่จับกุมพูดกลับไปยังปลายสายว่า "ปล่อยไม่ได้ เพราะตำรวจทางหลวงเป็นผู้จับกุม" แต่หลังจากนั้นตำรวจทางหลวงก็ส่งมอบรถและน้ำมัน ที่เป็นของกลางให้กับสำนักงานสรรพสามิตประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งไม่ได้มีการส่งไปดำเนินคดีที่โรงพัก และล่าสุด นายอัจฉริยะ บอกว่า รถและน้ำมันของกลางได้หายไปแล้ว



นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า ขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถือนเป็นกระบวนการใหญ่ที่มีการจ่ายส่วย เคลียร์เส้นทาง ตั้งแต่ต้นทางยังปลายทางและข้อมูลที่ตนนำมามอบให้ตำรวจ เป็นข้อมูลประวัติการใช้โทรศัพท์ว่าวันที่เกิดเหตุใครโทรหาใครบ้างในช่วงวันที่มีการจับกุม



ส่วนตนมองว่าหากไปถาม รองยุทธ ว่ามีส่วนร่วมหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าจะอ้างว่า ไม่รู้เรื่องทั้งที่จริงๆ แล้ว รองยุทธ รู้ทุกอย่างเพราะน้ำมันล็อตนี้เป็นของคนสนิทของตัวเอง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-kkS48IM9yI