เจ้าของบัญชี 'ลีมินโฮปลอม' หลอกโอนเงิน พบผู้เสียหาย ชี้ ไม่ใช่คนนำเงินไป แต่ขอทยอยคืน

ผู้ต้องหาในคดีหลอกเป็นลีมินโฮ ให้ผู้เสียหายโอนเงิน เข้าพบพนักงานสอบสวน ไกล่เกลี่ยยอมจ่ายเงินคืนตามจำนวนที่ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชี เผยเปิดบัญชีไว้แต่มีผู้อื่นนำไปใช้แทน



ก่อนหน้านี้ที่เคยเกิดกรณีสาวแม่ลูกอ่อน อายุ 28 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี ถูกมิจฉาชีพใช้รูปภาพของ ลีมินโฮ ซุปตาร์ดาราดังจากเกาหลีใต้ หลอกให้รักแล้วออกอุบายให้โอนเงินให้ จนสูญเงินรวม 70,000 บาท ทำให้เกิดความเครียดถึงขั้นพยายามจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย โชคที่สามีของสาวรายนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านต้มเลือดหมู และลูกจ้างช่วยชีวิตไว้ทัน ก่อนที่สามีจะออกมาเปิดเผยเรื่องราวของภรรยา



จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้เสียหาย พบข้อความที่ได้พูดคุยกับชายหนุ่ม ที่ใช้โปรไฟล์อ้างเป็น ลีมินโฮ และชายคนที่อ้างตัวเป็นลีมินโฮ นั้นได้เรียกผู้เสียหายว่า ที่รัก ทุกคำ และบอกว่า ได้เดินทางจากเกาหลีมายังประเทศไทย แต่ไม่สามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ จึงขอให้เธอโอนเงินไปให้ ซึ่งผู้เสียหาย บอกว่า ชอบดูซีรีส์เกาหลีตั้งแต่อายุ 12 ขวบ และชื่นชอบพระเอก ลีมินโฮ เป็นอย่างมาก ขณะที่ผู้เป็นสามีก็ไม่ได้กล่าวโทษภรรยาตัวเอง โดยเหตการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเป็นข่าวโด่งดัง



กระทั่งล่าสุดวันนี้ น.ส.ภัทรวดี อายุ 21 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.พรหมบุรี สิงห์บุรี ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเป็นเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินจำนวน 3 หมื่นบาท โดยเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว มีทั้งพ่อ พี่ชาย และสามี



ซึ่งทางพ่อของ น.ส.ภัทรวดี กล่าวว่า เพิ่งทราบว่าลูกสาวตกเป็นจำเลย ยอมรับตกใจและเสียใจ ขอเจรจาเพื่อให้เรื่องราวจบลง ขณะที่ น.ส.ภัทรวดี เจ้าของบัญชี บอกว่า เป็นบัญชีของตนจริง แต่สามีนำไปให้เพื่อนร่วมงานเพื่อโอนรับ-จ่ายเงินจากการรับเหมา ไม่ทราบว่าเพื่อนของสามีนำไปใช้ต่อในทางใด ทราบเพียงว่า มีชายชาวต่างชาติผิวดำเป็นผู้นำเงินออกจากบัญชีไป หลังเกิดเหตุก็ไม่สามารถติดต่อเพื่อนของสามีได้อีกเลย



ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายคู่สามีภรรยา เดินทางมาเจรจา ได้ข้อสรุปว่า ขอให้ทาง น.ส.ภัทรวดี นำเงินจำนวน 30,000 บาท มาส่งคืน แล้วจะถอนแจ้งความ แต่ทางฝ่าย น.ส.ภัทรวดี มีเงินติดตัวมาเพียง 20,000 บาท จะขอชำระก่อน ส่วนที่เหลืออีก 10,000 บาท จะโอนมาให้ภายหลัง ทางฝ่ายผู้เสียหายก็ยินยอม ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะทำการส่งมอบเงินจำนวน 20,000 บาท ต่อหน้าตำรวจ



ด้านนายสีน้ำ สามีของนางสาวพรพิมล กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมบุรี ที่ติดตามเรื่องจนได้เงินคืนมาจำนวนหนึ่ง เหลืออีกหนึ่งบัญชีที่มียอดเงินโอนไป 40,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อ นัดหมายให้เข้ามาเจรจากันแล้ว แต่ยังไม่มีการเดินทางเข้ามาแต่อย่างใด

รับชมได้ทางยูทูบ : https://youtu.be/KnLyWLDLpuo