โฆษก ตร. ชี้ คนมีจินตนาการเยอะ "คดีแตงโม" ทำสังคมสับสน หากไม่จริงต้องรับผิดชอบ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้ กรณีเต้ มงคลกิตติ์แถลง ควรนำข้อมูลให้พนักงานสอบสวน และหากเป็นข้อมูลนั้นไม่จริง ทำให้สังคมสับสน ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และรับผิดชอบในทางกฎหมาย ขณะที่ความคืบหน้าคดี ผลต่างๆ เกือบ 100% แล้ว รอเพียงผลจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงกรณีที่คุณมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาแถลงเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถึงจุดที่คุณแตงโมตกเรือ และห้วงเวลาการตก โดยพบว่าหลายข้อมูลขัดแย้งกับข้อมูลที่ตำรวจแถลงก่อนหน้านี้

พล.ต.ต.ยิ่งยศ บอกว่า การให้ข้อมูล หรือ เอาข้อมูล มานำเสนอต่อสื่อมวลชน ควรจะมีที่มาที่ไป และหากใครต้องการที่จะช่วยผดุงความยุติธรรม การนำเสนอข้อมูล จะต้องนำเสนอกับผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ ซึ่งในที่นี้ก็คือ พนักงานสอบสวน

แต่การเอาข้อมูล ที่เชื่อว่า คิดว่า หรือ จินตนาการว่า มานำเสนอต่อสื่อมวลชน ส่วนหนึ่งทำให้สังคมเกิดความสับสน ส่วนตัวมองว่า ควรนำหลักฐานเหล่านี้มาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนมากกว่า เพื่อนำไปสู่กระบวนการทางยุติธรรม

ยืนยันว่า การที่ตำรวจทำอะไร คงไปไม่ได้ออกมาพูดให้สังคมทราบ 100% เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่บอกในบางส่วนเพื่อให้สังคมคลายความสงสัย โดยตำรวจรวบรวมหลักฐานมากกว่าที่มีการแชร์ข้อมูลกัน ซึ่งเฉพาะคลิปมีมากกว่า 216 คลิป กล้องวงจรปิดอีก 70 กว่าตัว และพยานหลักฐานอื่นๆ ซึ่งเก็บรวบรวม และมาวิเคราะห์คดี ซึ่งก็ได้แต่บอกกับชุดทำงานให้อดทนกับคำวิพากษ์วิจารณ์

ส่วนจะต้องดำเนินการเอาผิดกับคุณเต้ หรือไม่ พล.ต.ต.ยิ่งยศ บอกว่า ไม่ขอระบุว่าใครเป็นใคร แต่จะบอกว่าการให้ข้อมูลที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีที่มาที่ไปรองรับ และเป็นข้อมูลที่ได้มาจากไหนนั้นตนไม่ทราบ แต่หากถ้าทำให้ตรงกระบวนการ แนะนำให้นำพยานหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวน  "แต่ถ้าการให้ข้อมูล อาจเป็นเรื่องไม่จริง หรือจริงบ้างไม่จริงบ้าง คนที่ให้ข้อมูลดังกล่าว ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสังคม และรับผิดชอบในทางกฎหมาย เกี่ยวกับการให้ข้อมูลเท็จ

ทั้งนี้ ยอมรับว่า มีหลายกรณี ที่มีผู้ให้ข้อมูล ที่ทำให้สังคมสับสน ยืนยันตำรวจมีการรวบรวมไว้อยู่แล้ว เมื่อถึงช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม คงจะไม่ละเลยในการดำเนินการ เพราะการทำแบบนี้ นอกจากจะทำให้สังคมเกิดความสับสนแล้ว ทำให้เรื่องหนึ่งกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกส่วนนึงมันคือการรับผิดทางกฏหมายใครที่คิดว่าไม่ชัวก็อย่าส่งต่อข้อมูล อย่าเสริมเติมแต่ง

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ที่มีกระแสข่าวว่าจะแถลงปิดคดีก่อนสิ้นเดือนนี้ ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานบุคคล เสร็จสิ้นเกือบ 100% แล้ว ส่วนผลตรวจต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลออกเกือบ 100% แล้วเช่นกัน ตอนนี้เหลือเพียงผลการตรวจพิสูจน์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งหากผลออกครบถ้วน ก็จะสามารถสรุปได้อย่างแน่นอน แต่จะเมื่อไหร่นั้น ตอบไม่ได้ แต่อยู่ในระยะเวลาที่รับได้แน่นอน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/ccsTheLKfN0