สังคม

"อัจฉริยะ" รื้อคดี​แตงโม ไม่สำเร็จ กมธ.กฎหมายฯ​ ชี้ไม่มีหลักฐานใหม่

โดย nutda_t

8 ม.ค. 2568

1.3K views

การประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายกมลศักดิ์​ ลีวาเมาะ​ เป็นประธาน​ มีวาระพิจารณาศึกษาแนวทางการดําเนินการทางกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม กรณีคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม กรณีหากปรากฏพยานหลักฐานใหม่ หลัง นายอัจฉริยะ​ เรืองรัตนพงษ์ ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกรรมาธิการ โดยเชิญบุคคลและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล

นายอัจฉริยะ ได้พูดถึงข้อร้องเรียน ในช่วงแรกของการประชุม ว่าได้ถูกอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกขึ้นไปเรียกไปพบ เมื่อปี 2565 ร่วมกับตำรวจชุดทำคดีแตงโม เพื่อขอไม่ให้ตนทำคดีแตงโม เนื่องจากต้องการให้ตนช่วยคนบนเรือคนหนึ่ง​ แต่ไม่ให้ เพราะมองว่าเป็นการทำลายกระบวนการ ประกอบกับแตงโมเป็นดาราชื่อดัง มันไม่ใช่จะมาลงข้อหาประมาท​ และตามความเชี่ยวชาญของตนเห็นว่าคนที่ตกท้ายเรือ ไม่มีทางโดนใบพัดเรือได้​ ซึ่งได้เรียนอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปถึง ข้อสังเกตดังกล่าว แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะขอ เนื่องจากคนตายไปแล้ว แต่ตนไม่ยอม จากนั้นจึงถูกยัดข้อหามาโดยตลอด รวม 6 คดี แต่ได้ใช้พยานหลักฐานที่ได้พูดคุย จนศาลอาญายกฟ้อง

นายอัจฉริยะ ยังยืนยันว่าการเก็บพยานหลักฐานในคดีแตงโม มีข้อพิรุธหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเก็บเส้นผม จากนั้นนายอัจฉริยะ​ ได้เปิดภาพเส้นผมบาดแผล แสดงต่อกรรมาธิการ เพื่อตอกย้ำว่าแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ น่าจะเกิดจากของมีคม​ และทันทีที่​นายอัจฉริยะ​ เปิดผลทางนิติเวช​ เพื่อบอกว่า​ศพของแตงโม ไม่มีบาดแผลอื่นนอกจากแผลที่ขาขวา​

ทำให้ นายอุดมวิทย์​ อริยสุนทร​ รองอธิบดีอัยการภาค 1 ยกมือทักท้วง ว่าประธานในที่ประชุม แจ้งแล้วว่า เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล แต่หลักฐานที่กำลังเปิดอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล จากนั้น นายอัจฉริยะ ได้อธิบายต่อ ว่าข้อพิรุธในคดีนี้ ยังมีการแก้ไข GPS ของคนบนเรือ ที่ตำรวจแสดงหลักฐานเท็จในงานแถลงข่าว 26 เมษายน 2565 และยังมีการทำหลักฐานเท็จอีกหลายชิ้น จากนั้นประธานในที่ประชุมได้สรุปว่า การหยิบยกเรื่องแตงโม มาหารือในวันนี้ เพราะต้องการรู้ว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ที่จะนำไปสู่การรื้อคดีได้หรือไม่ และหากนำไปสู่การรื้อคดีได้ จะต้องเดินหน้าไปฟ้องหรือส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานใด

นายประยุทธ์​ ศิริพานิช​ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โต้แย้งว่า การที่นายอัจฉริยะ กล่าวหาบุคคลอื่น ว่าผิด แล้วทุจริตไม่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการพิจารณาเรื่องนี้ได้ มันไม่ใช่ประเด็นที่กรรมาธิการอยากรู้ สิ่งที่ต้องการคือมีพยานหลักฐานใหม่อย่างไร นอกเหนือจากสิ่งที่เขากำลังดำเนินการอยู่ แต่ถ้านายอัจฉริยะ ออกมากล่าวหาเช่นนี้ การประชุมต่อไปก็จะเกิดปัญหา คนในที่ประชุมก็จะไม่ได้อะไร ทำงานต่อไปไม่ได้

นายกมลศักดิ์​ ย้ำกับนายอัจฉริยะ ให้พูดข้อเท็จจริง ซึ่งนายอัจฉริยะ ก็ได้ย้ำอีกครั้งว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง และมีการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลอาญาไปแล้ว และตนมองว่าคำร้องของอัยการในคดีแตงโม มีแต่พฤติการณ์และความประมาทของคนบนเรือ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องของบาดแผล ที่ไม่ได้เกิดขึ้น จากใบพัดเรือ ทำไมตำรวจไม่ทำเรื่องนี้ให้ครบถ้วน เมื่อขอให้มีการตรวจเรือใหม่ก็ไม่ยินยอม​ หากโปร่งใสจริงต้องยินยอม และตนสงสัยว่าเหตุใดถึงตั้งข้อหาคนบนเรือว่าร่วมกันประมาท เพราะมันไม่เคยมีในกฎหมายอาญา

