บุกบ้าน 'หยู ซิน ฉี' คุมตัวสอบเครียดปมตั้งสมาคมเถื่อน จ่อแจ้ง 2 ข้อหา

ตำรวจเข้าเชิญตัว หยู ซินฉี ประธานสมาคมมณฑลส่านซี แห่งประเทศไทย สอบถามข้อมูล หลังชูวิทย์ และรังสิมันต์โรม เปิดข้อมูลว่า ตั้งสมาคมโดยไม่มีใบอนุญาต และแอบอ้างเบื้องสูง หาผลประโยชน์



ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เข้าเชิญตัว นาย หยู ซิน ฉี ประธานมณฑลส่านซี สมาคมแห่งประเทศไทย ขณะเขาเดินออกมาจากบ้านพักย่านวงแหวนวัชรพล เพื่อเชิญตัวไปสอบถามเรื่องพฤติกรรมต้องสงสัย ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี



ซึ่งบ้านพักของนาย หยู ซิน ฉี เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น อยู่ในเนื้อที่ขนาด 80 ตารางวา ไม่พบว่ามีป้ายชื่อสมาคม หรือใช้เป็นที่ตั้งบริษัท จากการสอบถามเพื่อนบ้านพบว่า นาย หยู ซิน ฉี อยู่ตามลำพัง อัธยาศัยดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร



เบื้องต้นพบความผิดแล้ว 1 ข้อหา คือ จัดตั้งสมาคมโดยไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่กรมการปกครองจะไปแจ้งความที่ สน.คันนายาว ส่วนความผิดที่เกี่ยวข้องกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการซักถามข้อมูล และรอผลการตรวจค้นบ้านพัก เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาความผิด



ซึ่งการเข้าเชิญตัวครั้งนี้ เพราะนาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยว่า นาย หยู ซิน ฉี เป็นมือขวาของขบวนการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนเพื่อนบ้านของไทย และยังพยายามเข้ามาทำธุรกิจในไทย โดยนาย หยู ซิน ฉี เข้ามาตั้งสมาคมเถื่อน เปิดโรงเรียนสอนธุรกิจขึ้นมาบังหน้า เพื่อใช้เป็นช่องว่างในการพากลุ่มจีนเทาเข้ามาทำธุรกิจในไทย และยังแอบอ้างเบื้องสูง รวมถึงใช้ภาพที่ถ่ายกับบุคคลสำคัญ รวมถึงนายกรัฐมนตรี ไปแสวงหาผลประโยชน์



และนาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาให้เบาะแสเพิ่มพร้อมชี้เป้าบ้านพักนาย หยู ซิน ฉี และบอกให้ตำรวจรีบมาดำเนินการควบคุมตัว



ขณะที่ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ก่อนนาย รังสิมันต์ จะออกมาแฉเรื่องนี้ ตำรวจมีข้อมูลเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเช้าวันนี้ (17ก.พ.) ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักของ นาย หยู ซินฉี แล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและสรุปผล



พลตำรวจเอก สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่านาย หยู ซิน ฉี จะถ่ายรูปร่วมกับบุคคลสำคัญของไทย เพื่อนำไปแอบอ้างกับเพื่อนร่วมชาติสร้างความน่าเชื่อถือให้เข้ามาทำธุรกิจร่วมกัน ขณะนี้พบมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกร่วมลงทุน ทั้งในประเทศอังกฤษและประเทศจีนแล้วหลายคน ซึ่งพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องการฉ้อโกง การตั้งมูลนิธิเถื่อน และแอบอ้างเบื้องสูง



ตอนนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผู้เสียหายกลุ่มนี้เข้ามาให้ปากคำ จากนั้นจะดำเนินคดีกับ นาย หยู ซิน ฉี ฐานฉ้อโกง และตั้งมูลนิธิโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อดำเนินคดีความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้วจะผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ถาวร และเพิกถอนวีซ่า

รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/Djp5xVfEMus