สังคม

'สามารถ' ลั่นผ่านทนาย จะอดอาหารจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ฝากกำชับแม่ อย่าออกสื่อเยอะ

โดย passamon_a

28 พ.ย. 2567

9 views

สามารถ ลั่นผ่านทนาย จะอดอาหารจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม และได้รับการประกันตัว พร้อมพลีชีพในเรือนจำเพื่อความยุติธรรมของไทย ฝากกำชับถึงแม่ว่า อย่าออกสื่อเยอะ


เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 เวลา 12.20 น. ว่าที่ ร.ต.นฤพล เรืองสังข์ ทนายความของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช นักการเมืองและผู้ต้องในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสบคบกันฟอกเงิน เดินทางมาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อมาเยี่ยมนายสามารถ โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จะออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากเข้าเยี่ยมเสร็จเรียบร้อย


หลังใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เวลา 14.38 น. ว่าที่ ร.ต.นฤพล ได้เยี่ยมนายสามารถแล้วเสร็จ ก่อนจะเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า นายสามารถยืนยันว่าจะอดน้ำอดอาหารประท้วงจริง จนกว่าตัวเองและหลาย ๆ คนในเรือนจำจะได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งจนกว่าตนเองจะได้รับการประกันตัว โดยนายสามารถได้อดอาหารเมื่อ 3 วันก่อน ตั้งแต่ทราบว่า ถูกออกหมายจับ และถูกตำรวจรวบตัวได้ที่ จ.เชียงราย


ซึ่งจากการเข้าไปเยี่ยมนายสามารถ พบว่า ตัวนายสามารถมีอาการปากซีด มีอาการเครียด แต่ยังคงพูดได้และตั้งใจที่จะต่อสู้คดีต่อไป โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลอย่างใกล้ชิด แม้ตัวนายสามารถจะมีโรคประจำตัวคือโรคตับอ่อนและความดัน ซึ่งทางทนายความก็พยายามบอกนายสามารถว่า ขอให้กินน้ำกินอาหาร อย่าทำแบบนี้ แต่นายสามารถบอกว่า ตนเองรักความยุติธรรม หากจะเสียในชีวิตในเรือนจำ ก็เป็นการเสียชีวิตเพื่ออุทิศให้แก่ความยุติธรรมของประเทศไทย


สำหรับสาเหตุที่นำมาสู่การอดอาหารประท้วงนั้น เนื่องจากนายสามารถยังไม่ได้รับการประกันตัวในระหว่างฝากขัง และในทางคดีฝั่ง DSI ยังเหลือการสอบพยานอย่างน้อยอีก 30 ปาก รวมทั้งข้อหาความผิดมูลฐานฟอกเงินนั้นยังไม่มีความชัดเจน แต่กลับถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงิน เลยทำให้นายสามารถมองว่า ตนเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การอดอาหารดังกล่าวเป็นการจงใจทำร้ายตัวเองเพื่อจะได้ออกมาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ทนายความกล่าวว่าไม่ใช่ ไม่ได้เป็นเหตุข้ออ้างเพื่อจะออกมาที่โรงพยาบาล


นอกจากนี้ อีกประเด็นที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม ก็คือเรื่องของกระบวนการของพนักงานสอบสวนที่ไม่มีการออกหมายเรียก ทั้งนายสามารถและแม่ ไปให้ปากคำชี้แจงเส้นทางการเงิน แต่สุดท้ายกลับออกหมายจับ ทั้ง ๆ ที่ตัวบอสพอลได้ออกคำชี้แจงแล้วว่า ไม่มีคลิปเสียงที่มีการเรียกรับผลประโยชน์และเส้นทางการเงินต่าง ๆ บอสพอลก็มีเอกสารรับรองยืนยันทั้งหมด อีกทั้งนายสามารถยังมองว่า ตอนแรกมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องตบทรัพย์ แต่สุดท้ายก็มากล่าวหาว่าเป็นการฟอกเงิน ซึ่งถือว่าย้อนแย้ง จึงยืนยันว่า การแจ้งข้อกล่าวหาว่าฟอกเงินไม่สมเหตุสมผล เพราะความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน


สำหรับประเด็นที่มีการพูดคุยกัน ในเมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแนวทางการยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งไม่ให้ประกันตัวของศาลอาญา ซึ่งได้ดำเนินการในส่วนคำร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ในส่วนของนายสามารถที่จะเขียนเหตุผลแนบท้ายคำร้อง ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถมารับเอกสารจากนายสามารถ และนำไปยื่นอุทธรณ์ที่ศาลได้ภายในวันนี้ (28 พ.ย.67)


โดยเหตุผลในการยื่นอุทธรณ์หลัก ๆ คือ จะแสดงให้เห็นว่านายสามารถเข้ามามอบตัวกับตำรวจ จ.เชียงราย หลังทราบว่าถูกออกหมายจับ ไม่ได้เป็นไปตามคำร้องขอฝากขังที่กล่าวว่านายสามารถถูกตำรวจจับกุม จึงเห็นได้ว่านายสามารถไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและการที่ระบุในคำร้องขอฝากขัง ว่านายสามารถถูกจับกุมนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งถ้าหากศาลไม่รับคำอุทธรณ์ ก็จะดำเนินการยื่นประกันตัวในครั้งถัดไป