นายสุทัศน์​ เงินหมื่น​ ที่ปรึกษากรรมาธิการ ตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการว่า ไม่ควรพิจารณาเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี​ มิฉะนั้นอาจจะถูกตรวจสอบหรือร้องเรียนได้ในภายหลัง ดังนั้น​ วันนี้​ กมธ.ของเรา​ ควรจะฟังความคิดเห็นของผู้ร้อง แต่ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ถูกร้อง มาชี้แจง เพราะอาจจะนำไปสู่ประเด็นการฟ้องร้องในภายหลัง และไม่ควรที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้ว่าใครผิดใครถูก ประธานในที่ประชุมจึงกล่าวย้ำกับนายอัจฉริยะ ว่าขอให้พูดแต่ข้อเท็จจริง และไม่ควรทำให้เสียรูปคดี ส่วนผู้ชี้แจงหากเห็นว่ามีผลต่อรูปคดีก็ไม่ต้องชี้แจง

ทำให้ นายอัจฉริยะ แสดงความไม่พอใจ พร้อมกับกล่าวว่าตนโดนฟ้อง 5 คดี ยังไม่ได้พิพากษา การที่ตำรวจรับฟังฝ่ายเดียวโดยไม่ชี้แจงเหตุผล ตนว่าไม่แฟร์ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะขอ Walk Out ออกจากห้องประชุม ทำให้พันเอกนายแพทย์ธวัชชัย​ กาญจนริทร์​ แพทย์ผู้ส่งคุณวุฒิด้านนิติเวชศาสตร์ และประธานในที่ประชุม ได้ห้ามไว้ ขอให้เราฟังข้อมูลจากฝ่ายผู้มาชี้แจงก่อน

นายอุดมวิทย์​ ได้ชี้แจงว่าคดีนี้ พวกตนไม่เกี่ยวข้อง และวันที่ 29 มกราคมนี้ จะมีการสอบพยานปากสุดท้าย และพิจารณาตัดสินคดีนี้แล้ว แต่สิ่งที่อยากจะพูดกับนายอัจฉริยะ คือในคดีหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน ขออย่าเพิ่งหลุดประเด็น แม้ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องแล้ว แต่ถ้าเกิดการอุทธรณ์ แล้วศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา​ อย่าลืมคดีนี้​ มันสามารถสู้ถึงศาลฎีกาได้​

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเปิดให้สื่อมวลชนสังเกตการณ์และฟังการประชุมระยะหนึ่ง ได้เชิญสื่อมวลชนออก และประชุมต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายกมลศักดิ์ จะแถลงว่า เนื่องจากคดีของดาราสาวแตงโม อยู่ในการพิจารณาของศาล กรรมาธิการไม่มีอำนาจไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม การสืบพยาน จึงพยายามสอบถามว่าพยานหลักฐานใหม่ที่อ้างว่าไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนคดีคืออะไร ซึ่งนายอัจฉริยะ ได้หยิบยกสำนวนคดีที่ถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท มาอ้างอิง ขณะที่ พันเอกนายแพทย์ธวัชชัย ได้แสดงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อชี้ให้เห็นถึงพิรุธ ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมาจากใบพัดเรือ แต่หลักฐานที่นำมาเปิดเผยต่อที่ประชุมส่วนใหญ่เป็นหลักฐานที่เคยเปิดเผยที่อื่นมาแล้ว และเป็นข่าวไปแล้ว ไม่มีพยานหลักฐานใหม่ที่มาเปิดที่นี่เป็นครั้งแรก ซึ่งนายอัจฉริยะ จึงได้ทำหนังสือถึงอัยการจังหวัดนนทบุรีอัยการภาคหนึ่ง และอัยการสูงสุด เพื่อขอแก้ไขคำฟ้องก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำวินิจฉัย โดยรองอัยการภาคหนึ่ง ได้แจ้งต่อที่ประชุมกรรมาธิการ ว่าหนังสือดังกล่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐาน ก็ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของอัยการ หากเห็นว่าหลักฐานที่ส่งมาไม่ปรากฏอยู่ในสำนวน สมควรที่จะแก้ไขคำร้อง ก็สามารถแก้ไขคำฟ้องได้

ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะ ยังได้ส่งหนังสือไปถึงกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทราบว่าในวันที่ 16 มกราคมนี้ จะมีการจำลองเหตุการณ์ และดีเอสไอ จะไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย

นายกมลศักดิ์ ยืนยันว่า คณะกรรมาธิการจะไม่ไปก้าวล่วง สำนวนคดีการประมาทที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี แต่หลังจากนี้จะติดตามว่าพยานหลักฐานใหม่จะดำเนินการอย่างไร

คุณอาจสนใจ

Related News