ตร.เร่งไล่ล่า 'จ่าเบิร์ด' เมาคลั่งยิงนทท.ดับคาผับ ประสาน 'ภรรยา-แม่' กล่อมมอบตัว

ผู้การจังหวัดสั่งไล่ออก จ่าเบิร์ด เมาคลั่งรัวยิงนักเที่ยวดับคาผับกลางเมืองตรัง ล่าสุดยังคงหลบหนี เมียแม่โทรเกลี้ยกล่อมยังไม่ยอมมอบตัว ด้านหุ้นส่วนผับเผย ไม่ได้ตรวจอาวุธจ่าเบิร์ด เพราะเป็นตำรวจแถมเคยเป็นการ์ดที่นี่ ที่ผ่านมานิสัยดีมาตลอด


กรณี จ่าสิบตำรวจ ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง ปฎิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ไปนั่งดื่มกินกับเพื่อนตำรวจอีก 1 คน ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง บนถนนพัทลุง อำเภอเมืองตรัง แล้วเกิดเขม่นกับนักเที่ยวในร้าน ซึ่งมากัน 3 คน ก่อนถีบเก้าอี้ไปโดนนายจิตกร หรือขาว อายุ 32 ปี คนสนิทนักการเมืองท้องถิ่น นายจิตกรโมโห ลุกขึ้นผลักออกจ่าเบิร์ดแล้วขึ้นบันไดชั้น 2 จ่าเบิร์ดจึงควักปืนเดินตามแล้วกระหน่ำยิงใส่จากด้านหลัง จนพรุนไปทั้งร่าง ทำให้นายจิตกรเสียชีวิต แล้วกระสุนยังไปถูกเพื่อนนายจิตกร และนักเที่ยวคนอื่นจนบาดเจ็บอีก 2 คน เหตุเกิดช่วงตีหนึ่งที่ผ่านมา


หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน และชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย ลงพื้นที่ไล่ล่าตัวจ่าเบิร์ด โดยเมื่อช่วงสาย ได้เข้าปิดล้อมห้องทำงานของหน่วยสวาทฯ ซึ่งอยู่ด้านหลังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง หลังพบเบาะแสว่า จ่าเบิร์ดหลบหนีเข้ามาเอาปืนยาวเอ็มโฟร์ (m4) และเสื้อเกราะของทางราชการไป แต่เมื่อเดินลาดตระเวนรอบ ๆ พื้นที่ ก็ยังไม่พบหาตัว ขณะเดียวกันยังจัดกำลังอีกชุด ลงพื้นที่บ้านคนสนิทที่คาดว่า จะแอบไปซ่อนตัว แต่ก็ยังไม่พบเช่นกัน


พันตำรวจเอก เชื้อชาติ เยาดำ ผู้กำกับการ สภ.เมืองตรัง เผยว่า ตำรวจได้ติดต่อไปที่แม่และภรรยาของจ่าเบิร์ด ให้ช่วยเจรจากับผู้ก่อเหตุ แต่จ่าเบิร์ดยังไม่ประสานมาขอมอบตัว และไม่รู้ว่าหลบหนีไปที่ใด


ทั้งนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ เบื้องต้นตั้งไว้ 3 ข้อหาคือฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่า และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนเพื่อพกพา สำหรับปืนที่ใช้ก่อเหตุ จ่าเบิร์ดซื้อจากสวัสดิการด้วยเงินส่วนตัว ส่วนนิสัยจ่าเบิร์ด เบื้องต้นทราบว่า มีความประพฤติดี เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการ อยู่ สภ.บ้านหนองเอื้อง และเคยเป็นการ์ดอยู่ในสถานบันเทิงที่เกิดเหตุ


ล่าสุด พลตำรวจตรี เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำผิดส่วนตัว เบื้องต้นได้สั่งไล่ออกไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากมีความผิดทางอาญา แต่ก็ยืนยันว่า ที่ผ่านมาจ่าเบิร์ดเป็นคนเรียบร้อยและใจเย็น สามารถคุมลูกน้องได้ดี ปมสาเหตุยังคงเป็นเรื่องของการเขม่นกันในร้าน แต่ยังไม่ตัดประเด็นชู้สาวทิ้ง


ด้านนางวรรณา อินฤทธิ์ หรือเอียด อายุ 57 ปี และนายสมจิตร คงปรือ อายุ 58 ปี สองสามีภรรยาที่เป็นหุ้นส่วนสถานบันเทิงที่เกิดเหตุ บอกว่า ปกติที่ร้านมีการตรวจอาวุธก่อนเข้าร้านทุกคน มีกล้องวงจรปิดทุกจุด และมีการ์ดอยู่หน้าร้าน ซึ่งจ่าเบิร์ดเคยเป็นการ์ดที่นี่ น้องนิสัยดีมาก แต่เคยบอกกับตนว่า เขาเหนื่อยกับการเป็นทำงาน จึงขอพักงานการ์ด ก่อนเกิดเหตุเชื่อว่า การ์ดได้ตรวจเขาแล้ว ด้วยความที่คนเคยอยู่ด้วยกันมา จึงไม่ได้เข้มข้นอะไร ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องใหญ่


หลังเกิดเหตุเสียใจมาก เรื่องที่เกิดไม่ใช่เป็นความผิดของร้าน และหลังจากนี้จะไปทางไหนต่อ ตนมีลูกน้องต้องดูแลอีกหลายสิบชีวิต อยากวิงวอนทางราชการอย่าสั่งปิดร้าน เพราะร้านเพิ่งพ้นเพิ่งฟื้นจากโควิด หากปิดตอนนี้พนักงานและครอบครัวของเขา จะอยู่กันยังไง


ขณะเดียวกัน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า กรณีนี้ตำรวจที่ก่อเหตุช่วยราชการฝ่ายสืบสวนของจังหวัด ทำให้สามารถพกปืนทำงานได้ แต่พกเข้าไปในสถานบันเทิง ต้องดูก่อนว่าเข้าไปทำงานหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องดำเนินการทางวินัย ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งไล่ออกแล้ว ขณะเดียวกันได้เร่งรัดชุดสืบสวนในพื้นที่ให้ตามจับตัวมาให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/EQ8y752a6iw