ส่วนกรณีที่นายสามารถออกมาพูดว่า "อยากจะพูด แต่พูดไม่ได้" ทนายความระบุว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับทางคดีที่นายสามารถยังยืนยันว่า ทำไมถึงตั้งข้อหาฟอกเงิน ทั้ง ๆ ที่ความผิดมูลฐานยังไม่มีความชัดเจน


ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่า ประโยคดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือนักการเมืองระดับสูงหรือไม่ ทนายความระบุว่า ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนที่แม่นายสามารถระบุว่าเป็นเรื่องการกลั่นแกล้งทางการเมืองนั้น ตนยังไม่เห็นข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่แม่นายสามารถได้ยื่นจดหมายน้อยให้กับผู้สื่อข่าว นายสามารถมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ทนายความระบุว่า นายสามารถไม่รู้เรื่องดังกล่าว ส่วนตัวได้สอบถามคุณแม่นายสามารถว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคุณแม่ระบุว่า ที่ทำลงไปเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังยืนยันว่า เส้นเงินจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 แล้ว และทำไมถึงไม่มีการออกหมายเรียกไปให้ปากคำก่อนที่จะถูกออกหมายจับ ซึ่งจดหมายดังกล่าวนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่มีผลต่อรูปคดี เพราะคุณแม่นายสามารถได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน DSI ไปหมดแล้ว


ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวถูกเขียนขึ้นในห้องควบคุมตัวหลังจากที่แม่นายสามารถสอบปากคำแล้วเสร็จ แต่แม่นายสามารถจะเอาปากกาและกระดาษบันทึกคำร้องฝากขังฉบับดังกล่าวมาเขียนได้อย่างไร ตนไม่ทราบและไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนั้น


สำหรับประเด็นที่ ทำไมต้องนำทนายวิฑูรย์ ซึ่งเป็นทนายความของบอสพอลมาเป็นพยานในการไต่สวนการประกันตัวของนายสามารถ ทนายความกล่าวว่า เป็นเพราะตนเองมีความรู้จักกับทนายวิฑูรย์อยู่แล้วและมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางคดีกันปกติ รวมทั้งทนายวิฑูรย์เป็นผู้รู้เกี่ยวกับจดหมายจากบอสพอลเพื่อยืนยันเกี่ยวกับตัวนายสามารถในเรื่องเส้นทางการเงินและเรื่องคลิปเสียง จึงได้เตรียมนำทนายวิฑูรย์มาเพื่อเบิกเป็นพยานหากศาลเปิดการไต่สวนการประกันตัว


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงแนวทางการทำคำให้การเป็นหนังสือส่งให้กับทางพนักงานสอบสวน ทนายความเผยว่า จะดำเนินการภายหลังจากยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวนายสามารถ แต่จริง ๆ แล้วตนได้บอกกับทาง DSI ว่าจะทำหนังสือภายใน 30 วัน แม้ทาง DSI จะให้เวลาเพียงแค่ 15 วัน แต่ถ้ามองว่าไม่ทันก็จะทำหนังสือขยายเวลาออกไป


โดยทนายความเปิดเผยอีกว่า เส้นทางการเงินที่ทาง DSI ดำเนินคดี คือ ก้อน 2.5 ล้านบาท ซึ่งต้องอธิบายว่า แม่นายสามารถได้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาท มีที่มาจากบอสพอลจำนวน 2 ล้านบาท และบอสปีเตอร์อีก 500,000 บาท โดยเป้าหมายของเงินแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือเงินที่คุณแม่นายสามารถขอยืมจากบอสพอลจำนวนทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาท ซึ่งภายหลังคุณแม่ได้โอนเงิน 1.7 ล้านบาท เข้าบัญชีนายสามารถเพื่อเป็นการชำระหนี้แก่บอสพอล ส่วนนายสามารถจะนำเงิน 1.7 ล้านบาทไปให้บอสพอลด้วยวิธีการใด ตรงนี้ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นเส้นทางการเงินที่โอนผ่านบัญชี และก้อนที่เหลืออีก 800,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้รวมเงินจากบอสปีเตอร์ด้วย 500,000 บาทนั้น คือเงินทำบุญทั้งหมด


ส่วนที่ DSI ตั้งประเด็นว่า จะสอบสวนเส้นทางการเงินจำนวน 100 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของแม่นายสามารถและนายสามารถนั้น ทนายความเผยว่า ก็จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนเส้นเงินดังกล่าวและยืนยันว่า เงิน 100 ล้านบาทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้และไม่ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีในเงินก้อนนี้ แต่ที่มาของเงินจำนวน 100 ล้านบาทมาจากไหน ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับลูกความ


ทนายความบอกอีกว่า นายสามารถฝากกราบขอโทษและขอขมาไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้มีการล่วงเกินไปก่อนหน้านี้ และฝากความเป็นห่วงเป็นใยถึงแม่ ขอให้รักษาสุขภาพรักษาตัวเองให้ดี พักผ่อนเยอะ ๆ กำชับว่าแม่อย่าออกสื่อเยอะ กลัวแม่จะเครียด ส่วนฝั่งคุณแม่นายสามารถเอง ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาเยี่ยมในวันนี้ แต่เนื่องจากนายสามารถยังติดแดนกักโรค ยังไม่สามารถเยี่ยมได้ แต่แม่นายสามารถก็ฝากความเป็นห่วงเป็นใยว่า อย่าอดอาหารเลย จะได้มีแรงในการต่อสู้คดี


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MtC4qNHw_8E

คุณอาจสนใจ

Related News