สังคม

เปิดใจ “แม่น้องการ์ตูน” 11 ปี คู่กรณีไร้เยียวยา ปัดขอรับบริจาค ย้อนถาม “ทำไมไม่ด่าคนที่ทำให้เป็นแบบนี้”

1 พ.ค. 2568

3.5K views

“แม่น้องการ์ตูน” เปิดใจ ลูกสาวต่อสู้มา 11 ปี คู่กรณีไม่มีการเยียวยาสักบาทด้วย แจงดรามาปัดเปิดรับบริจาค พร้อมตั้งคำถาม “ทำไมคนต้องมาด่าเรา ทำไมไม่ด่าคนที่ทำให้เราเป็นแบบนี้”


จากกรณีเมื่อปี 2557 เกิดเหตุคนขับรถกระบะเมาขับแข่งกันมา ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนร้านสเต๊กแห่งหนึ่ง บริเวณปากซอยเอกชัย 119 บางบอน กรุงเทพฯ จนเป็นเหตุให้ “น้องการ์ตูน” อายุ 5 ขวบ ในขณะนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัสและกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะที่พ่อของน้องการ์ตูนได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาแม่ของน้องการ์ตูนได้ออกมาเรียกร้องหลังไม่ได้รับความเป็นธรรม คู่กรณีติดคุกเพียง 1 ปี และยังไม่ได้จ่ายค่าชดเชย

ล่าสุดเรื่องราวของน้องการ์ตูน กลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ แอดมินเพจร้านสเต็กคุณแม่น้องการ์ตูนฯ ได้โพสต์ภาพน้องการ์ตูน นอนป่วยอยู่ในห้องพยาบาล พร้อมเขียนข้อความส่งกำลังใจไปถึงคุณแม่การ์ตูน จากนั้นเพจร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูนฯ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "ตอนนี้คุณแม่ของ "น้องการ์ตูน" กำลังลำบากมาก ต้องหาเงินจ่ายค่ารักษาน้องภายในวันนี้ จำนวน 300,000 บาท แอดมินไม่รู้จะหันไปทางไหนแล้ว เลยขอพึ่งพาน้ำใจจากพี่ๆ ท่านใดที่พอจะมีกำลังช่วย "ให้ยืมเงิน" เพื่อจ่ายค่ารักษาน้องก่อน แล้วให้คุณแม่ทยอยผ่อนคืนทีหลังได้ไหมครับ หากพี่คนไหนพอช่วยได้ รบกวนทักแชทเพจมาหาแอดมินหน่อยนะครับ"

ต่อมาเพจของร้าน ได้มาโพสต์เลขบัญชีของแม่น้องการ์ตูน พร้อมเขียนอธิบายว่า เนื่องจากมีพี่ๆหลายท่านสอบถามเลขบัญชีสำหรับบริจาคกันเข้ามาเยอะ แอดมินขออนุญาตแจ้งไว้ใต้คอมเม้น เป็นบัญชีของคุณแม่โดยตรง ทำให้มีผู้โอนเงินร่วมบริจาคกับคุณแม่น้องการ์ตูนจำนวนมาก พร้อมเขียนข้อความให้กำลังใจคุณแม่ และขอให้น้องการ์ตูนหายไว บางคนก็บอกว่า "เป็นกำลังใจให้คุณแม่ตลอด ช่วยตามกำลังที่พอจะช่วยได้ มาตั้งแต่น้องการ์ตูนยังตัวนิดเดียว"

แต่ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคน แสดงความเห็นในเชิงตั้งคำถาม อย่างเช่น "ถ้าตึงมากทำไมไม่เอาลูกไปเข้า รพ.รัฐ พวกคุณเปิดรับบริจาค มาตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว เหมือนเอาลูกมาหากิน แม่น้องทำผมไฮไลท์ ราคาไม่ใช่น้อยๆ ใส่สร้อยข้อมือทองราคาหนักหลายบาท"

เช่นเดียวกับบางคนที่บอกว่า "ตอนแรก 600,000 บาท ตอนนี้เหลือ 300,000 บาท แล้วหรือค่ะ ที่พวกเราจะยื้อหรือซื้อชีวิตน้องต่อค่ะ ทรมานมั้ยค่ะ แค่ออกความเห็นค่ะ ต้องพันล้านไหมค่ะ ถึงจะหายเป็นปกติ ขอโทษด้วยถ้าข้อความขัดใจคน"

ขณะที่บางคนมองว่า "เข้าใจและเห็นใจ แต่คุณแม่เล่นเข้า รพ.เอกชน ค่ารักษาไม่ได้ถูก ทำประกันตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ถ้ารายรับลดลง ควรเปลี่ยนมาใช้สิทธิรัฐบาล บัตรทอง 30 บาท ไม่ใช่เปิดรับบริจาคจากคนอื่น บางคนที่บริจาคยังไม่มีโอกาสได้เหยียบ รพ.เอกชนเลย"

