‘พลภูมิ’ ปัดฮั้ว แทรกเลือกตั้งปธ.สภาวัฒนธรรม แจ้งความ ‘จารุภัทร’ หมิ่นประมาท

วันนี้ (5 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สน.ห้วยขวาง นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมทีมทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.จารุภัทร จุลสำลี รักษาการประธานสภาวัฒนธรรม เขตยานนาวา ในข้อหาหมิ่นประมาท ภายหลังจากเมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 น.ส.จารุภัทรกับพวก ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.)  โดยมีการกล่าวหาและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า นายพลภูมิ ฮั้วกับข้าราชการ สวธ.แทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งสภาวัฒนธรรมในเขต กทม. เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง เพื่อช่วยให้คนของตัวเองได้เข้ามาเป็นประธานสภาฯ และคณะกรรมการโดยที่ไม่ยึดกฎ กติกาใดๆ ทั้งสิ้น

โดยนายพลภูมิ กล่าวว่า ข้อความดังกล่าว เป็นการหมิ่นประมาท ทำให้ตนเองเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือ ถูกเกลียดชัง เนื่องจากทำให้ประชาชนเข้าใจว่า ตนเองกับข้าราชการประจำได้ฮั้วหรือสมรู้ร่วมคิดกัน ทำผิดกฎระเบียบหรือกฎหมาย เพื่อเอาคนของตัวเองหรือพรรคพวกเข้ามาเป็นคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมและเป็นประธานสภาวัฒนธรรม เขตยานนาวา โดยไม่ยึดกฎและกติกาใดๆ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการเลือกตั้งคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมและประธานสภาวัฒนธรรม เขตยานนาวา เป็นไปตามกฎระเบียบและถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ตนเองกับข้าราชการประจำไม่ได้ฮั้วหรือสมรู้ร่วมคิดกันทำผิดกฎระเบียบ หรือผิดกฎหมาย อย่างที่ น.ส.จารุภัทร กล่าวหาตนเองต่อสื่อมวลชนและประชาชน

ตนเองจึงต้องมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.จารุภัทร  ในข้อหาหมิ่นประมาทรวมถึงข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันจะดำเนินคดีจนคดีจะถึงที่สุด ในขณะนี้ได้ให้ทีมทนายเตรียมที่จะร่างคำฟ้อง เพื่อยื่นคดีต่อศาลพร้อมที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวน 5 ล้านบาท ในข้อหาหมิ่นประมาทเพื่อปกป้องชื่อเสียงและเกียรติยศของตนเอง

"ฝากไปถึงผู้ที่กล่าวหาตน ท่านต้องตั้งสติให้ดีศึกษากฎระเบียบ กติกาข้อบังคับให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ การที่ท่านมาร้องเรียนที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ขอให้ระงับการประชุมปรึกษาหารือเพื่อให้ได้มาซึ่งประธานและคณะกรรมการสภา วัฒนธรรมในกรุงเทพมหานครทุกเขต และ ขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมสั่งเขต ที่มีการปรึกษาหารือเพื่อให้ได้มาซึ่งประธานและคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้เป็นโมฆะ  ทุกข้อที่ท่านร้องเรียนมาล้วนกระทบและละเมิดสิทธิของผู้อื่นโดยไม่ชอบธรรม“ นายพลภูมิ กล่าว