แจ้ง 2 ข้อหา 7 ตำรวจ รุมทำร้ายลูกอดีตตำรวจสาหัส พร้อมส่งเรื่องให้ บก.จร. คาดโทษทางวินัย

(7 ธ.ค.) ความคืบหน้าคดีตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร 7 นาย รุมทำร้ายลูกอดีตตำรวจเจ็บสาหัส หลังขับรถยนต์มาสด้า 2 สีแดง เข้าด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนที่มีรถยนต์ลักษณะคล้ายกับรถผู้บาดเจ็บ ขับรถแหกด่านเดียวกัน ตำรวจจึงขับรถตามสกัด แต่ปรากฏว่าตามสกัดรถผิดคัน ก่อนจะนำตัวผู้บาดเจ็บลงจากรถ และรุมทำร้ายตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิด



ล่าสุดวันนี้น้องสาวผู้บาดเจ็บให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเองยังไม่ได้รับการประสานจากตำรวจให้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ได้รับแจ้งว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. พันตำรวจตรีกันตพัฒน์ ประเศรษฐสุด สว.(สอบสวน) สน.บางเขน จะเดินทางเข้ามาสอบปากคำพี่ชายที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดีเพิ่มเติม เพื่อนำคำให้การและรายละเอียดทั้งหมดมารวบรวมสรุปในสำนวนคดี ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับตำรวจทั้ง 7 นาย



ขณะที่ในวันนี้มีกระแสข่าวว่าคนขับรถมาสด้า 2 สีแดง ที่ขับแหกด่านตรวจ และเป็นรถต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นชายอายุ 37 ปี ประกอบอาชีพอยู่ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง และเคยได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติปรากฏออกตามสื่อ จะติดต่อประสานเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องของวันและเวลาที่แน่นอน ซึ่งเบื้องต้นมีข้อมูลว่าชายคนขับรถติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัด อาจจะขอเลื่อนเข้ามาพบพนักงานสอบสวน



ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม พันตำรวจเอกอนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ยืนยันว่าได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ 7 ตำรวจไปเบื้องต้นแล้ว รวม 2 ข้อหา คือร่วมกันทำร้ายร่างกาย และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นการแจ้งเบื้องต้น เพื่อที่จะได้นำผลทางคดีไปตั้งเรื่องดำเนินการทางวินัย โดยตอนนี้ได้มีการทำหนังสือส่งไปยังต้นสังกัด คือ กองบังคับการตำรวจจราจร ในการพิจารณาโทษทางวินัยแล้ว



ส่วนสำนวนคดีนี้จะต้องมีการสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมก่อน เพราะตอนนี้ผู้บาดเจ็บยังไม่สามารถให้การได้เต็มที่ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งหากสอบปากคำผู้บาดเจ็บแล้ว ภายหลังพบความผิดใดเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการแจ้งเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ ตำรวจทั้ง 7 นายยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งก็เป็นสิทธิในการให้การ แต่พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน



สำหรับ เจ้าของรถมาสด้าสีแดงที่เป็นคนขับรถแหกด่าน พันตำรวจเอกอนันต์ยืนยันว่า จะยังไม่ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ โดยได้นัดหมายอีกครั้งเป็นวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. 67