หลังเพจร้านสเต็กคุณแม่น้องการ์ตูนฯ โพสต์เรื่องบริจาคไป มีผู้แสดงความเห็นจำนวนมาก จนกลายเป็นดรามาในโลกออนไลน์ ล่าสุดเช้าวันนี้ เพจร้านสเต็กคุณแม่น้องการ์ตูนฯ ได้โพสต์ข้อความล่าสุด ระบุว่า "หลังจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ครอบครัวและคุณแม่ของน้องได้ตัดสินใจ "ปล่อยน้องไปอย่างสงบ" เงินทุกบาททุกสตางค์จากพี่ๆ ได้ถูกนำไปใช้เพื่อค่ารักษาส่วนที่ยังคงค้างอยู่ เพื่อให้น้องได้ออกจากโรงพยาบาล...เป็นครั้งสุดท้าย"

"แอดไม่อาจอธิบายความรู้สึกนี้ออกมาได้ทั้งหมด เพราะมันเกินจะบรรยายจริงๆ"

"สุดท้าย ฝากถึงทุกคน ก่อนจะพิมพ์อะไรออกไป อยากให้คิดสักนิด เพราะคอมเม้นต์บางคำ แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันทำร้ายหัวใจแม่คนหนึ่ง ที่พยายามประคองชีวิตอยู่ เพื่อรอลากับลูกเป็นครั้งสุดท้าย และต้องทนทุกข์กับคำพูดที่ไม่สมควรได้รับ จนคิดจะจบชีวิตตามลูกไป"

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านสเต็กแม่น้องการ์ตูน Mother’s Grill Steak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ" ย่านราษฎร์บูรณะ เพื่อสอบถามอาการอาการน้องการ์ตูนล่าสุด และดรามาเรื่องการรับบริจาค คุณแม่น้องการ์ตูน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า 2 สัปดาห์ก่อนอาการน้องทรุดหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล แพทย์แจ้งอาการล่าสุดของน้องการ์ตูนตอนนี้ คือน้องการ์ตูนไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ทางครอบครัวจึงคุยกันว่าปล่อยน้องไปดีมั้ย เพราะน้องเหนื่อยมา 11 ปีแล้ว แต่ตอนนี้รอญาติหลายคนมาดูน้อง

ส่วนเรื่องหาเงินจ่ายค่าโรงพยาบาล แอดมินเพจเป็นคนโพสต์เพื่อขอยืมแฟนเพจ เพราะเคยมีแฟนเพจช่วยเหลือ ไม่ได้ตั้งใจโพสต์รับบริจาค แต่เมื่อมีคนถามเลขบัญชี แอดมินเลยโพสต์เลขบัญชีไป ฝากถึงคนที่ไม่ช่วยน้องก็ไม่เป็นไร แต่อย่าด่ากันก็พอ เพราะตอนนี้กลายเป็นกระแสโจมตีที่รุนแรงและหนักมาก หนักเหมือนตอนน้องโโนรถชนใหม่ๆ จนตัวเองแทบจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ทั้งนี้ คุณแม่การ์ตูนยืนยันว่า ไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากคู่กรณีเลย ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มา 11 ปี

“น้องไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ถ้าจะรักษาน้องต่อไป ที่บ้านต้องมีเครื่องช่วยหายใจ แต่ราคาค่อนข้างสูง ต้องมีคนที่ดูแลเป็นพิเศษโดยเฉพาะ เราก็เลยมาคุยกัน จริงๆ แล้ว ตัวแม่แทบจะรับไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่พอคุณตาคุณยาย เราบอกว่า ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นเขารับไหว ทั้งที่ใจเราก็กลัวพ่อแม่รับไม่ไหว กลายเป็นว่าถ้าน้องเหนื่อยมากเราปล่อยน้องไปไหมลูก”


“น้องสู้มา 11 ปีแล้ว แต่เราต้องหาเงินจ่ายค่ารพ. แอดมินก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เดี๋ยวผมโพสต์เงินแฟนเพจ เราโพสต์ยืมแฟนเพจ เราไม่ได้ขอรับบริจาค ก็มีแฟนเพจมาให้ยืมจริงๆ มันเลยกลายเป็นเรื่องขึ้นมา ทำไมคนต้องมาด่าเรา ทำไมไม่ด่าคนที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ แค่นั้นเอง” แม่น้องการ์ตูน กล่าว...



คุณอาจสนใจ

Related News