'นอท กองสลากพลัส' แจงยิบรายได้ 1.8 หมื่นล้าน หลังนายกฯสั่งเช็กเส้นทางเงิน ยันไม่เคยเลี่ยงภาษี

นาย พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส ประธานกรรมการบริหารบริษัทกองสลากพลัส กล่าวถึงกรณี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือกับผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเตรียมเชิญให้ ปปง., ดีเอสไอ และกรมสรรพกร ตรวจสอบภาษีและเส้นทางการเงินของกองสลากพลัส หลังนายพันธ์ธวัช ประกาศกำไรของบริษัทในปีนี้ว่าสูงถึง 18,000 ล้านบาท



โดยบอกว่า บริษัทถูกจับตามาตลอด ตั้งแต่การรวบรวมลอตเตอรี่มาจากหลายที่เพื่อมาขาย ทั้งจากตลาดสนามบินน้ำ ตลาดวังสะพุง และตลาดสี่แยกคอกวัว รวมถึงผู้อื่นที่ซื้อขายกันอยู่แล้ว โดยบริษัทจะซื้อทุกวันที่ 5 ของเดือน แต่จะได้ลอตเตอรี่ในวันที่ 6 ซึ่งต้นทุนในการซื้อของตนอยู่ที่ฉบับละ 98 บาท ไม่ได้แทรกแซงกลไกตลาด แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อขายของเขานั้นอาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขตามสัญญาเรื่องขายยกเล่ม แต่ไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้ซื้อกับเจ้าของโควต้า



นาย พันธ์ธวัช บอกด้วยว่า การบริหารเงินสำหรับการซื้อขายลอตเตอรี่ต่องวด จะใช้เงิน 1,200 ล้านบาทในการซื้อสลาก โดยวันแรกจะได้ 6 ล้านใบ ตีเป็นเงิน 600 ล้านบาท พอขายได้ก็ใช้เงินนำมาหมุนเวียนซื้อขายกันไป เปรียบเหมือนเขาเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีคนนำสินค้าไปฝากขาย ซึ่งงวดล่าสุดมีสลากทั้งหมด 13 ล้านฉบับ



โดยครึ่งปีแรกของ 2565 เสียภาษีไปแล้ว 9 ล้านกว่าบาท แต่ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งที่บริษัทได้กำไร 1 หมื่น 8 พันล้านบาท ทำไมจึงเสียภาษีน้อย เป็นเพราะตัวเลขดังกล่าวเพิ่งมาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และแม้ว่ากำไรที่ได้จะตัวเลขสูง แต่คาดว่าหลังคำนวณมาแล้วกำไรสุทธิจะตกที่ 400 ล้านบาท และบริษัทของเขายังต้องเสียค่าปรับ กรณีชำระภาษีช้าอีกด้วย



นาย พันธ์ธวัช กล่าวว่า สำหรับบริษัทนี้เขาถือหุ้น 94% ที่เหลือเป็นของผู้ร่วมถือหุ้น คือ นาย จตุภัทร บุญสุวรรณ, นาย ชัชวงศ์ ธรรมราภา และ ทนายความของเขา โดยก่อนหน้านี้มีลูกชายของ พลตำรวจตรี ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง เคยมาถือหุ้นด้วย แต่ได้ถอนเงินออกไปแล้ว



ส่วนกรณีที่หน่วยงานรัฐ เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทนั้น ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ออกมาพูดทุกสิ่งอย่าง เพราะเหนื่อยที่จะตอบคำถามซ้ำๆ โดยเชื่อว่า มีที่ปรึกษานักการเมืองคนหนึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการขุดคุ้ยข้อมูลต่างๆ ของเขา ซึ่งบุคคลคนนี้ นอท เคยช่วยเหลือด้วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/uTCkXRSOst0