เปิดใจ คุณพ่อสะพายลูกวัย 11 เดือน ซิ่งทดสอบบิ๊กไบก์ อ้างฝันอยากให้ลูกเป็นนักแข่งรถ

พ่อเด็กเปิดใจหลังเจอกระแสดรามาพาลูกน้อยวัย 11 เดือนสะพายเป้ด้านหลัง ทดสอบรถบิ๊กไบก์ในสนาม พร้อมน้อมรับผิดและขอโทษทางสนามแล้ว

เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part 3 ลงภาพชายคนหนึ่ง สะพายลูกน้อยไว้ที่หลัง อยู่ภายในสนามแข่งรถ รวมถึงมีภาพที่กำลังขี่อยู่บนในสนาม โดยลูกชายก็สะพายอยู่ที่หลัง ซึ่งในเพจระบุว่า พ่อแม่รังแกฉัน ทำไมผู้จัดค่ายรถ ยอมให้เอาเด็กไปทำแบบนั้น ผู้จัดไม่เห็นหรือไง ฝากเป็นกระบอกเสียง สำหรับ ผู้จัดงาน เทสรถ มอเตอร์ไซค์ ทำไมอนุญาตให้ทำแบบนี้ ลูกเค้า อะใช่ แต่มันไม่ปลอดภัย สำหรับเด็กเลย งานเทสรถ พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สนาม ย่านสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์มี่ผ่านมา

ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ ถูกโพสต์ไว้ในเฟสบุ๊กส่วนตัวของชายรายนี้ พร้อมข้อความระบุว่า “เทสรถให้ลูกก่อนจะได้เลือกได้ในอนาคต” ทีมข่าวได้เจอตัวเจ้าของโพสต์ คือ คุณณัฐพล ผลวัฒนะ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้อง “จิกเซ่อร์” ลูกชายวัย 11 เดือน อธิบายว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ภายในสนามแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการเปิดให้คนที่สนใจรถได้มาลองทดสอบรถ

ตนเองต้องการทดสอบขี่รถบิ๊กไบค์ ทรงสปอร์ตแบรนด์หนึ่ง และอยากรู้ว่าลูกวัย 11 เดือน จะมีอาการงอแงหรือไม่ หากตนขี่รถบิ๊กไบค์ จะต้องโน้มตัวไปข้างหน้า ลมอาจปะทะหน้าลูกได้ เมื่อไปถึง ระหว่างลงทะเบียนเข้าไป ทีมงานไม่ทันสังเกตเห็นว่าตนสะพายเด็กมาเพราะเข้าใจว่าสะพายเป้ และตนก็ไม่ทราบว่า ห้ามนำเด็กลงไป เพราะไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ห้ามไว้ และกำหนดว่าให้ต้องสวมหมวกกันน็อก ถุงมือ กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ

โดยก่อนลงสนาม ก็มีเจ้าหน้าที่อธิบายไว้ ว่าห้ามใช้ความเร็วเกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะถูกยกธงแดงให้ออกจากสนามทันที ตอนนั้น เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทันเห็น กระทั่งตนทำการเทสรถ ซึ่งตอนนั้นตนใช้ความเร็วเพียง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พยามดูกระจกข้างตลอดว่ามีคนตามมาหรือไม่ และขับเลนซ้าย โดยให้รถคันอื่นๆ แซงไป

แต่เมื่อขับได้ไม่ถึงรอบกว่าๆ ภรรยาที่อยู่ข้างสนาม และเจ้าหน้าที่ ก็กวักมือเรียก และยกธงแดงให้ตนเอง ก่อนจะเข้ามาต่อว่า ว่าทำไมจึงพาเด็กลงสนามไปด้วย จากนั้นตนก็ถูกเชิญให้ออกจากสนาม และถูกทางสนามแบน

แต่ส่วนที่มีคนไปต่อว่าผู้จัดงานทำไมอนุญาต หรือไม่ต่อว่านั้น นายณัฐพลบอกว่า ทีมงานได้ต่อว่าตนแล้ว เพราะสนามก็ชี้แจงว่าไม่อนุญาตให้นำเด็กมาลงในสนามอยู่แล้ว เพียงแต่ตนไม่ทราบ และตอนลงทะเบียนทีมงานก็ไม่ทันเห็นว่าตนสะพายลูกไว้ข้างหลัง โดยตนเองยอมรับผิดและขอโทษทางสนามแล้ว

ทีมข่าวถามถึงระบบความปลอดภัย ซึ่งทางนายณัฐพล ก็ได้ทดสอบระบบอุปกรณ์สายสะพายให้ดูและลองสะบัด ขณะที่สะพายลูกอยู่ข้างหลัง เพื่อชี้ให้เห็นว่า อุปกรณ์สายสะพายดังกล่าว ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันเป็นอย่างดี และจะช่วยลดการตกหล่นของเด็กไปได้

นายณัฐพล บอกอีกว่า ตนเองใช้อุปกรณ์สะพายกับลูกตั้งแต่อายุ 6 เดือน มักจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปตลาด หรือไปทำธุระ ซึ่งย้ำว่าทุกครั้งที่มีลูกไปด้วย ตนใช้ความเร็วเพีย 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งภรรยา และครอบครัวก็อนุญาต และเข้าใจ พร้อมเข้าใจดีที่คนต่อว่าตนเอง เพราะทุกคนเป็นห่วงลูก และเอ็นดู ซึ่งในส่วนนี้ก็น้อมรับคำติ คำต่อว่า แต่จุดประสงค์หลัก ใฝ่ฝันที่จะให้ลูกเป็นนักแข่งรถ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/5NydcX00lmM