สังคม

พบพิรุธเอกสาร "แม่สามารถ" กู้ยืมเงิน-ทำบุญ จาก "บอสพอล" อาจเข้าข่ายเป็นเอกสารเท็จ

โดย nutda_t

28 พ.ย. 2567

308 views

ผู้สื่อข่าวช่อง 3 รายงานถึงประเด็นข้อสงสัยการทำพยานเอกสารเท็จในคดีฟอกเงินของนายสามารถ สืบเนื่องจากมีรายงานข่าวจากคณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI คดีพิเศษที่ 115/2567 หรือคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินของบริษัท The Icon Group ที่นำมาสู่การตั้งข้อหาดำเนินคดีกับนายสามารถ และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ ระบุว่า จากการนำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหรูของนายสามารถ ย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบเอกสารขอให้ยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลการโอนเงินให้กับแม่นายสามารถ ระบุวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จัดทำขึ้นโดยทนายรายหนึ่ง อ้างว่าทำขึ้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและลงนามเอกสารโดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล The Icon


ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีรายละเอียดว่า การรับโอนเงินรวม 2,200,000 บาท รวม 12 ครั้ง เป็นการกู้ยืมเงินและนายสามารถ ชำระคืนเป็นเงินสดแล้ว บางรายการแจ้งว่าเป็นเงินที่ฝากไปทำบุญ บางรายการแจ้งว่าเป็นการกู้ยืมเงิน บางรายการทำบุญทอดกฐิน แถมมีหนังสือเอกสารระบุขอบคุณแม่ของนายสามารถที่ได้กู้ยืมเงินและได้คืนหมดแล้ว


ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากคณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI คดีพิเศษที่ 115/2567 หรือคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินของบริษัท The Icon Group ที่นำมาสู่การตั้งข้อหาดำเนินคดีกับนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ


โดยจากการนำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหรูของนายสามารถ ย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบเอกสารขอให้ยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลการโอนเงินให้กับแม่นายสามารถ ระบุวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จัดทำขึ้นโดยทนายรายหนึ่ง อ้างว่าทำขึ้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และลงนามเอกสารโดย นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล The Icon

ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีรายละเอียดว่า การรับโอนเงินรวม 2,200,000 บาท รวม 12 ครั้ง เป็นการกู้ยืมเงินและนายสามารถ ชำระคืนเป็นเงินสดแล้ว บางรายการแจ้งว่าเป็นเงินที่ฝากไปทำบุญ บางรายการแจ้งว่าเป็นการกู้ยืมเงิน บางรายการทำบุญทอดกฐิน แถมมีหนังสือเอกสารระบุขอบคุณแม่ของนายสามารถ ที่ได้กู้ยืมเงินและได้คืนหมดแล้ว

ทั้งนี้มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า คณะพนักงานสอบสวนพบข้อพิรุธหลายประการที่ปรากฏในเอกสารดังกล่าว ว่าอาจจะเข้าข่ายเป็นเอกสารเท็จ เช่น

1. การยืมเงินเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีมาโดยตลอดทุก ๆ ครั้ง แต่ทำไมการคืนเงิน บอสพอลจึงรับว่าได้รับเงินคืนเป็นเงินสดครบถ้วน ซึ่งไม่ใช่ปกติของวิญญูชนทั่วไป

2. การทำบุญซึ่งเป็นหลักแสนบาท ย่อมต้องมีใบอนุโมทนาบัตร เป็นธรรมดาที่ต้องใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้ ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ถ้าเงินทำบุญไปถึงวัดใดแล้ว ย่อมจะเป็นพยานหลักฐานในการมัดตัวให้แน่นหนาขึ้นว่า วัดนั้นต้องมีสำเนาใบอนุโมทนาบัตรและสามารถตรวจสอบเงินทำบุญได้

3. เอกสารดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยบุคคลที่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย น่าจะเข้าข่ายพยายามหาช่องทางในการช่วยซ่อนเร้นความจริงที่เกิดขึ้นจากการกระทำความผิด โดยมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิดไว้เป็นการล่วงหน้า มีการติ๊กเครื่องหมายให้บอสพอล ลงชื่อในจุดต่าง ๆ ที่ต้องการ ซึ่งย่อมไม่ใช่เอกสารที่แสดงเจตจำนงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่น่าจะเป็นเรื่องของบุคคลดังกล่าวต้องการช่วยเหลือลูกความไม่ให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง อันไม่ใช่หน้าที่ของทนาย

นอกจากนี้ในเอกสารดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนยังเชื่อว่า มิใช่เอกสารของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล The Icon เป็นผู้จัดทำขึ้น แต่อาจเป็นเอกสารที่บุคคลและคณะบุคคลร่วมกันในการจัดทำขึ้นอันเป็นเท็จ เพื่อจะช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือผู้ต้องหาที่กระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 189 แห่งประมวลกฎหมายอาญาและผิดจรรยาบรรณทนายความ

อย่างไรก็ตาม คณะพนักงานสอบสวน จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งอาจจะมีพฤติการณ์คล้ายกับกรณีคดีแอม ไซยาไนด์ ที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกทนายความในคดีถึง 2 ปี ก็เป็นได้

คุณอาจสนใจ

Related News