สังคม
สาวบุรีรัมย์ ถูกหนุ่มไม่ตรงปกหลอกข่มขืน สุดงง เข้าแจ้งความ ตร.บอก รีบหนีไป ไอ้นี่มันคดีเยอะ!
โดย panwilai_c
19 ส.ค. 2564
4.7K views
ชาวบ้านอึ้ง ไปแจ้งความเอาผิดคนร้ายล่อลวงไปข่มขืนแล้วขโมยทรัพย์สิน แต่พอตำรวจรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร กลับตกใจ พร้อมบอกให้ผู้เสียหายรีบหนีเอาชีวิตรอด ไม่ต้องห่วงทรัพย์
สาววัย 32 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว ระบุ ไปทำงานอยู่ จ.ระยอง แล้วรู้จักหนุ่มชาว อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อ "อสูร กาย" เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แล้วพูดคุยกันมาเรื่อยๆ ฝ่ายชายมีลักษณะเหมือนมาจีบ และอยากมาแต่งงานด้วย ตนก็คล้อยตามเพราะไม่มีแฟน ประกอบกับรูปในโปรไฟล์ เป็นผู้ชายหน้าตาดี
ต่อมาได้บอกฝ่ายชายว่า จะกลับไปหาแม่ที่ อ.ประโคนชัย วันที่ 12 ส.ค. ก็ถูกฝ่ายชายรบเร้า ขอให้นั่งรถตู้โดยสารไปลงที่ศรีสะเกษ ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ แต่ถูกฝ่ายชายตื้อให้มาให้ได้ อ้างว่าให้มารับแล้วเราจะไปหาแม่ด้วยกัน ไปขอแต่ง และช่วยกันทำมาหากิน ตนจึงตกลง โดยเดินทางจากระยองวันที่ 11 ส.ค. ถึง อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เวลาประมาณ 2 ทุ่ม
เมื่อเจอตัวกลับไม่ตรงปก ตนจะกลับบ้าน เพราะคุยกันก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าไม่ตรงปกก็แยกย้าย แต่ฝ่ายชายบังคับขึ้นมอเตอร์ไซค์ พร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายและจะส่งกลับบ้านตอนเช้า โดยที่บ้านของฝ่ายชาย มีลูกชายและแม่เขาอยู่ด้วย แต่ทั้งคู่อยู่กระท่อมหลังบ้าน ตนถูกเอาปืนจี้ไว้ ก่อนจะถูกข่มขืนตอนตี 3
รุ่งเช้า อสม.บ้านหนองไผ่แคน ต.หนองฮาง อ.เบญจลักษณ์ เห็นเป็นคนแปลกหน้า จึงให้ไปรายงานตัวที่ศูนย์กักกัน ตนดีใจที่จะได้อยู่ที่ศูนย์กักกัน หลังจากตรวจเสร็จ อสม.กลับพาตนไปกักตัวไว้ที่บ้านหลังเดิม จนมาถูกข่มขืนอีกครั้ง ก่อนจะได้โอกาสหลบหนีออกมาได้ตอนเช้ามืด วันที่ 14 ส.ค. แล้วไปขอความช่วยเหลือที่บ้าน อบต.ในหมู่บ้าน
จากนั้นไปแจ้งความที่ สภ.เบญจลักษณ์ ว่า ถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกาย และอยากจะได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ 2 เครื่อง เงินสด 4,400 บาท พร้อมเอกสารในกระเป๋าเงินคืน แต่เมื่อตำรวจรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร กลับมีท่าทีตกใจ และพยายามให้ตนรีบกลับบ้านที่บุรีรัมย์ทันที บอกว่าไม่ต้องมาห่วงทรัพย์สิน ให้เอาชีวิตตัวเองรอดไว้ก่อน จากนั้นภรรยาตำรวจได้นำเงินมาให้ 500 บาท เป็นค่ารถ พร้อมขับรถมาส่งที่ท่ารถ
สุดท้ายเดินทางไปได้แค่ท่ารถ จ.อุบลราชธานี ก็ไม่มีรถประจำทาง จึงต้องเหมาแท็กซี่จากสถานีขนส่ง มา อ.ประโคนชัย เป็นเงิน 2,500 บาท โดยยืมโทรศัพท์คนขับรถโทรให้ญาติเตรียมเงินไว้จ่ายค่าแท็กซี่ จากนั้นจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ประโคนชัย และถูกส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.ประโคนชัย แต่การดำเนินคดีจะต้องไปแจ้งที่ สภ.เบญจลักษณ์ ท้องที่ที่เกิดเหตุ จึงอยากจะวิงวอนให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยดำเนินการเรื่องคดีให้ตนด้วย
ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านผู้เสียหาย เจอเพียง นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี น้าของสาวที่ถูกหลอก บอกว่า หลานกลับจากนอกพื้นที่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการกักตัวที่ศูนย์กักกันแห่งหนึ่ง เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลานนั้นเลวร้าย แต่ที่ตนช็อก คือ เรื่องตำรวจที่ศรีสะเกษ ที่บอกให้หลานสาวรีบกลับบ้าน ไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน ให้เอาชีวิตรอดไว้ก่อน เพราะ "ไอ้นี่คดีมันเยอะ" แล้วให้รีบกลับบุรีรัมย์เป็นการด่วน ทั้งที่โรงพักเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/w6Qoxv3u1S8