ตร.มอบ 63 ล้านบาท คืนหลวงพ่อพัฒน์ หลัง 'ไวยาวัจกร' ยักย้ายเข้าบัญชี

จากกรณีที่มีศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน จังหวัดนครสวรรค์ ร้องเรียนให้หน่วยงานตรวจสอบ กลุ่มไวยาวัจกรของวัด หลังสงสัยว่ามีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ในการบริหารจัดการเงินบริจาค จนพบว่ามีกลุ่มคนยักยอกเงิน ไปเข้าบัญชีส่วนตัวจริง ล่าสุดสามารถนำเงินกลับมาถวายคืนหลวงพ่อแล้วกว่า 63 ล้านบาท

พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และพลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าว ถวายเงินจำนวน 63,034,470 บาท คืนให้กับพระราชมงคลวัชราจารย์ หรือหลวงพ่อพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน ตำบลธารทหาร อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ โดยเป็นเงินที่กลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วนยักยอกไป และยึดคืนกลับมาได้

ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีกลุ่มศิษยานุศิษย์ ของหลวงพ่อพัฒน์ สังเกตุเห็นว่ากลุ่มไวยาวัจกร 3 คน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ ในการดูแลจัดการทรัพย์สินของวัด มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ และน่าเชื่อว่าจะทุจริต ยักยอกเงินวัด

จึงร้องเรียนไปยังกองบังคับการปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบทำการตรวจสอบ ปรากฎพบว่า กลุ่มไวยาวัจกร ประกอบด้วย นายเสนาะ ทองปรอน ,นางธัญญา เพชรสายบัว และนางบุญเชิด สุขจิตร ซึ่งมีอาชีพเป็นเกษตรกร มีเงินในบัญชีที่เป็นชื่อตัวเอง จำนวน 7 บัญชี รวมเป็นเงิน กว่า 71 ล้านบาท จึงได้อายัดเงินไว้ และตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงเส้นทางการเงิน ซึ่งได้หลักฐานยืนยันแน่นอนว่าเป็นเงินวัด 63,034,470 บาท ซึ่งกลุ่มไวยาวัจกรก็ยอมรับ และยินยอมถอนเงินจากบัญชีมาคืน ส่วนเงินที่เหลืออีก 7.9 ล้านบาท ในบัญชีของนายเสนาะ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้มาอย่างไร

ส่วนเงินที่ไปอยู่ในบัญชีของกลุ่มไวยาวัจกร หลวงพ่อบอกว่า ฝากเงินจำนวน 28 ล้านบาท ไว้ในบัญชีส่วนตัวของกลุ่มไวยาวัจกร เพื่อความสะดวกในการเบิกมาจ่ายค่าก่อสร้างเจดีย์กลางน้ำ และสาธารณะประโยชน์ แต่เมื่อถึงกำหนดจ่าย ได้ให้นายเสนาะเบิกเงินจำนวน 15 ล้านบาท มาจ่ายให้กับผู้รับเหมา แต่นายเสนาะไม่ยอมเบิกเงินให้ หลวงพ่อจึงต้องนำเงินจากส่วนอื่นมาจ่ายแทน 

นายต่อ สุขประเสริฐ ลูกศิษย์หลวงพ่อพัฒน์บอกว่า ด้วยความที่หลวงพ่อเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบ มีความเมตตาสูง ทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเลื่อมใส ศรัทธา จึงมีผู้มาขอให้หลวงพ่อปลุกเสกวัตถุมงคลต่าง ๆ และถวายเงิน ปีละกว่าร้อยล้านบาท ซึ่งหลวงพ่อก็จะนำเงินที่ได้รับการถวาย ไปใช้ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ เช่น วัด โรงพยาบาล โรงเรียนอยู่เสมอ แต่ว่ามีความผิดปกติ ตรวจสอบบัญชีไม่ได้ จึงร้องเรียนให้หน่วยงานตรวจสอบ ซึ่งเมื่อผลออกมาได้เงินคืนให้หลวงพ่อแล้วก็พอใจ และหลังจากนี้หากมีบัญชีแสดงรายรับ-รายจ่าย คนที่บริจาคมาก็สบายใจ

ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มไวยาวัจกร พนักงานสอบสวนบอกว่า ต้องส่งสำนวนการสอบสวน ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาภายใน 30 วัน เพื่อไต่สวนและวินิจฉัย ว่ามีการกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือไม่

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/0h2Bkx1iKFI